#มศวขอมีจุดยืน สถาบันที่จะไม่ยอมเงียบ และจะไม่นิ่งเฉยเรื่องประชาธิปไตยอีกต่อไป

เพราะในปัจจุบันเยาวชนรุ่นใหม่มีการเปิดโลกที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีพื้นที่ในการแสดงออกทางความคิดและทัศนคติมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลย ที่เราจะได้เห็นเยาวชนรุ่นใหม่ เช่นเหล่านิสิต นักศึกษาได้ออกมาแสดงจุดยืนของตัวเองกันอย่างภาคภูมิใจ และ มศว หรือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก็เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่บ่มเพาะเยาวชนให้ออกมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และกล้าต่อสู้เพื่อความถูกต้อง

โดยทาง Sanook Campus เราก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ น้องสไปร์ ตัวแทนของกิจกรรมการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ #มศวขอมีจุดยืน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เราก็เลยถามถึงที่มาและความหมายของกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้น ว่างานที่จัดขึ้นมานั้นมีจุดประสงค์อะไร และทำไมเหล่านักศึกษาของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒต่างพร้อมใจเข้ามาร่วมในกิจกรรมครั้งนี้

#มศวขอมีจุดยืน สถาบันที่จะไม่ยอมเงียบ และจะไม่นิ่งเฉยเรื่องประชาธิปไตยอีกต่อไป

แนะนำตัวหน่อย เราชื่ออะไร เรียนคณะอะไร?

สวัสดีค่ะ ชื่อ สไปร์ ศมน ศักดิวงศ์ นิสิตชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ค่ะ

#มศวขอมีจุดยืน จุดยืนของ มศว ในมุมมองของเราคืออะไร?

มศว ขอมีจุดยืน ในมุมมองของเรา มันเริ่มมาจาก ในยุคของเรามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒถูกปรามาสจากตัวนิสิตร่วมถึงตัวสไปร์เองด้วยว่า มศวไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง มศวนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ต่างๆในบ้านเมือง ซึ่งมันผิดกับอุดมการณ์แห่งนิสิตนักศึกษาปัญญาชนผู้มีความรู้ เพราะหากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์นามของมศวก็มีบทบาทสำคัญต่อการเมืองไทยมาโดยตลอด แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่ เราไม่เคยทราบ ไม่เคยได้ภูมิใจในประวัติศาสตร์ของมหาลัยเลยเพราะไม่เคยถูกนำเสนอให้ได้รู้ แต่ในงานพวกหนูขอออกมายืนเพื่อให้นิสิตปัจจุบันได้รู้ถึงเกียรติภูมิชาวเทาแดง ที่จะไม่ขอนิ่งเฉยอีกต่อไปค่ะ

เราคิดว่า มหาวิทยาลัยหรือสถาบันศึกษา มีความเกี่ยวข้องกับด้านการเมืองอย่างไรบ้าง?

ในมุมมองของหนู หนูคิดว่ามหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษามีความข้องเกี่ยวกับการเมืองทุกทางค่ะ เพราะสังคมประกอบไปด้วยหน่วยเล็กๆ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกันไปมา ไม่ว่าจะหน่วยที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัวก็เกี่ยวข้องเช่นกัน ไม่มีใครไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองค่ะ

ในฐานะนักศึกษา เราคิดว่าประเทศไทยของเรากำลังเดินหน้าไปในมุมมองไหน?

ในฐานะนิสิตนะคะ สไปร์คิดว่าประเทศไทยของเรากำลังเดินหน้าไปสู่สังคมที่ประชาชนจะออกมาตั้งคำถามกับทุกคำถามที่เค้าอยากถาม คำถามที่จะเปลี่ยนโลก จะไม่มีใครกดขี่ความคิดเราได้ ทุกคำถามของเราจะต้องมีคำตอบและจะต้องเป็นคำตอบที่ไม่ปิดบังประชาชน เพราะในอดีตคำถามของเราก็เป็นแค่บทสนทนาภายในกลุ่ม แต่ตอนนี้ทุกคำถามสามารถเป็นวาระของชาติได้เลย!

การรวมตัวทำกิจกรรมเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แบบนี้ มันมีความแตกต่างกับการประท้วงไหม?

การแสดงออกของพวกเราในครั้งนี้ สไปร์คงไม่ขอเรียกว่าเป็นการประท้วงค่ะ เพราะเราเบื่อ เรามีบาดแผลจากผู้ใหญ่ในอดีตที่เคยทำกันมาไม่ว่ายุคไหน ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมาเราเห็นภาพการประท้วงที่รุนแรง อยู่บนพื้นฐานของอารมณ์ที่โกรธแค้นอยากฆ่าทำร้ายทำลายกัน เดี๋ยวก็เอาภาพคนนี้มาเผา เอาหุ่นคนที่มาตี พูดตรงนี้เลยนะคะว่า เบื่อหน่ายมากค่ะ ไม่สร้างสรรค์และไม่มีประโยชน์ กิจกรรมของเราในวันนี้คือการออกมาบอกว่า ฉันไม่ขอนิ่งเฉย ฉันไม่กลัวและฉันไม่เงียบ หากใครทำผิดฉันพร้อมตรวจสอบ ออกมาให้เค้าเหล่านั้นเห็นว่า เธอจะไม่ได้ทำอะไรง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน

คิดว่าทำไมเยาวชน คนรุ่นใหม่ถึงหันมามีส่วนร่วมกับเรื่องการเมืองมากขึ้น?

คำตอบข้อนี้คงสามารถใช้คำตอบของข้อที่แล้วได้ ง่ายๆนะคะ พวกเราเบื่อ พวกเราไม่อยากอยู่ในสังคมแบบนี้อีกต่อไปแล้ว พวกเราที่เป็นผู้คนรุ่นใหม่เลยลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่พิมพ์ข้อความต่อสู้ ออกมาให้เค้าเห็นเนื้อกายความเป็นคนของเราว่าเรามีตัวตนจริง ไม่ใช่ร่าง "อวตาร"

การที่เราออกมาเป็นแม่งานกิจกรรมนี้ จะถูกมองจากผู้ที่มีความคิดเห็นต่างว่าเป็นการเกาะกระแสมั้ย เอาเวลาไปเรียนดีกว่า?

เกาะไปเถอะค่ะกระแสอะ เพราะหากสังคมยังมีกระแสแบบว่าเรายังมีพลัง มีพรรคพวก มีแสงสว่าง ถ้าสังคมเงียบซิน่ากลัว มันจะเข้าสู่ยุคมืดที่แม้แต่ตอนกลางวันก็มืดมิด แล้วพวกที่บอกให้ไปเรียนดีกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นห่วงหรือขี้ขลาด ให้ไปเรียนก็ถูกปลูกฝังว่าเราต้องขับเคลื่อนสังคมตามสาขาที่เรียน ออกไปเป็นคนดีคนเก่งของสังคม แค่พอจะออกไปก็ไล่ไปเรียนอ่าวปวดหัวนะ จะเอาไงกับพวกหนู อีกอย่างหากไม่มีประชาชนสังคมให้รับใช้แล้วพวกเราจะเรียนทำไม?

คำว่าประชาธิปไตย ในมุมมองของเราแล้ว มันคืออะไร?

ความหมายของคำว่าประชาธิปไตย มาหาได้ที่งาน มศวขอมีจุด(ยืน) เพราะงานนี้หนูเองก็ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด ทัศนคติดีที่สุด มีความรู้ที่สุด แต่เรากำลังรับฟังซึ่งกันและกันจริงๆ ออกมาบอกให้ดิฉันฟังหน่อยว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงคืออะไร