เพราะอะไร ทำไมแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงออกมาตรการซ่อนยอดไลก์

เพราะอะไร ทำไมแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงออกมาตรการซ่อนยอดไลก์

เพราะอะไร ทำไมแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงออกมาตรการซ่อนยอดไลก์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เราสามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่ายุคนี้ผู้คนเสพติดการมีตัวตนกันมากขึ้น ใช่แล้ว สิ่งที่กำลังกล่าวถึงนี้คือการมีตัวตนเป็นคนสำคัญบนโลกออนไลน์ การจะรู้ว่าใครได้รับความนิยมมาก ๆ เราจะสังเกตง่าย ๆ จากยอดไลก์ไม่ว่าจะการโพสต์ การลงรูป ต่าง ๆ นานาเหล่านี้ส่งผลทำให้ชีวิตผู้คนผูกติดกับการหวังยอดไลก์มากขึ้น

ยอด Likes ทำร้ายจิตใจ

ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมของผู้คนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นั้นผูกติดกับการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมาก เปรียบเสมือนอวัยวะที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งเช็กข่าวสาร ติดตามเหตุการณ์ อัพเดทข้อมูลของคนอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นข้อเสียอย่างหนึ่งที่มีผลกระทบต่อจิตใจผู้คนอย่างมากจากการใช้โซเชียลมีเดียก็คือ ยอดไลก์

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต่างให้ความเห็นว่า ยอดไลก์ ส่งผลด้านลบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ที่ทำให้เกิดความกดดันต่อตัวเองหากการโพสต์ต่าง ๆ ได้รับการกดไลก์น้อย ทำให้หดหู่และเกิดความเครียด อีกทั้งยังเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ ที่ได้ยอดไลก์ยอะกว่า ส่งผลอย่างมากต่อสุขภาพจิต จนหลาย ๆ ครั้งเกิดการกระทำที่ไม่ยั้งและไม่เหมาะสมคิดเพื่อการเรียกยอดไลค์

ด้วยเหตุนี้ Facebook และ Instagram ต่างมีแนวคิดที่จะซ่อนยอดไลก์บนแพล็ตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งตามปกติทุกคนที่เห็นโพสต์จะสามารถเห็นยอดไลก์ด้วยทั้งหมด แต่ต่อไปจะไม่มีให้เห็นแล้ว โดย Facebook ได้ทดลองโดยการแสดงชื่อคนกดไลก์เพียงไม่กี่คนและระบุลงท้ายว่า และคนอื่น ๆ แทนจำนวนไลก์ ส่วน Instagram ได้ทดลองโดยการ ไม่แสดงยอดไลก์ทั้งหมดแต่จะมีเพียงเจ้าของโพสต์เท่านั้นที่สามารถดูได้ เพื่อแก้ปัญหาสุขภาพจิตข้างต้น

แต่ในส่วนของปัญหาคงมาตกอยู่ที่เหล่าครีเอเตอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์บนออนไลน์และเหล่า Influencer ที่ทำการตลาดผ่านออนไลน์เป็นหลัก เพราะอาจถูกมองเห็นน้อยลง ซึ่งต้องยอมรับด้วยว่าที่ผ่านมายอดไลก์เป็นตัวชักจูงจิตใจผู้คนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ได้ไม่น้อย แน่นอนว่าทั้งการเข้าถึง, เอนเกจเมนท์, ยอดไลก์ที่อาจลดลง กระทบกับการทำการตลาดบนออนไลน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมรับและหาทางทำกินในแง่ใหม่กันต่อไป

ทั้งนี้การทดสอบการซ่อนยอดไลก์ของทั้ง Facebook และ Instagram เพิ่งผ่านพ้นการทดสอบในไม่กี่ประเทศเพื่อเรียนรู้ผลจากผู้ใช้งาน ซึ่งในระหว่างนี้เหล่าครีเอเตอร์คงต้องขยันในการสร้างความดึงดูดให้มากยิ่งขึ้นหากฟีเจอร์นี้ได้ถูกนำมาใช้จริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook