TOP 10 อิโมจิญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกแบบ “คุณลุง” มากที่สุด
เพื่อน ๆ ทุกคนเคยเห็นอิโมติคอนแสดงอารมณ์แบบญี่ปุ่นไหมคะ ไม่ว่าจะแบบนี้ (⌒▽⌒) แบบนี้ (>人<;) หรือแบบนี้ (*´ω`*) ดูน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะคะ ตัวอักษรเหล่านี้ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 顔文字 (Kaomoji) ใช้ในการแสดงอารมณ์ได้หลากหลายแบบในเวลาที่พิมพ์ข้อความ เป็นที่นิยมกันมากในหมู่สาว ๆ วัยรุ่นญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบัน มีการใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งมีอิโมติคอนน่ารัก ๆ ติดเครื่องมาด้วยอยู่แล้ว การใช้อิโมติคอนแบบญี่ปุ่นก็เริ่มลดน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะหายไปเลย คือยังมีการใช้กันอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อก่อน
ทางแอปพลิเคชัน Simeji จึงได้จัดอันดับจากการสำรวจสาว ๆ วัย teen จำนวน 4,140 คนว่าตัวอิโมจิตัวไหนที่ดู เก่า แก่ หรือให้ความรู้สึกแบบ “คุณลุง” มากที่สุด ซึ่งจัดออกมาเป็น 10 อันดับ ดังนี้ค่ะ
อันดับ 10 (>_<)
(>_<) ให้ความหมายประมาณว่า “ไม่น้าา” โดยจริง ๆ แล้วเป็นอิโมจิที่บ่งบอกสภาพว่ากำลังแย่ แต่ส่วนใหญ่มันมักจะถูกใช้ในความหมายในเชิงโอ้อวดตัวเอง
ตัวอย่างประโยค : วันนี้มีประชุมตั้ง 5 เรื่องแหนะ (>_<)
อันดับ 9 m(_ _)m
m(_ _)m หมายถึงการขอโทษ เป็นตัวอิโมจิที่คล้ายกับการก้มหัวลงมา แต่ถึงแม้มันจะหมายถึงการขอโทษ แต่ตัวนี้กลับไม่ค่อยมี power เท่าไหร่ จึงไม่ควรใช้ในเวลาที่อยากจะขอโทษจริง ๆ
ตัวอย่างประโยค : นี่ฉันปลุกเธอรึเปล่า ขอโทษนะ m(_ _)m
อันดับ 8 (^o^)
(^o^) ตามตัวคือเป็นการยิ้ม แต่การใช้อิโมจิตัวนี้อาจจะทำให้คนอื่นสงสัยว่า สิ่งที่เราพิมพ์ไปนั้นเป็นความรู้สึกที่แท้จริงหรือเปล่า
ตัวอย่างประโยค : ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอก (^o^)
อันดับ 7 \(^o^)/
\(^o^)/ เป็นตัวอิโมจิที่ใช้กันมาอย่างต่อเนื่องราว 20 ปีแล้ว มีความหมายประมาณว่า “เย่” หรือ “วู้ฮู้” แสดงถึงอาการดีใจอย่างสุด ๆ
ตัวอย่างประโยค : เอโกะจังตอบกลับมาด้วยล่ะ \(^o^)/
อันดับ 6 (´・ω・`)
(´・ω・`) อิโมจิหน้าหงอยที่หลาย ๆ คนใช้กันมานาน เป็นตัวที่ดูหน้าตาน่ารักก็จริง แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่ได้ดูน่ารักขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับบริบทในการใช้
ตัวอย่างประโยค : ฉันทำให้เธอรู้สึกแย่รึเปล่า (´・ω・`)
อันดับ 5 (*^_^*)
(*^_^*) มีความหมายเหมือนกับอันดับ 8 คือเป็นการยิ้มเหมือนกัน แต่สำหรับเหล่าวัยรุ่น ดอกจันบริเวณตาทั้ง 2 ข้างนั้นมันช่างดูคล้ายกับรอยตีนกาเสียเหลือเกิน
ตัวอย่างประโยค : เมื่อวานเงินเดือนออกแล้ว (*^_^*)
อันดับ 4 Σ( ̄。 ̄ノ)ノ
Σ( ̄。 ̄ノ)ノ เป็นอิโมติคอนที่แสดงถึงอาการตกใจ แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนแกล้งไม่รู้ แกล้งโง่ ทำตัวเปิ่น ๆ
ตัวอย่างประโยค : ห้ะ ? เอจังเรียนสายวิทย์เหรอ ? Σ( ̄。 ̄ノ)ノ
อันดับ 3 (^_^;)
(^_^;) สื่อถึงความถ่อมตัว แต่พอนำมาใช้แล้วกลับมีความหมายที่ดูเหมือนน่ายกย่อง ตัว (^^;) ก็เช่นกัน
ตัวอย่างประโยค : ผมหรอ ? ยังไม่มีแฟนเลยครับ (^_^;)
อันดับ 2 (^_−)−☆
(^_−)−☆ เป็นอิโมจิที่แสดงอาการขยิบตาข้างเดียวหรือการวิ้งค์ เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในการบอกว่าเราสนใจหรือรู้สึกชอบอีกฝ่ายอยู่ เรียกว่าค่อนข้างรุกเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ค่อยดีก็เป็นได้
ตัวอย่างประโยค : ตั้งใจเรียนนะ (^_−)−☆
อันดับ 1 ヽ( ̄д ̄;)ノ=3=3=3
ヽ( ̄д ̄;)ノ=3=3=3 อิโมจิตัวนี้แสดงถึงอาการรีบเร่งหรือวิ่งอ้าว ภาษาญี่ปุ่นคือ sutakora ซึ่งถ้าพูดถึงคำนี้ก็จะนึกถึงเพลง Mori no Kuma san ซึ่งเป็นเพลงเด็กที่มีมานานถึง 46 ปีแล้ว แต่อิโมจิตัวนี้ก็เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันว่าควรใช้ในบริบทแบบไหนกันแน่
ตัวอย่างประโยค : โทษที โทษที ทำให้รู้สึกขุ่นเคืองรึเปล่า ヽ( ̄д ̄;)ノ=3=3=3
การจัดอันดับอิโมจิเหล่านี้ก็มีผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนก็คร่ำครวญว่า “นี่ยังใช้อยู่เลย” “กลายเป็นคุณลุงซะแล้ว” อีกด้านหนึ่ง คนที่เลิกใช้ไปแล้วต่างก็พูดว่า “คิดถึงจังเลย” “แต่ก่อนใช้บ่อยมาก” เรียกว่าการจัดอันดับครั้งนี้คงจะโดนใจใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าจะเคยใช้ หรือยังใช้อยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ความรู้สึกแบบคุณลุงเสมอไป ความนิยมล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเชยหรือล้าสมัยแล้ว แต่ไม่แน่ในอนาคต อาจจะกลับฮิตกันอีกครั้งก็ได้ใครจะไปรู้ ^^