เปิดชีวิตวัยเด็ก "ณเดชน์ คูกิมิยะ" หนุ่มน้อยสายลุย วิ่งเล่นในทุ่งนา

หลายๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่า ณเดชน์ คูกิมิยะ พระเอกหนุ่มมากความสามารถคนนี้เป็นคนที่ติดดินใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ถือตัว จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นที่รักและที่ชอบจากแฟนๆ จนเรียกว่าเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิงไทยเลยทีเดียว

ซึ่งตัวของ ณเดชน์ นั้นก็มีความติดดินมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่สมัยที่เขายังไม่เข้าวงการเลยทีเดียว ซึ่งในครั้งนี้ Sanook Campus เราก็เลยจะพามาดูประวัติ ณเดชน์ คูกิมิยะ ในสมัยเด็ก กันหน่อย ว่าหนุ่มหล่อคนนี้มีชีวิตอย่างไรในตอนที่เขายังเป็นเด็กนักเรียนในขอนแก่น

ประวัติ ณเดชน์ คูกิมิยะ

• ณเดชน์ คูกิมิยะ มีชื่อเดิมว่า ชลทิศ ยอดประทุม
• ชื่อเล่นคือ แบรี่ (ชื่อเล่นจริงๆ คือ แบร้นด์ Brand)
• เกิดวันอังคารวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2534
• ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดขอนแก่น

ประวัติ การศึกษา ณเดชน์ คูกิมิยะ

• เรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลพิมานเด็ก
• เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาชาย (ปัจจุบันเป็น โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
• ชั้นประถม 5-มัธยมศึกษาตอนปลาย เรียนที่โรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา (สายวิทย์-คณิต)
• ศึกษาต่อในสาขาวิชาการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.31
• ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ชีวิตวัยเด็กของ ณเดชน์ คูกิมิยะ

ชื่อจริงของ ณเดชน์ แม่บุญธรรมเป็นคนตั้งให้ เป็นคำประสมระหว่าง ณ+เดชน์ มีความหมายว่า "ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด" โดยความหมายในพจนานุกรม คำว่า "เดชน์" แปลว่า "ลูกศร" ส่วน ณ ในที่นี้มาจากคำว่าญาณ หมายถึง ปัญญา ความรู้ ซึ่งตัด ณ มาเพียงตัวเดียว เมื่อรวมความหมายเข้าด้วยกันแล้ว จะได้ความหมายว่า ผู้มีปัญญาแหลมคมดุจลูกศร ซึงหมายถึง ผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด ส่วนชื่อเล่นเดิมบิดาชาวออสเตรียตั้งให้ว่า "แบร้นด์ (Brand)" แต่เนื่องจากอ่านออกเสียงค่อนข้างยาก ครอบครัวของเขาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็น แบรี่ หมายถึง "สิ่งที่อยู่บนท้องฟ้า"

สมัยวัยเรียนของเขา เขาเรียนที่โรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา ซึ่งโรงเรียนอยู่ห่างไกล ออกจากตัวเมืองกว่า 20 กิโลเมตร ก็จะมีแต่ทุ่งนา เขาก็ใช้ชีวิตแบบเด็กๆ ต่างจังหวัด อย่างเช่นเตะบอลกับเพื่อน หรือเดินเล่นในทุ่งนา ปีนต้นมะพร้าว รวมไปถึงได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันหลายครั้งในช่วงที่เรียนระดับมัธยม รวมไปถึงเคยเข้าแข่งขันเทควันโดได้รับรางวัลรองชนะเลิศในรุ่นเยาวชนชายอายุไม่เกิน 6-8 ปี จากรายการชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2545

โดยในสมัยที่เข้าวงการใหม่ๆ นั้น เขาเริ่มจากเดินแบบ โดยเดินเป็นครั้งแรกในงานการกุศลของศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ได้เงินเริ่มต้น 1,000 1,500 3,000 บาท โดยเข้าตั้งเป้าว่าจะเก็บเงินไปเรื่อยๆ เพื่อดูแลครอบครัว และนอกจากนั้นเขายังมีความศรัทธาและเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ ได้ผ่านการบวชเณรมาเมื่อวัยเยาว์ จนกระทั่งได้รับรางวัลบุคคลผู้มีคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี พ.ศ. 2554 โดยสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยอีกด้วย