7 สัญญาณเตือน “หมดไฟ” เพราะ Work from Home
ช่วงนี้ บริษัทส่วนใหญ่ให้พนักงาน Work from Home กันหมดแล้ว แต่เริ่มกันไปได้ไม่ทันไร หลายคนก็เริ่มมีอาการ “หมดไฟ” กันเสียแล้ว เพราะรู้สึกว่าทำงานอยู่บ้านไม่ได้สบายอย่างที่คิด
และนี่คือ 7 สัญญาณเตือนที่อาจบอกได้ว่าคุณเริ่มหมดไฟกับการ Work from Home แล้ว
1. รู้สึกว่าทำงานตลอดเวลา
เมื่อทำงานอยู่บ้าน จึงไม่มีเวลาเลิกงานชัดเจนเหมือนตอนอยู่ออฟฟิศที่สามารถปิดคอมฯ แล้วตรงดิ่งกลับบ้านได้ ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองทำงานอยู่ตลอดเวลา และบางคนอาจหนักถึงขั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากกินข้าวไม่เป็นเวลาด้วย
2. ติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
แทนที่คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากการทำงานอยู่บ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น กลับกลายเป็นว่าการอยู่บ้านทำให้คุณทำงานแบบเฉื่อยชา คอยแต่ผัดวันประกันพรุ่ง และไม่มีพลังงานขับเคลื่อนในการผลิตผลงานดี ๆ ออกมา
3. มีปัญหาแล้วหาทางออกไม่ได้
ไม่ว่าจะเก๋าประสบการณ์แค่ไหน ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วไม่สามารถหาทางออกได้ทันที ก็ทำให้รู้สึกเฟลได้เหมือนกัน เพราะคุณต้องอยู่เพียงลำพัง แม้จะวิดีโอคอล หรือแชตคุยกับเพื่อนร่วมงานได้ ก็ไม่เหมือนการได้พูดคุยกันแบบเห็นหน้าอยู่ดี
4. รู้สึกว่าต้องทำงานให้หนักขึ้น
เมื่อต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน ทำให้คุณไม่เห็นว่าคนอื่นทำงานเป็นอย่างไร ต่างจากตอนที่อยู่ออฟฟิศด้วยกัน จึงอาจเกิดความกังวลใจว่าตัวเองจะทำงานน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทำให้รู้สึกว่าต้องทำงานให้เยอะขึ้น หนักขึ้น หรือนานขึ้นกว่าเดิม
5. เช็กแจ้งเตือนอีเมลตลอดเวลา
การที่มัวแต่เช็กว่ามีอีเมลงานอะไรเข้ามาบ้างอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนกลางคืน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจจะทำให้หมดไฟได้โดยไม่รู้ตัว แถมยังทำให้คุณไม่มีสมาธิจดจ่อกับการทำงานอย่างเต็มที่ด้วย
6. ต้องสแตนบายคอยประชุม
แม้จะ Work from Home แต่คุณยังต้องคอยสแตนบายประชุมวิดีโอคอลกับหัวหน้าและทีมงาน เมื่อไหร่ที่เรียกประชุมก็ต้องพร้อมอยู่หน้าจอตลอดเวลา จึงทำให้เกิดอาการหมดไฟกันได้ง่าย ๆ
7. เริ่มรับผิดชอบตัวเองน้อยลง
ข้อดีของการทำงานอยู่บ้าน คือไม่ต้องตื่นแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานเหมือนที่ผ่านมา แต่นั่นก็ทำให้คุณเกิดความขี้เกียจได้ง่าย ๆ และเมื่อใดก็ตามที่เริ่มรับผิดชอบตัวเองน้อยลง ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณก็จะลดน้อยถอยลงเช่นกัน