เคล็ดลับ จับโป๊ะ คนโกหก จากภาษาท่าทาง

ความจริงใจเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาจะได้รับจากคนที่รู้สึกดีด้วย แต่เมื่อถูกทำให้เสียความรู้สึกด้วยการโกหก หรือไม่พูดความจริงต่อกัน จึงทำให้หมดความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมีให้แก่กัน
ถ้าไม่อยากถูกหลอกก็ต้องหมั่นสังเกตท่าทางภาษากายด้วยว่าคนเหล่านั้นมีท่าทีอย่างไรในขณะที่กำลังพูดคุยกับเราอยู่ ซึ่ง Judi James ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากาย มีวิธีจับโป๊ะคนโกหกจากภาษากายมาแนะนำกัน เพื่อช่วยให้มองออกง่ายขึ้นว่าคนที่คุยอยู่กับเราพูดความจริงหรือกำลังโกหกอยู่กันแน่
คิดนานกว่าจะตอบคำถาม
การโกหกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เพราะสมองจะนึกถึงความจริงก่อน จากนั้นจึงค่อยคิดคำโกหกตามมา จึงเป็นเหตุให้ใช้เวลานานกว่าจะตอบคำถาม และบางทีก็มักเฉไฉด้วยการถามกลับว่า “ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะ”
ทำตาหลุกหลิก
เมื่อดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ จึงช่วยให้เราจับโกหกได้ง่ายขึ้น เพราะเวลาที่พวกเขาคิดคำโกหก สายตาจะหลุกหลิก และไม่กล้าสบตากับคนที่พูดด้วยตรง ๆ
หายใจดังและถี่
การบิดเบือนความจริงจะส่งผลต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว โดยคนที่กำลังโกหกจะมีจังหวะการหายใจที่สั้นขึ้นและถี่ขึ้นจนสังเกตเห็นได้ รวมถึงมีอาการปากแห้ง และเหงื่อออกมากกว่าปกติด้วย
มีท่าทางเยอะ และพูดมากกว่าปกติ
คนโกหกจะมีทั้งท่าทางและการพูดที่มากผิดปกติ เพื่อจะพยายามโน้มน้าวให้คนเชื่อ มากกว่าจะสบสายตาคู่สนทนา และมักจะไม่ค่อยกะพริบตา
ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ
การแสดงท่าทีเรียบเฉย ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ และแทบจะไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พบได้ในคนโกหก เพราะเขาไม่ต้องการให้คู่สนทนาจับพิรุธได้
ก้มหน้า
คนโกหกมักจะชอบก้มหน้าเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร รวมถึงชอบเอานิ้วแตะปลายจมูก และเอามือมาบังส่วนปากไว้ด้วย
ทำอะไรให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย
เมื่อรู้สึกเครียด พวกเขาจะหาวิธีทำให้ตัวเองผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว เช่น นั่งโยกเก้าอี้, เล่นผม, กระดิกนิ้ว หรือหมุนแหวนเล่น
จับอากัปกิริยาได้ยาก
บางครั้งการแสดงสีหน้าท่าทางของคนที่กำลังโกหกอยู่ก็อาจจับได้ยาก แต่วิธีที่พอจะช่วยได้ คือจับสังเกตตอนที่พวกเขาพูดจบว่าเบ้ปากหรือกลอกตาบนหรือไม่
มือกับคำพูดไม่สัมพันธ์กัน
เวลาที่คนเหล่านี้โกหก จะสังเกตได้ว่าท่าทางที่เขาแสดงออกมาจะดูแปลก ๆ ดูแล้วไม่ธรรมชาติ เพราะมือไม้ไม่สัมพันธ์กับการพูดของตัวเอง