รอดแน่! 7 วิธีเซฟเงินช่วงหางาน
เมื่อเศรษฐกิจถดถอย ภาวะการจ้างงานต่ำลงขณะที่คนตกงานเพิ่มขึ้นจากที่กิจการหลายแห่งปิดตัว ประกอบกับบัณฑิตใหม่ที่เพิ่งจบออกมา เมื่อบวกตัวเลขกันเข้าไปแล้วทำให้มีคนหางานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ใครที่มีงานทำอยู่คงต้องเกาะเก้าอี้กันให้แน่นเลยทีเดียว
ส่วนคนที่กำลังหางานก็ต้องประหยัดกันสุดตัวเพื่อให้อยู่รอดในสภาวะเช่นนี้ หนทางไหนที่เซฟเงินได้ ก็ต้องรีบทำมาวันนี้ Tonkit360 มี 7 วิธีประหยัดเงินง่ายๆในช่วงที่คุณกำลังหางาน จากเว็บไซต์ The Balance Careers มาฝากคุณผู้อ่านกัน รับรองว่าถ้าจัดการได้หมดทั้ง 7 ข้อ คุณจะมีเงินพอใช้จนกว่าจะหางานได้เลยทีเดียว
1. บริหารจัดการกับวิธีสมัครงานให้เปลืองเงินน้อยที่สุด
ใครว่าเวลาหางานไม่ต้องใช้เงิน ช่วงหางานนี่แหละที่ต้องใช้เงินกับการจัดการเอกสาร การเดินทางเตรียมประวัติการทำงาน พอร์ตงานหรือผลงานที่คุณเคยทำ หรือแม้แต่เข้าไปเว็บหางานแบบที่ไม่ต้องเสียเงิน คุณควรจะจัดระบบเรื่องราวนี้ให้ลงตัวที่สุด เตรียมประวัติการทำงานโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟ ที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์ที่บ้านอยู่แล้ว สแกนเอกสารสมัครงานด้วยการใช้แอพลิเคชัน เพื่อที่คุณจะได้จัดส่งเอกสารของคุณให้กับบริษัทที่ประกาศรับสมัครงานก่อนที่เขาจะเรียกคุณไปสัมภาษณ์เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลืองเงินไปถ่ายเอกสารอีกรอบ จากนั้นจัดการฝากประวัติของคุณในเว็บไซต์หางานที่น่าเชื่อถือ ทำลิสต์ว่าฝากประวัติงานในเว็บไซต์ไหนบ้าง จะได้ไม่งงเวลาทางฝ่ายบุคคลของบริษัทที่คุณส่งใบสมัครไป โทรกลับมาเพื่อเรียกไปสัมภาษณ์
2.ยืมเสื้อผ้าพี่น้อง หรือ เพื่อนสนิทเพื่อใช้ในการเดินทางไปสัมภาษณ์งาน
การแต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยในการไปสัมภาษณ์งานเรียกได้ว่าเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้กับฝ่ายบุคคล หรือคนที่จะสัมภาษณ์งานคุณ แต่การแต่งตัวให้ดูดีและเรียบร้อยไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ หากคุณไม่มีเสื้อผ้าที่เรียกว่าเรียบร้อยสำหรับสัมภาษณ์งานอยู่เลยในตู้เสื้อผ้า (อาทิ เสื้อเชิ้ต เสื้อ กระโปรงยาว กางเกงผ้า รองเท้าหุ้มส้น) และคุณคิดว่าเงินในกระเป๋านั้นไม่พอถึงสิ้นเดือนแน่ถ้าเอาไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับการไปสัมภาษณ์งาน หนทางแก้ไขที่ง่ายที่สุดคือ ขอยืมค่ะ ใช่ค่ะ ขอยืมคนในครอบครัว หรือ เพื่อนสนิท คุณอาจมีเสื้อเชิ้ตอยู่แล้ว อาจขอยืมแค่เสื้อนอก เพื่อให้สุภาพมากขึ้น หรือขอยืมรองเท้าหนังเพื่อทำให้บุคลิกของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ของแบบนี้ขอยืมกันได้ เมื่อใช้เสร็จแล้วก็ทำความสะอาดและส่งคืนเจ้าของรับรองไม่มีใครว่าคุณอย่างแน่นอน
3. หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าเดินทางเพื่อไปสัมภาษณ์งานในต่างจังหวัด ถ้าคุณไม่พร้อม
ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่สำหรับคนหางาน และต้องไปสัมภาษณ์งานคือค่าเดินทางยิ่งถ้าคุณต้องไปสัมภาษณ์งานข้ามจังหวัด ก็จะหมายถึงค่าตั๋วโดยสาร หรือค่าน้ำมันรถ หากเป็นจังหวัดที่ห่างไกล และต้องค้างคืนด้วยแล้ว หมายถึงคุณต้องหาที่พักเข้าไปอีก ซึ่งจะทำให้คุณต้องเสียเงินไปหลายพันทั้งที่ยังไม่ได้ก้าวเท้าไปที่บริษัทสัมภาษณ์งานนั้นเลย
ถ้าเจอการเรียกสัมภาษณ์งานแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธว่าไม่สะดวกในการเดินทาง ลองสอบถามทางบริษัทดูก่อนว่าพอจะมีการช่วยเหลือค่าเดินทางหรือไม่ เพราะบริษัทรู้ดีอยู่แล้วว่า คนที่เรียกมาสมัครงานนั้นอยู่คนละจังหวัดกับที่ตั้งของบริษัท หรือถ้าคุณไม่สะดวกในการเดินทางในระยะไกล ลองคุยกับทางบริษัทให้เป็นการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือโทรศัพท์สัมภาษณ์ว่าพอจะเป็นไปได้ไหม
4. หางานจากเว็บหางานที่ให้บริการฟรี
วิธีการหางานในทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการฝากประวัติไว้ในเว็บสำหรับหางาน และ สมัครงาน และมีทั้งแบบให้บริการฟรี และจ่ายเงิน ถ้าคุณอยากจะเซฟเงินในกระเป๋าให้มากที่สุดก็ขอให้ตัดเว็บที่ต้องจ่ายค่าบริการออกไปเลย การใช้เว็บหางาน ที่ให้บริการฟรี ที่แม้จะมีข้อจำกัด หรือเราต้องดูโฆษณาบ่อย ก็ไม่ได้สร้างปัญหาใด และเหนืออื่นใด เว็บหางานที่ให้บริการฟรีนั้นยังมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงบริษัที่กำลังหาคนทำงาน ที่มักจะแวะเวียนมาที่เว็บลักษณะนี้ค่อนข้างบ่อย แต่ถ้าลักษณะงานของคุณเป็นแบบเฉพาะทางและจำเป็นต้องใช้เว็บไซต์หางานที่ต้องจ่ายเงิน เว็บเหล่านี้จะมีช่วงเวลาให้ทดลองใช้หรือ Trial Period คุณก็สามารถใช้บริการเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องเสียเงิน เพียงแต่ต้องจำไว้หน่อยว่าช่วงเวลาทดลองของคุณนั้นจะหมดเมื่อไร
5. พัฒนาทักษะของคุณจากการเรียนฟรีทางออนไลน์
ถ้าส่งใบสมัครออกไปสักพักใหญ่แล้วยังไม่มีบริษัทไหนเรียกคุณไปสัมภาษณ์งานเลย ก็คงถึงเวลาที่คุณต้องกลับมาพิจารณาคุณสมบัติของตนเองอีกครั้ง เพราะยุคสมัยนี้การศึกษาในระดับปริญญาอาจไม่เพียงพอ แต่ถ้าคุณมีทักษะด้านอื่นประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูปในตระกูล Adobe การตัดต่อภาพหรือเสียง รวมไปถึงทักษะทางด้านภาษา ยิ่งถ้าเป็นภาษาที่สามจะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจในใบสมัครให้คุณมากเลยทีเดียว และปัจจุบันคอร์สเหล่านี้เปิดสอนออนไลน์ฟรี จากสถาบันการศึกษาที่เชื่อถือได้แถมบางแห่งมีใบประกาศมาให้คุณอีกต่างหาก
6. ลองกลับไปใช้บริการศูนย์หางานของมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนจบมาดูสิ
ถ้าส่งจดหมายสมัครงานพร้อมประวัติของตนเองไปในหลายที่แล้ว ยังไม่มีผลตอบรับกลับมาที่ดี หันกลับมาพิจารณาทักษะของตนเองก็เรียกได้ว่าเต็มร้อย ลองหันกลับไปใช้ บริการ “ศูนย์หางานของมหาวิทยาลัย” ดูไหม เพราะมีอยู่ในทุกมหาวิทยาลัย เหนืออื่นใดศูนย์หางานของสถาบันการศึกษาจะมีคอนเนคชั่น กับศิษย์เก่าที่น่าจะช่วยให้ประวัติของคุณถูกส่งต่อไปได้กว้างขึ้น แถมรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของกิจการก็จะพิจารณารุ่นน้องร่วมสถาบันเป็นพิเศษเสียด้วยซิ
7. เซฟเงินจากการใช้เทคโนโลยี ในการหางานให้ได้มากที่สุด
การใช้ชีวิตทุกวันนี้แสนสะดวกสบายด้วยสมาร์ทโฟน และอินเทอร์เน็ต แต่สำหรับคนหางาน ที่ยังไม่มีเงินเดือนการใช้แพคเกจค่าโทรศัพท์ + อินเทอร์เน็ต ราคาแพงจะทำให้คุณอยู่ไม่รอดจนถึงเวลาที่ได้งาน ขอให้ดูแพคเกจการใช้งานของคุณว่าควรจะปรับเปลี่ยนให้ถูกลง และใช้งานเพื่อให้ได้งานจริงๆ ดีกว่าไหม ปัจจุบันผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ก็มีโปรโมชั่นออกมาให้เลือกมากมาย หรือแม้กระทั่งแพคเกจสำหรับนักเรียนนักศึกษา ดังนั้นพยายามจ่ายเงินกับเรื่องแบบนี้ให้น้อยที่สุด เพราะคุณจะประหยัดเงินไปได้อีกมากเลยทีเดียว