ห้องสมุดจ๋า หนูอยากได้… ฟังเสียงจากทางบ้าน อยากให้ห้องสมุดมีอะไรบ้าง?

เราเห็นคนถกเถียงกันมากมายเลยกับเรื่องห้องสมุดหลาย ๆ แห่งที่มีคนออกความคิดเห็นว่าอยากได้โน่นนั่นนี่ อยากให้เปิดนานกว่านี้หน่อย อยากให้ไปง่ายกว่านี้หน่อย อยากให้มีจุ๊กจิ๊ก บลา ๆ เราเลยอยากรวบรวมเสียงบ่นจากทางบ้านถึงช่องทางการอ่านหนังสือว่ามันน้อยนิดเหลือเกิน แล้วเราอยากให้มีอะไรบ้างในห้องสมุดแล้วน่าจะดึงคนไปใช้บริการได้เยอะขึ้น

อยากให้ห้องสมุดเปิด 24 ชั่วโมงเหมือนห้างฯหรือร้านกาแฟบ้าง

ถึงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเรื่องบุคลากร งบประมาณ ความคุ้มค่าหากลงทุนไปแล้ว แต่นั่นก็เป็นอีกข้อเสนอหนึ่งที่เราคิดว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการอ่านหนังสือในคลังหนังสือแห่งใหญ่ อยากอ่านอะไรก็มีให้อ่าน แถมอ่านได้ตลอดเวลาไม่ต้องรีบรนเวลาห้องสมุดจะปิด

อาจจะเป็นการเปิดแค่บางโซน หรือไม่ก็ยืดเวลาให้หน่อย เพราะบางที่ 6 โมงเย็นก็ปิดแล้ว

เราก็อยากได้ห้องสมุดที่เดินทางง่าย ๆ เหมือนกันนะ

ความสะดวกในการเดินทางแทบเป็นปัจจัยหลักที่เราจะเลือกไปที่ไหนซักที่ เพราะถึงจะดีแค่ไหนแต่ถ้าเดินทางไม่สะดวกก็บ้ายบายได้เหมือนกัน ห้องสมุดเป็นอีกที่ที่ไม่ค่อยติดกับรถไฟฟ้า หรือที่เดินทางสะดวก ๆ หรือมีที่จอดรถพอซัพพอร์ทคนไปใช้บริการ

มีห้อง Meeting ก็จะดีมาก ๆ เลยนะ

หลายคนอาจจะต้องการอ่านหนังสือกับเพื่อนแบบที่แชร์ความรู้กัน เธอเจออันนั้น ส่วนฉันเจออันนี้ รวมหลายสมองก็จะได้ข้อมูลที่เยอะขึ้น หรือต้องการทำงานกลุ่มด้วยกัน แต่ในห้องสมุดที่ต้องการความเงียบสงบแบบมาก ๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์และทำให้คนหันไปหาร้านกาแฟหรือ Co-Working Space แทน การมีห้องอ่านหนังสือแบบส่วนตัว หรือเป็นห้องแบบ Meeting ที่เก็บเสียงนิดหนึ่ง ก็จะช่วยดึงคนไปใช้บริการได้ไม่น้อยเลย

บางคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปอ่านหนังสือนอกบ้าน อ่านในบ้านไม่รู้เรื่องกว่าหรอ

อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่มีบ้านเป็น Comfort Zone ที่สามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง หรือไม่ใช่ทุกคนที่จะมีห้องส่วนตัวหรือพื้นที่เงียบ ๆ ในบ้านที่ทำให้เรามีสมาธิในการอ่านหนังสือได้

และอีกประเด็นหนึ่ง บางทีการออกจากบ้านมาแล้วมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราจะออกมาอ่านหนังสือ! นั่นทำให้เราอ่านอย่างตั้งใจมากกว่าตอนอยู่บ้านแล้วเห็นอะไรที่คอยรบกวนสมาธิเยอะไปหมด เดี๋ยวรายการโน้นก็น่าดูจังเลย โอ๊ยห้องรกจังเลย เก็บซะหน่อย อุ๊ย ผ้ายังไม่ได้ซัก ตรงโน้นก็ยังไม่ได้รีด และอีกหลายอย่างที่ทำให้เราไม่ได้โฟกัสกับหนังสือ (เอาง่าย ๆ คืออาการอยากทำไปซะทุกอย่างที่ไม่ใช่การอ่านหนังสือน่าจะหายไปได้บ้างหากออกไปอ่านนอกบ้านซะเลย)

บางคนก็แนะนำว่า ไปนั่งร้านกาแฟสิ มีที่ตั้งเยอะแยะ หรือ Co-Working Space ที่ฟรี ๆ ก็มีนะ!

จุดนี้เราอาจจะต้องมองไปถึงคนหลาย ๆ ฐานะในสังคม ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถจ่ายเงินซื้อน้ำแก้วละเป็นร้อย ๆ เพื่อใช้บริการภายในร้าน แถมยังอาจจะเสียงดังรบกวนและไม่เหมาะกับคนที่ต้องการจะอ่านหนังสือจริง ๆ

หรือข้อจำกัดของ Co-working Space ที่เหมาะกับการทำงานมากกว่าอ่านหนังสือ ด้วยบรรยากาศที่วุ่นวายกว่า เสียงอาจจะดังรบกวนสมาธิคนที่ต้องการอ่านคนเดียว และไม่มีหนังสือให้เราเลือกอ่านเหมือนห้องสมุดนั่นเอง

หลายคนอาจจะบอกว่าเวลามีห้องสมุดแล้วไม่เห็นคนจะไปใช้บริการกันเลย

ถ้าเราอยู่ในยุคนี้อาจจะต้องพึ่งปัจจัยหลาย ๆ อย่างหน่อย ถึงแม้ห้องสมุดจะสะดวกสบายขนาดไหน ครบเครื่องแค่ไหน แต่ถ้าเดินทางยากมาก ๆ แถมไม่มีที่จอดรถคนก็จะไปใช้บริการน้อย หรือถึงอยู่ใกล้แต่ไม่ตอบโจทย์หลาย ๆ อย่าง หรือว่ามีดีหมด แต่ขาดการ PR ให้คนอื่นรู้ก็เป็นปัญหาหลักเหมือนกัน

ถึงแม้จะเป็นข้อเสนอจากทางบ้านที่ทำตามได้ยากในบางที่ แต่ก็ถือเป็นข้อเรียกร้องจากเสียงเล็ก ๆ ที่อยากให้ห้องสมุดบ้านเราพัฒนาไปมากกว่านี้ เพื่อตอบโจทย์สำหรับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จำเป็นต้องใช้ล่ะนะ