รวม "แฮชแท็กเด็ด สิงหาคม 2020" เดือนเดือดดราม่าร้อนๆ ตลอดเดือน

รวม "แฮชแท็กเด็ด สิงหาคม 2020" เดือนเดือดดราม่าร้อนๆ ตลอดเดือน

รวม "แฮชแท็กเด็ด สิงหาคม 2020" เดือนเดือดดราม่าร้อนๆ ตลอดเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

#เก้าเกริกพล

hastag1

เรียกว่าเป็นเรื่องราวดรามาลากยาวมาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมแล้วมาพีคตอนต้นเดือนนี้เลยทีเดียว กับเรื่องราวของค่ายเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น กับ เก้า เกริกพล หนุ่มน้อยศิลปินที่ได้ร่วมสร้างผลงานเพลง "เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว" ที่ทั้งคู่ได้มีข้อพิพาทกันเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งทางฝั่ง เก้า เกริกพล ไม่ได้อยากออกมาสร้างดราม่าเพื่อเรียกร้องอะไรเลย เขาแค่ออกมาปกป้องคนในครอบครัว หลังจากที่ฝั่งเพลง ได้หมดถ้าสดชื่น ได้ออกมาโพสต์ข้อความและชี้เป้าไปให้พ่อของเขาทัวร์ลง หลังจากนั้นก็มีการงัดหลักฐานต่างๆ ออกมาฟาดกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาใจที่ไม่มีจริง การบอกจะแบ่งผลประโยชน์ให้ถ้าเก้ายอมเซนต์สัญญาเข้าค่าย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีค่ายเพลงด้วยซ้ำ ตลอดไปจนถึงเรื่องค่าตัว 500 บาท ที่เก้าได้รับหลังจากไปออกรายการต่างๆ ทั้งๆ ที่ควรได้มากกว่านั้น จึงเรียกว่าเป็นดรามาหม้อร้อนรับต้นเดือนที่หลายๆ ฝ่ายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

#PrayforLebanon

hastag2

เป็นเรื่องสลดรับเดือนสิงหาคมที่เรียกว่าช็อกโลกจริงๆ หลังจากเกิดเหตุระเบิด เมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ผู้เสียชีวิตแล้ว 78 บาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน เหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่คลังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรท 2,700 ตันที่ถูกเก็บไว้ในโกดังท่าเรือเป็นเวลา 6 ปี จึงทำให้ทั่วทั้งโลกติดแฮชแท็ก #PrayForLebanon รวมถึงระดมทุนทั้งเงินและสิ่งของเพื่อเข้าช่วยเหลือให้กับประเทศเลบานอนกันอย่างเต็มที่

#หม่อมถนัดแดก

hastag3

หนึ่งดราม่าที่เรียกว่า อย่าหาทำ หลังจากที่เพจ หม่อมถนัดแดก ได้ลงคลิปทำเมนูไก่หลุม ซึ่งเป็นเมนูโบราณ ที่เป็นเมนูที่คนบางกลุ่มคิดค้นขึ้นมา โดยมิวิธีการทำที่โหดร้ายทารุน และเข้าขั้นการทรมานสัตว์ จนเรียกว่าทัวร์ลงหนักมาก เพราะเหมือนเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนเบียดเบียนชีวิตสัตว์ จนทางเพจต้องลบคลิปออกไป รวมถึงออกมาแถลงว่า ไก่กะทิกับไก่ที่ฝังเป็นคนละตัวกัน เป็นการทำที่สาธิตให้ดูเฉยๆ ส่วนเจ้าไก่ตัวนั้นยังปลอดภัยดี และทำการขอโทษอีกครั้งกับหลายๆ คนที่ไม่พอใจ

#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน

hastag4

เรื่องราวร้อนแรงประจำเดือนสิงหาคม ก็คงต้องให้แฮชแท็ก #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน จริงๆ เพราะจากเหตุการณ์ในวันที่ 10 สิงหาคม ได้มีนักศึกษา-ประชาชนร่วมหมื่นคนมาชุมนุมแฟลชม็อบ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และนอกจากนั้นที่ผ่านมา ก็มีนักศึกษาและประชาชนมากมายที่ออกมาชุมนุมแฟลชม็อบเช่นนี้ โดย แฟลชม็อบ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ได้ประกาศข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ที่รวมไปถึงยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และอื่นๆ ซึ่งการชุมนุมในครั้งนี้ก็มีผู้ที่คิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นแฮชแท็กร้อนแรงที่เป็นที่สนใจมากที่สุดในเดือนนี้เลยก็ว่าได้

#เรือดําน้ำมีไว้ทําไม

hastag5

ด้วยที่ประเทศไทย ปลดประจำการเรือดำน้ำไปแล้ว 4 ลำ จึงทำให้ปัจจุบันประเทศไทยเราไม่มีเรือดำน้ำประจำการเลยซักลำ จึงทำให้มีการพิจารณาเรื่องกองทัพเรือขอซื้อเรือดำ และผ่านการอนุมัติ ซึ่งการอนุมัติซื้อเรือดำน้ำในครั้งนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่า ซื้อไปทำไมในตอนนี้ เพราะช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อเรือดำน้ำ เพราะเศรษฐกิจกำลังแย่ ประชาชนกำลังลำบาก ควรนำงบประมาณจำนวนมหาศาลนั้นมาช่วยเหลือประชาชนมากกว่า จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #เรือดําน้ำมีไว้ทําไม ขึ้นมา

#ม้าอรนภา

hastag6

กลายเป็นเรื่องราวที่เรียกว่าไฟลุก ทั่วทุ่งทวิตเตอร์เลยทีเดียว สำหรับ ม้า อรนภา ที่เริ่มต้นจากการที่แสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊ก ถึงเรื่องเหล่านักเรียนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย โดยเธอได้แสดงความคิดที่ว่า “นอนแหกxxอยู่บ้านไป ไม่ต้องมาเรียน เด็กเปรต" ซึ่งมีคนแคปคอมเมนต์มาแชร์กันต่อ และก็ลามไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแซบมาก ด้วยความเห็นที่ที่หยาบคายจึงทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่โอเคกับความเห็นของเธอ จนถึงขึ้นมีการรณรงค์ให้แบนผลงานของเธอ จนทำให้รายการ “ข่าวใส่ไข่” ได้ออกมาประกาศว่า ม้า อรนภา ไม่ได้มีส่วนร่วมในรายการอีกต่อไป

#รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส

hastag7

ในวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ได้ออกมาโพสต์ผ่านกรุ๊ป รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส ว่า "แจ้งข่าวด่วน เย็นนี้รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสจะถูกบล็อกจากไทย กลุ่มยังอยู่ แต่เข้าจากไทยไม่ได้อีกต่อไป" หลังจากนั้น ดร.ปวิน ได้มีการเปิดกลุ่มใหม่ และมีคนเข้าร่วมกว่า ห้าแสนคนภายในหนึ่งวัน หลังจากนั้น ดร. ปวิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า การที่เฟซบุ๊กยอมรับคำขอของรัฐบาลไทย นั่นหมายความว่า เฟซบุ๊กยอมเป็นส่วนหนึ่งของการปิดกั้นการแสดงออกอย่างเสรีและการขับเคลื่อนประชาธิปไตยของไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เฟซบุ๊กเตรียมฟ้องรัฐบาลไทย โดยทางเฟซบุ๊กได้แจงว่า คำขอของรัฐบาลไทยนั้นขัดกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล และกระทบต่อการแสดงออกของประชาชน ซึ่งเฟซบุ๊กทำงานเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook