ความ “น้อง พี่ ที่รัก” : ปัญหาคาราคาซังที่ทำลายความสัมพันธ์มานักต่อนัก
ความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นช่างเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเหลือคณา ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจคิดไม่เหมือนกันทั้งหมด อีกทั้งสิ่งเย้ายวนใจเพียงเล็กน้อยก็สามารถเป็นชนวนจุดเล็กที่ลุกลามพาดพาไปเป็นเรื่องใหญ่ได้ไม่ยากนัก และมีคู่รักหลายคู่แล้วทั้งดาราและคนทั่วไปที่ความรักพังลงเพราะ มือที่สาม โดยเฉพาะกับเหล่าดาราคนดังที่ยิ่งในยุคนี้สมัยนี้ที่มี ชาวเน็ต ที่เป็นโคนันแห่งโลกออนไลน์คอยทำหน้าที่สืบเสาะข้อมูลที่เก่งอย่างน่าทึ่ง
คนเขาดูออก
ประเด็นหลักที่มัดรวมในบทความฉบับนี้ คือเรื่องของการสนิทสนมกับ คนอื่น มากเกินไปทั้งที่มีคนรักอยู่แล้วจนดูเป็นเรื่องไม่เหมาะสมในสายตาของสังคม โดยข้ออ้างของการพาให้หยุดคิดต่อคือ “บ้าน่าก็แค่พี่น้องกัน ไม่มีอะไร” (ทู้กกกกที) ซึ่งแน่นอนถ้าตัวของผู้พูดบริสุทธิ์ใจจริงก็คงต้องเป็นตามนั้น แต่ควรปรับแก้ความสนิทสนมนั้นลงนิดนึงเพื่อความสบายใจของคนของคุณเองจะดีที่สุด
สำหรับคนที่ 3 ของความสัมพันธ์ ถ้ามาสนิทด้วยกับแค่ใครคนใดคนหนึ่งแล้ว อันนี้ถือว่ามีมูล มูลว่ารายที่สามนี้แหละที่คิดเกินกว่าคนสนิทกันอยู่ลึก ๆ ในใจ ส่วนใหญ่เรื่องในทำนองนี้จะเกิดขึ้นในทำนองว่า ในคู่รักหนึ่งนั้นฝ่ายชายมีคนสนิทเกินงามเข้ามาเอี่ยว ซึ่งเรื่องแบบนี้ยอมรับเลยว่า เซนส์ของผู้หญิงแม่นยำไม่เบา พวกเธอสามารถดูออกโดยไม่ต้องสืบเลยว่ารายที่สามนั้นมาไม้ไหน ใสซื่อหรือสงครามเย็นมองปราดเดียวก็เก็ทแล้ว (แม้แต่ไสยศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถอธิบายความสามารถนี้ได้)
อันที่จริงไม่ว่าใครก็มองออกนั่นแหละไม่ใช่แค่เพศหญิงหรอก เพียงแต่เรื่องทำนองนี้มักเกิดเพราะฝ่ายชายมีคนมาสนิทสนมด้วยก็เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องมีความรู้สึกในแง่ลบอยู่แล้วในกรณีแบบนี้ และยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงด้วยแล้วต่อให้ไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกันมาก่อนเรื่องนี้สามารถทำให้เกลียดกันเข้าไส้ได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
มีซีนในทุกจังหวะ
ทุกการกระทำมีจังหวะของมันกำกับอยู่เสมอ ในกรณีที่รายที่สามคิดไม่ซื่อคือในความสนิทสนมนั้นมีความหวังเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ และหากเป็นเช่นนี้รับรองว่าดูออกได้ไม่ยาก เพราะความหวังเล็ก ๆ นั้นจะคอยกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการกระทำที่เกินงาม หรือที่ศัพท์สมัยนี้เรียกว่า ออกตัว นั่นเอง
เพราะความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ การพยายามมีซีนแสดงตัวมากขึ้น จนเป็นกลิ่นตุไปเตะจมูกคนรอบข้างก็เป็นหนึ่งแผนการของการพยายามสร้างความร้าวฉานในแบบฉบับของ ฉันอยากได้ แบบหน้ามืดตามัวไม่สนศีลธรรมถูกผิดที่เคยยึดเหนี่ยว
และลองคิดดูว่าถ้ามันไม่เกิดซัมติงหรือไม่มีอะไรในกอไผ่รายที่สามก็คงไม่กล้าออกตัวมากมายอย่างแน่นอน นั่นยิ่งทำให้พิรุธมีกลิ่นแรงมากยิ่งขึ้น การสังเกตการออกตัวแรงสร้างพื้นที่ของตัวเองของรายที่สามก็สามารถบ่งบอกได้ว่าระหว่างทั้งคู่ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว เพราะถ้าเป็นการปรบมือข้างเดียวก็คงไม่กล้าออกตัวแรงอย่างแน่นอน เพราะสุดท้ายแล้วมันเสี่ยงต่อการเป็นหมาหัวเน่า ถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย
“น้อง พี่ ที่รัก” ความน้องที่สนิท พี่ที่ทำงาน คนรู้จัก อะไรเทือกนี้สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับความรักมาก็หลายคู่แล้ว สังเกตจากดาราเอาก็ได้ ตัวอย่างมีให้เห็นเป็นช่วง ๆ ส่งไม้ต่อรวดเร็วแบบ 4×100 เลยทีเดียว อาจเพราะความเห่อของใหม่ที่มีอยู่ในตัวตนของเราทุกคนเองด้วยที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นยอดให้กับความล่มสลายของความรักที่มั่นคง สำหรับเรื่องของคนอื่นเราอาจตัดสินใจแทนได้ง่ายแต่ไม่มีใครจะรู้ซึ้งได้ดีเท่าตอนที่เจอกับตัวเองจัง ๆ แน่นอน เอาเป็นว่าหากคุณตกอยู่ในที่นั่งลำบากเช่นนี้การโชว์ความบริสุทธิ์ใจคือสิ่งที่ต้องทำหากไม่คิดอะไร ควรรักษาระยะห่าง เพื่อความสบายใจของคนที่คุณรักและความรักที่มั่นคง