อนาคตของการท่องอวกาศ กับพัฒนาการทางภาษาที่ขาดหาย

อนาคตของการท่องอวกาศ กับพัฒนาการทางภาษาที่ขาดหาย

อนาคตของการท่องอวกาศ กับพัฒนาการทางภาษาที่ขาดหาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การศึกษาชิ้นใหม่ได้ประเมินปัญหาสำคัญของภารกิจในอวกาศ นอกจากความท้าทายด้านกายภาพและสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายในอวกาศแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการขาดการเชื่อมต่อทางภาษาที่ผู้คนที่ท่องอวกาศจะขาดหายไปด้วยเช่นกัน

ระหว่างที่นักวิทยาศาสตร์กำลังเตรียมการสำหรับภารกิจท่องอวกาศไปสำรวจดวงดาวที่ห่างไกล แต่การศึกษาชิ้นใหม่มองว่า อีกความท้าทายสำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงด้านภาษาที่อาจทำให้นักท่องอวกาศขาดการเชื่อมต่อกับผู้คนบนโลกได้

ปัจจุบัน มียานอวกาศ 2 ลำจากโลก ได้ไปถึงพื้นที่ว่างกลางอวกาศระหว่างดวงดาวนอกระบบสุริยะ (Interstellar Space) ที่หลุดพ้นจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อส่งมนุษย์ไปยังดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบในอวกาศได้

อย่างไรก็ตาม 2 นักวิจัยชาวอเมริกันพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ คือ โอกาสที่ภาษามนุษย์จะมีพัฒนาทางภาษาที่ก้าวไกลจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการสื่อสารระหว่างนักท่องอวกาศไกลโพ้นกับผู้คนบนโลก

แอนดรูว์ แมคเคนซี ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากมหาวิทยาลัย University of Kansas และเจฟฟรีย์ พังสก์ จาก Southern Illinois University ตีพิมพ์การศึกษาในวารสาร Acta Futura ของสำนักงานอวกาศยุโรป (European Space Agency) ที่อธิบายปัญหาด้านภาษานี้ว่า ถ้าพิจารณาธรรมชาติของภาษา พบว่าภาษาจะมีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันต่อเมื่อชุมชนอยู่ห่างไกลกัน ซึ่งในการเดินทางจากโลกไปยังพื้นที่ว่างกลางอวกาศ มีระยะทาง 18,000 ล้านกิโลเมตร รวมทั้งความเป็นไปได้ในการจัดตั้งอาณานิคมบนดาวที่ห่างไกล ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดความแตกต่างด้านภาษาระหว่างผู้คนบนโลกกับบนดวงดาวไกลโพ้นถึงขั้นพูดคุยกันไม่เข้าใจเลยก็ได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจากมหาวิทยาลัย University of Kansas เพิ่มเติมว่า หากคุณเป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนยานอวกาศมาถึง 10 ชั่วอายุคน เท่ากับว่าแนวคิดใหม่ๆจะเกิดขึ้น ปัญหาสังคมใหม่ๆจะเกิดขึ้น และผู้คนจะหาวิธีในการสื่อสารกับเรื่องเหล่านี้ด้วยเช่นกัน นำไปสู่คำศัพท์เฉพาะที่เกิดขึ้นบนยานลำนั้นและบนโลกด้วย รวมทั้งความแตกต่างในการเปล่งเสียงคำบางคำเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ หรืออาจจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไวยากรณ์เมื่อเวลาผ่านไป และยิ่งห่างไกลกันเท่าไร โอกาสในการพูดคุยสื่อสารกับคนบนโลกก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

การศึกษาชิ้นนี้ ได้หยิบยกตัวอย่างของพัฒนาการทางภาษาแม้กระทั่งบนโลกเอง จากการที่ชุมชนแต่ละพื้นที่เริ่มออกห่างกันไปเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึง การใช้ภาษาของชาวโพลินีเซียนในหมู่เกาะแปซิฟิกที่ห่างไกล และการใช้ภาษาท้องถิ่นของผู้คนในดินแดนที่เป็นอาณานิคมของยุโรป

อีกตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงทางภาษาที่สำคัญบนโลกอย่างหนึ่งที่แมคเคนซีหยิบยกขึ้นมา คือ การขึ้นเสียงสูง หรือ uptalk ที่เวลาคนพูดจบประโยคด้วยการขึ้นเสียงสูง ซึ่งทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าเป็นการถามคำถาม การพูดแบบ uptalk นี้เกิดขึ้นภายในช่วง 40 ปีก่อน และมีการใช้ในกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวอเมริกันและออสเตรเลียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาชาวอเมริกันทั้งสองแนะนำว่า เพื่อแก้ปัญหาด้านการสื่อสาร ควรส่งผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไปร่วมกับทีมท่องอวกาศ หรืออาจหันมาใช้ภาษามือเป็นการสื่อสารอีกรูปแบบในอวกาศได้ด้วยเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรภาษาบนโลกก็คือเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการสื่อสารสร้างความเข้าใจและดำรงชีวิต ไม่ว่าจะต้องอยู่บนโลกนี้ต่อไปหรือต้องอาศัยบนดาวดวงใหม่อันไกลโพ้นก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook