"นะโม-ติณห์ ตันโสภณ" กับ post-thesis แฟชั่นจากชุดนักเรียน เพื่อเปลี่ยน Mindset ของคำว่ายูนิฟอร์ม
เมื่อกล่าวถึงยูนิฟอร์มนักเรียน เราก็ต้องนึกถึงชุดที่เราเคยได้สัมผัส ได้เห็นกันมานับร้อยปี ซึ่งยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ค่านิยมก็มีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ในยุคสมัยใหม่แบบนี้เด็กทุกคนก็มีความคิดและการแสดงออกที่แตกต่างกันไปจากยุคสมัยที่ผ่านมา ซึ่ง นะโม-ติณห์ ตันโสภณ ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีความคิดที่สร้างสรรค์และอยากที่จะเปลี่ยนแปลงค่านิยมของ "ยูนิฟอร์มชุดนักเรียน" ให้เป็นไปตามยุคสมัย และพาชุดนักเรียนก้าวข้ามผ่านค่านิยมเก่าๆ สู่การเปิดกว้างทางการแสดงออกของเด็กในยุคปัจจุบันมากขึ้น
ซึ่ง Sanook Campus ก็ได้มีโอกาสได้พูดคุยและสัมภาษณ์กับ นะโม-ติณห์ ตันโสภณ เจ้าของแบรนด์ post-thesis ถึงไอเดียสุดไม่ธรรมดา กล้าที่จะฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ เพื่อเป็นจุดกำเนิดแรกของการสร้างความเข้าใจและค่านิยมใหม่ๆ ให้กับทั้งผู้ใหญ่และเด็กคนละครึ่งทาง
"นะโม-ติณห์ ตันโสภณ" กับ post-thesis แฟชั่นจากชุดนักเรียน เพื่อเปลี่ยน Mindset ของคำว่ายูนิฟอร์ม
อยากให้คุณนะโมแนะนำตัวหน่อย
ชื่อ ติณห์ ตันโสภณ ชื่อเล่น นะโม ครับ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ตอนนี้เป็นนักออกแบบ และ เจ้าของแบรนด์ post-thesis ครับ
ทำไมเราถึงเลือกที่จะเรียนทางด้านออกแบบแฟชั่น?
ที่เลือกเรียนด้านนี้จริงๆเป็นคนชอบวาดรูปตั้งแต่เด็กๆ เราชอบดูการ์ตูน หรือเล่นเกมที่มีตัวละครใส่เสื้อผ้าสวยๆที่ให้แรงบันดาลใจเรา แต่มาเริ่มจริงจังมากขึ้นสมัยมัธยมด้วยการเริ่มดูแฟชั่นของจริงไม่ว่าจะเป็นพวกนิตยสาร หรือ แฟชั่นโชว์ต่างๆ เลยทำให้เราตัดสินใจอยากเรียนมาในทิศทางนี้ครับ
สิ่งที่คนที่อยากเรียน ออกแบบแฟชั่น ควรมี มันคืออะไร
สิ่งที่คนอยากเรียนแฟชั่นควรมีผมมองว่าหลักๆเลยคือ Passion เอาจริงๆ ก็ทุกสาขาแหละไม่ว่าจะแขนงไหนมันควรมี Passion ความชอบส่วนตัวของเราตั้งแต่แรก เพราะว่าถ้าคนไม่ชอบหรือไม่ได้อินแฟชั่นจริงๆ มันอาจจะไม่มีความสุขมากเท่าไหร่ตอนเรียนเพราะมันมีหลายรายละเอียดที่คนคิดว่ามัน “ไม่ยากแค่ออกแบบเองอะไรแบบนี้” จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยเรามองว่าแฟชั่นมันไม่ใช่เรียนเพื่อเอา Profile สวยๆ อะ คือมันอาศัยการทำความเข้าใจและการตีความ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะหรือ สังคม ดังนั้นถ้าขาดสิ่งนี้ในการเรียนคุณจะไม่มีความสุขในการเรียนเลย
อยากให้เรากล่าวถึง post-thesis หน่อยว่าเราได้ไอเดีย ได้ความคิดมาจากไหน?
ความเป็นมาของแบรนด์จริงๆ แล้วชื่อมันเริ่มมาจากตั้งแต่ตอนผมทำพรีทีสิสครับ คือ ตอนสมัยเราทำทีสิสเราได้มีโอกาสหา แรงบันดาลใจในงานได้เยอะมาก เพื่อนำเสนออาจารย์ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่เราสนใจแต่ว่าสุดท้ายแล้วการตัดสินใจในการใช้เรื่องไหนก็ตามอาจารย์ก็จะมีส่วนในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน จึงไม่ใช่การตัดสินของเราเต็ม 100% ผมเลยรู้สึกว่าอยากมีพื้นที่ในการนำเสนองานที่เราอยากทำแบบ 100% โดยไม่มีใครมาควบคุมงานเรา ซึ่งผมไม่ได้มีโอกาสได้ทำในตอนนั้น แต่หลังจากที่งานทีสิสผมประสบความสำเร็จแล้วผมเลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนางานต่อ ผมเลยนำชุดทีสิสผมที่เป็นชุดนักเรียนมาพัฒนาต่อเรื่อยๆเป็นอย่างแรกครับ ด้วยความที่เรื่องนักเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในความคิดผมมานานมากและเราก็อินกับระบบการศึกษามากและอยากให้มันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ผมเลยอยากจะพัฒนางานชิ้นนี้ต่อไปเรื่อยๆครับ
สำหรับเราคำว่า post-thesis มันคืออะไร?
เรามองว่า post-thesis เป็นเหมือนพื้นที่หรือ Playground ของไอเดียและความคิดส่วนตัวของเราที่เราสามารถนำไอเดียเก่าๆที่ไม่ได้มีโอกาสได้ทำในจังหวะเวลานั้นๆมาพัฒนาต่อได้เรื่อยๆ จริงๆมันก็คือเปิดแบรนด์แหละในมุมมองของหลายๆคน แต่มุมมองของเรามันเหมือนกับการที่เราสร้าง platform ของเราเองเพื่อให้เราได้มีพื้นที่ทำอะไรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบางครั้งมันอาจจะไม่ใช่แค่เสื้อผ้าอย่างเดียวด้วยซ้ำ
ผลงานนี้เป็นการเปิดมุมมองที่แตกต่างของยูนิฟอร์มชุดนักเรียน ทำไมต้องเลือกทำผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดยูนิฟอร์มนักเรียน?
ที่เราเลือกทำผลงานชุดนักเรียน เพราะเรามองว่าเป็นประเด็นสำคัญที่เราอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะในหลายๆเหตุการณ์เราจะเห็นนักเรียนเป็นผู้ถูกกระทำโดยเสมอจากกฎโรงเรียน และเราอยากจะเปลี่ยน Mindset ของคนรุ่นเก่าๆให้ก้าวข้ามผ่านค่านิยมเก่าๆด้วย เพราะนี่มันปี 2020 แล้วแต่ค่านิยมชุดนักเรียนอยู่กันมาเป็น 100 ปีไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย เราจึงมองว่ามันถึงเวลาแล้วที่คนน่าจะต้องเห็นมุมมองใหม่ๆบ้าง
คำว่ายูนิฟอร์มนักเรียนต้องแต่งให้เรียบร้อย แต่ในยุคที่เปลี่ยนไป คำว่าเรียบร้อยก็เปลี่ยนไป แล้วสำหรับเราคำว่า เรียบร้อยคืออะไร?
เรามองว่าปัจจุบันเสื้อผ้ามันถูกขยายโอกาสให้ใส่ได้หลายๆ Occasion มาก ความเรียบร้อยของแต่ละคน มันจึงตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้นเรามองว่าเราไม่ควรที่จะไปตัดสินการแต่งตัวของคนอื่นเลย เรารู้สึกว่าเราอยากเห็นสังคมใหม่ๆที่เลิก ตัดสินคนอื่นที่เสื้อผ้า คุณใส่ยีนขาดมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจน หรือ คุณไม่เรียบร้อย ถ้าเขาชอบการแต่งกายแบบนั้น ดังนั้นเรามองว่าเสื้อผ้ามันมีความลื่นไหลได้ตลอด เราต้องหัด ยอมรับกันในเรื่องการแต่งกายในหลายๆรูปแบบบ้าง ซึ่งคนไทยยังไม่ชินกับเรื่องพวกนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ
เราคิดว่าเด็กทุกคนควรมีเสรีในการเลือกที่จะใส่สิ่งที่ตัวเองอยากใส่ไปเรียน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นยูนิฟอร์มไหม?
เด็กและมนุษย์ทุกคนควรมีเสรีในการเลือกการแต่งกาย เรามองว่านักเรียนมันคือ Position ที่ต้องค้นหาตัวเอง เราไม่ควรไปตีกรอบเด็กเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเด็กโตไปจะเป็นอะไร ดังนั้นการที่ไปสร้างกรอบให้เขาตั้งแต่แรกมันเหมือนเป็นการตัดโอกาสเขาเต็มๆ เลย ส่วนยูนิฟอร์มเรามองว่าควรสอนให้เด็กได้เรียนรู้ถึงอาชีพที่ต้องใส่ยูนิฟอร์มจริงๆ ไม่ใช่ไปเหมารวมเด็กว่าทุกคนต้องใส่เหมือนกันหมด เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนที่อยากใส่ยูนิฟอร์ม ก็ควรสอนไปเป็นเรื่องๆว่า อาชีพนี้ต้องใส่เพราะอะไรซึ่งมันมีเหตุผลในการใส่อยู่แล้วในแต่ละอาชีพ แต่ไม่ใช่นักเรียน เรื่องเสื้อผ้าอย่างที่บอกไปข้างต้นคือควรปลูกฝังความคิดใหม่ว่าเด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแต่งอะไรก็ได้ สิ่งสำคัญเลยคือบุคลากรที่มี Mindset ที่ก้าวทันโลกยุคใหม่และค่านิยมหัวก้าวหน้าด้วยเช่นกัน เพราะคุณครูหรือผู้ปกครองคือคนที่ปลูกฝังเด็ก ดังนั้นคุณปลูกฝังเด็กยังไง เด็กก็จะเติบโตไปในแบบที่คุณปลูกฝังเช่นกัน
การจะรังสรรค์ผลงานออกมาแต่ละชิ้น เราต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ในการออกไอเดียและทำผลงานออกมา
ด้วย Concept ที่มันแข็งแรงมากการพัฒนางานต่อจึงเป็นเรื่องไม่ยาก เนื่องจากผมทำ Sketch ในช่วงเวลาตั้งแต่ทีสิสจนถึงปัจจุบันไว้เยอะมาก ดังนั้นการจะหยิบมาใช้จึงเป็นเรื่องง่ายเพราะเราได้มีการตีความ ตกผลึกเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่สิ่งที่ต้องใช้เวลาคือบริบทของเรื่องในแต่ละรอบในการ Launch Campaign ว่าเราอยากจะนำเสนอ ข้อความอะไรในแคมเปญนั้นๆมากกว่า รวมไปถึงไอเทมสินค้าที่ตอบโจทย์ด้วยว่าเราควรจะหยิบไอเทมแบบไหนมาใช้ในแคมเปญนั้นๆ
ผลงานของเราเรียกว่าเป็นไวรัลและกลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเชียลมากๆ อะไรที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นของผลงานของเราที่ทำให้หลายคนสนใจ?
เรามองว่าจุดเด่นเราคือสตอรี่แหละ ด้วยความที่เรื่องนักเรียนมันอยู่คู่กับคนไทยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย แต่แค่มันยังไม่ถูกนำเสนอในมุมมองที่หลุดออกจากกรอบเดิมๆ ดังนั้นการที่จะมีมุมมองใหม่ๆเกิดขึ้นมาจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ มันก็ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจงานได้ง่ายขึ้น
อยากให้ฝากผลงาน ช่องทางการติดตามของนะโมหน่อย สามารถติดตามนะโม หรือ ติดตามแบรนด์ ผลงานของเราได้ที่ไหนบ้าง?
ยังไงก็ขอฝากแบรนด์ post-thesis ไว้กับทุกคนด้วยนะครับ ตอนนี้ก็พึ่งจะครบรอบปีที่เปิดแบรนด์มา ผมก็จะพยายามพัฒนาเรื่องราวต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็ยังมีไอเดียที่อยากทำอีกเยอะมากยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ สามารถติดตามแบรนด์กับผมได้ที่
- IG : postthesis
- IG ส่วนตัวผม : @14.1.13.15
- Facebook : post-thesis
อัลบั้มภาพ 43 ภาพ