“คลังหนังสือดื่มได้” เมื่อ AI กลั่นกาแฟเล่ารสวรรณกรรม
ดูเหมือนการลิ้มรสความรู้สึกจะไม่ใช่แค่การเปรียบเปรยอีกต่อไป เพราะ NEC จับมือกับร้านเมล็ดกาแฟ Yanaka Coffee (やなか珈琲) และให้ NEC the WISE ซึ่งเป็น AI ตัวล่าสุดของ NEC กลั่นความรู้สึกที่ได้จากวรรณกรรมเอกของญี่ปุ่นมาเป็นรสชาติกาแฟ 6 รส 6 แบบให้เราได้ดื่มกันแล้วเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
จากหน้ากระดาษสู่รสชาติความรู้สึกในถ้วยกาแฟ
สำหรับขั้นตอนว่ากาแฟนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เริ่มแรก นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ของ NEC จะรวบรวมบทรีวิววรรณกรรมกว่า 10,000 บทมาจำแนกเป็นรสกลิ่นของกาแฟ และสร้างชุดข้อมูลการเรียนรู้ขึ้นตามนี้
- รสขม: เช่นจากบทรีวิวว่า “เป็นบทสรุปที่น่าเศร้า รู้สึกได้ถึงความอาวรณ์ที่ก่อตัวขึ้นมา”
- รสหวาน: เช่นจากบทรีวิวว่า “รู้สึกได้ถึงความหอมหวานของวันวานเมื่อยังเยาว์”
- Aftertaste: เช่นจากบทรีวิวว่า “เป็นผลงานที่ชวนให้ขบคิดเรื่องชีวิต เป็นงานวรรณกรรมยอดเยี่ยมที่ตราตรึง”
- ความใส: เช่นจากบทรีวิวว่า “จังหวะการเดินเรื่องดีจนอ่านจบได้ในรวดเดียว”
- Body: เช่นจากบทรีวิวว่า “ค่อนข้างใช้เวลาในการอ่าน แต่ก็เพลิดเพลินดี”
จากนั้น NEC the WISE จะนำข้อมูลการเรียนรู้จากซอฟต์แวร์ NEC Advanced Analytics – RAPID machine learning มาสร้างโมเดลในการวิเคราะห์ แล้วจึงนำบทรีวิววรรณกรรมทั้ง 6 ชิ้นงานมาวิเคราะห์เป็นผังรสชาติ และในขั้นสุดท้าย Yanaka Coffee จะนำผังที่ได้มาเป็นสูตรพัฒนากาแฟ
nec the wise chart
กาแฟวรรณกรรม
สำหรับใครที่สงสัยว่าวรรณกรรมแต่ละเรื่องมีความรู้สึกแบบไหน และกาแฟดึงรสชาติของเนื้อเรื่องออกมาเล่าไว้อย่างไร ลองไปดูกาแฟของแต่ละเรื่องกัน
วากานะชู (若菜集) โดย ชิมาซากิ โทซน (島崎藤村)
เมล็ดกาแฟ: ทันซาเนีย / โคลัมเบีย / นิคารากัว
คั่ว: Medium Roast
วากานะชูเป็นหนังสือรวมบทกวีเล่มแรกของชิมาซากิ โทซน ซึ่งกาแฟสูตรนี้ได้นำความรู้สึกจากบทกลอน เช่น “รักแรก (初恋)” ที่พรรณาถึงโลกไว้อย่างสวยงามมาเป็นรสชาติของกาแฟ โดยใช้รสหวานจางที่มาพร้อมกับความเปรี้ยวในเมล็ดกาแฟทันซาเนีย บวกกับรสเข้มนุ่มของกาแฟโคลัมเบีย เป็นสูตรกาแฟที่มีรสเปรี้ยวสดชื่นและมีความใสที่สะท้อนถึงความรู้สึกสดใสของวัยเยาว์ที่สัมผัสได้ในบทกลอนของชิมาซากิ โทซน
สูญสิ้นมนุษย์สมบัติ (人間失格) โดย ดาไซ โอซามุ (太宰治)
เมล็ดกาแฟ: โคลัมเบีย / บราซิล / เปรู
คั่ว: Fullcity Roast
จากเรื่องราวของตัวละครเอกที่ไม่สามารถเข้าใจมนุษย์ได้และตีตราตัวเองว่า “สูญสิ้นมนุษย์สมบัติ” สู่กาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิกาเป็นเบส ผนวกกับกาแฟเปรูที่ดื่มง่าย และกาแฟบราซิลที่มีรสขมให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง เป็นสูตรกาแฟที่ดื่มคล่องคอแต่ขมเข้ม ไม่ต่างกับผลงานวรรณกรรมที่เล่าถึงความอ่อนแอของมนุษย์ได้อย่างเย็นชา
ผมนั้นคือแมว (吾輩は猫である) โดย นัตสึเมะ โซเซกิ (夏目漱石)
เมล็ดกาแฟ: คอสตาริกา / บราซิล / กัวเตมาลา
คั่ว: City Roast
ผมนั้นคือแมว เป็นผลงานที่เล่าถึงเจ้านายและผู้คนที่มารวมตัวกันในห้องหนังสือผ่านมุมมองของแมว กาแฟสูตรนี้ใช้เมล็ดกาแฟคอสตาริกาคุณภาพดีที่มีความใสมาผสมกับเมล็ดกาแฟบราซิลและกัวเตมาลา กลายเป็นสูตรกาแฟที่ขมนำหวานซ่อนและให้กลิ่นหอมชัดโดดเด่นหลังกลืนลงคอ ที่ทำให้นึกถึงความคิดเสียดสีปนตลกขบขันของแมวที่เล่าเรื่องของมนุษย์
โคะโคะโระ (こころ) โดย นัตสึเมะ โซเซกิ (夏目漱石)
เมล็ดกาแฟ: อินโดนีเซีย / บราซิล / กัวเตมาลา
คั่ว: Italian Roast
โคะโคะโระ อีกผลงานของนัตสึเมะ โซเซกิที่เล่าเรื่องของชายผู้หักหลังเพื่อนเพื่อความรักและถูกจองจำด้วยความรู้สึกผิดเรื่อยมา ด้วยกาแฟเนื้อเข้มคุณภาพเยี่ยมจากเมล็ดกาแฟแมนเฮลิ่ง (Mandheling) ของอินโดนีเซีย ผสมกับกาแฟรสขมแผดจากบราซิล เกิดเป็นเนื้อ Body กาแฟที่นุ่มลึกและให้ความรู้สึกพึงใจ ชวนให้เห็นอัตตาที่น่ารังเกียจของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ในใจและพร้อมจะปรากฏให้เห็นเมื่อถึงเวลา
ซันชิโร่ (三四郎) โดย นัตสึเมะ โซเซกิ (夏目漱石)
เมล็ดกาแฟ: เอธิโอเปีย / โคลัมเบีย
คั่ว: Medium Roast
รสเปรี้ยวสดชื่นของเมล็ดกาแฟเอธิโอเปียและรสเปรี้ยวอ่อนของกาแฟโคลัมเบียบอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่เข้ามายังเมืองกรุงที่แทรกเรื่องราวความรักไว้ในเนื้อเรื่องของผลงานชิ้นนี้ ความหวานหอมที่ซ่อนอยู่คล้ายกับไวน์แดงรสกลมกล่อม จะชวนให้นึกถึงวันวานที่หวานอมขมกลืนในวัยเยาว์ของเด็กหนุ่มเจ้าของเรื่องที่ถูกหญิงสาวหยอกเล่นกับความรู้สึก
ไมฮิเมะ (舞姫) โดย โมริ โอไง (森鴎外)
เมล็ดกาแฟ: บราซิล / กัวเตมาลา / ติมอร์-เลสเต
คั่ว: French Roast
ไมฮิเมะ เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไปเรียนต่อยังต่างประเทศและพบรักกับนางรำคนหนึ่งและมีความรู้สึกหวั่นใจต่ออนาคตของตนเอง ด้วยเมล็ดกาแฟที่ผ่าน Natural Process ที่ให้รสชาติคลาสสิก และเมล็ดกาแฟติมอร์-เลสเตที่มีรสหวานเข้ม กาแฟสูตรนี้เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้เข้าถึงงานเขียนที่เล่าถึงความรักคนหนุ่มสาวได้อย่างสวยงาม พร้อมดื่มด่ำไปกับรสหวานราวกับช็อคโกแลตและเนื้อ Body ที่นุ่มคอ
ถึงจะน่าเสียดายที่กาแฟชุดนี้หมดช่วงวางจำหน่ายไปแล้ว แต่การนำเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ใหม่ในการดื่มกาแฟและสนุกไปกับวรรณกรรมนี้ก็เป็นไอเดียที่น่าต่อยอดไม่น้อย แล้ววันหน้า วรรณกรรมอาจจะเป็นสิ่งที่เราดื่มด่ำได้จริงๆ ก็เป็นได้