พักเรื่องเครียด ด้วย “งานอดิเรก” ที่ดีต่อใจ
เพราะแต่ละวันชีวิตมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย ข่าวสารที่เสพก็มีแต่เรื่องชวนให้เครียดเสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความกดดันจากเรื่องต่าง ๆ รอบตัวด้วย ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้นานก็จะกลายเป็นความเครียดสะสม และปัญหาอื่น ๆ ก็จะตามมา
แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าเราสามารถผ่อนคลายความกดดันต่าง ๆ ได้จาก “งานอดิเรก” เพราะการได้ทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจในยามว่าง จะช่วยให้มีความสุขมากขึ้น ความเครียดก็ลดลง แถมยังได้ใช้เวลาอยู่กับตนเองมากขึ้นด้วย ดังนั้น เราจึงควรผละออกจากหน้าจอเสียบ้างแล้วหาอะไรที่เพลิดเพลินทำด้วย 7 งานอดิเรกที่ Tonkit360 คัดสรรมาแล้วว่าดีต่อใจแน่นอน
1. จัดสวน/ปลูกต้นไม้
หัวใจหลักของการจัดสวนหรือปลูกต้นไม้ คือ การที่ได้ใช้เวลาดูแลเอาใจใส่เมล็ดพันธุ์หรือต้นอ่อนให้เติบโตเป็นต้นไม้และดอกไม้ที่งดงาม จะเปรียบเหมือนการเลี้ยงลูกเลยก็ว่าได้ เพราะในท้ายที่สุด เมื่อสวนของเราผลิดอกออกผลอย่างใจหวัง เราก็จะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่นที่เราลงทุนลงแรงสร้างมาด้วยมือของตนเอง
2. ทำงานฝีมือ
ไม่ว่าจะเป็นการถักโครเชต์ ถักนิตติ้ง งานเย็บปักถักร้อยต่าง ๆ หรืองานประดิษฐ์ DIY ต่างก็ช่วยฝึกทั้งสมาธิ จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ ผลงานที่ได้จะมีความพิเศษตรงที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ที่สร้างขึ้นจากหนึ่งสมองและสองมือของเรา จะเก็บไว้ใช้เองก็ได้มอบเป็นของขวัญก็ดี อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝีมือเพื่อไปต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย
3. อ่านหนังสือ
ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เพียงอย่างเดียว แค่เป็นเรื่องที่ตนเองสนใจ แล้วเลือกมุมสงบ ๆ ใช้เวลากับหนังสือเล่มนั้น เพื่อปล่อยให้ตัวเองได้หลบออกจากโลกแห่งความเป็นจริงที่เผชิญอยู่เสียบ้าง แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ก็ช่วยเปิดโลกและประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ หรือถ้ารู้แล้วก็จะได้รู้ชัดเจนแจ่มแจ้งมากขึ้นไปอีก
4. ทำอาหาร/ขนม
ความสุขของใครหลาย ๆ คนคือ การได้อยู่ในครัว แล้วฝึกทักษะการทำอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่ง ณ เวลานั้นจะได้ฝึกสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ในการทำเมนูใหม่ ๆ ตั้งแต่ความพยายามในการผสมผสานวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นอาหาร จนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างการจัดจานให้สวยงามนั่นเอง
5. ทำงานศิลปะ
ศิลปะ คือ ความงามของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติรอบตัว ฝีแปรงที่วาดลวดลายลงบนกระดาษ หรือวรรณกรรมที่ร้อยเรียงตัวหนังสือออกมาเป็นถ้อยคำสละสลวย ล้วนเป็นศิลปะทั้งสิ้น ซึ่งการได้เสพงานศิลปะหรือได้ลงมือทำงานศิลปะเองสักชิ้น เช่น วาดภาพ ระบายสีง่าย ๆ ก็ช่วยจรรโลงใจได้มากทีเดียว
6. ถ่ายรูป
เทรนด์โพสต์ภาพลงในโซเชียลมีเดียทำให้การถ่ายรูปเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในทุกเพศทุกวัย เพราะกล้องจากโทรศัพท์มือถือก็ถ่ายภาพออกมาได้สวย กล้องดิจิทัลดี ๆ ราคาก็จับต้องได้มากกว่าเมื่อก่อน แต่หากใครชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นทุนเดิมก็อาจจะลงทุนซื้อกล้องดี ๆ มาสักตัว หากฝึกจนชำนาญก็สามารถประกอบเป็นอาชีพเสริมได้
7. เล่นดนตรี
การเล่นดนตรีหรือฟังเพลงนั้น ไม่ได้มีประโยชน์เพียงคลายเหงาหรือฝึกทักษะทางดนตรีเพียงอย่างเดียว แต่มีงานวิจัยยืนยันแล้วว่าเสียงดนตรีช่วยบำบัดโรคได้ ศึกษากันเป็นศาสตร์แห่งดนตรีบำบัด (music therapy) เลยทีเดียว ดังนั้นการเล่นดนตรี จึงช่วยลดความเครียดและคลายความกังวลได้