“ฝนตก น้ำท่วม กลับไม่ได้” กับอุปกรณ์ยังชีพที่หาได้ในร้านสะดวกซื้อ

เวลาที่ฝนตก น้ำท่วม กลับบ้านไม่ได้ พวกเราเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทำอย่างไรกัน ดันทุรังกลับหรือแวะพักระหว่างทางดี แต่ถ้าใครกำลังคิดอยู่ว่าถ้าจำเป็นต้องเดินทางระหว่างฝนยังไม่หยุด น้ำยังไม่ลด หรือรู้สึกหิวจนท้องร้อง พอจะมีไอเทมอะไรบ้างที่ช่วยให้เรายังชีพในระหว่างเดินทางสุดสมบุกสมบันนี้ได้ เป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อข้างทาง โดย Tonkit360 จัดมาให้ถึง 10 อย่าง ว่าแล้วเย็นนี้ก็แวะร้านสะดวกซื้อพกติดกระเป๋าไว้เลยดีกว่า

1. ร่ม

ร่ม เป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนควรจะมีติดกระเป๋าในทุกฤดู กันแดดก็ปัง กันฝนก็ได้ ใช้ง่ายกว่าเสื้อกันฝน และกันเปียกได้ดีกว่าหมวก (แต่ถ้าตกหนักมากร่มก็เอาไม่อยู่) ปัจจุบันร้านสะดวกซื้อหลาย ๆ เจ้าก็มีขายให้เกลื่อน มีหลายสีหลายขนาดให้เลือก คันเล็กก็เล็กพอจะสามารถพกใส่กระเป๋าสะพายข้างได้ ส่วนคันใหญ่ทุกวันนี้ก็เห็นคนใช้กันเยอะ จนกลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว

2. เสื้อกันฝน

น่าจะเป็นอุปกรณ์กันฝนที่หาซื้อได้ง่ายที่สุดแล้วตามร้านสะดวกซื้อ กรณีที่ฝนตกลมแรง ร่มต้านไม่อยู่ แต่เสื้อกันฝนนี่อยู่ทนแน่นอน หรือบางคนก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกใช้ร่ม เสื้อกันฝนก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ข้อดีของเสื้อกันฝนคือ หาซื้อง่าย สะดวกพกพา ราคาไม่แพง แค่หลักสิบต้น ๆ ก็ซื้อได้แล้ว และที่สำคัญ สามารถกันฝนได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า (ยกเว้นรองเท้าที่เดินลุยน้ำท่วม)

3. หมวก

ศีรษะ เป็นอวัยวะที่ไวต่อฝนมาก แค่ละอองเล็กน้อยก็ทำให้ไม่สบายได้แล้ว ในขณะที่หมวกเป็นอุปกรณ์ที่กันฝนได้เฉพาะศีรษะ จึงมีขีดจำกัดในการใช้งาน คือ กันได้แค่ละอองฝน หรือฝนเม็ดเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ข้อดีของหมวก คือ ใช้ร่วมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นได้ จะกางร่มหรือใส่เสื้อกันฝน ก็ใส่หมวกป้องกันอีกชั้นได้ ส่วนร้านที่จะหาซื้อได้ มักจะเป็นร้านสะดวกซื้อตามปั๊มน้ำมัน หรือร้านสะดวกซื้อที่ขนาดใหญ่หน่อยน่าจะมี

4. รองเท้าแตะ

อุปกรณ์ช่วยชีวิตในการเดินเท้า เพราะเวลาที่ฝนตก พื้นถนนจะแฉะ มีน้ำขัง แถมยังมีฟุตบาทเสี่ยงทายอีกต่างหาก และอุปสรรคใหม่ล่าสุดของชาวกรุง ก็คือ น้ำท่วม เพราะฉะนั้น แวะซื้อรองเท้าแตะไว้ไม่เสียใจแน่นอน ดีกว่าเอารองเท้าคู่ที่ใส่ประจำไปเดินลุยน้ำเฉอะแฉะ อย่างรองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ รองเท้าส้นสูงสวย ๆ ราคาแพง ๆ ไม่ใช่แค่เดินลำบากเท่านั้น แต่ถ้าเลอะขึ้นมาสภาพดูไม่จืดเลยล่ะ

5. ถุงพลาสติก/ถุงดำ

แนะนำให้หยิบมาจ่ายเงินพร้อมกับรองเท้าแตะเลยละกัน แต่ก่อนเราอาจจะไม่เห็นความสำคัญของถุงขยะสีดำแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้กรุงเทพฯ น้ำท่วมง่ายเกินไปหน่อย ถุงดำเลยจำเป็น เพราะบางคนมีรองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ รองเท้าส้นสูง หรือแม้แต่รองเท้าแตะเองก็ตาม เจอสภาพน้ำรอการระบาย ก็ยังไม่สามารถทำใจลงไปลุยได้เลย เอาถุงครอบรองเท้าก่อนแล้วค่อยลงไปเดินยังจะดีกว่า หรือจะเอาไว้ใส่ของอื่น ๆ กันเปียกน้ำก็ยังได้เลย

6. ทิชชู่เปียก

อุปกรณ์ทำความสะอาดเบื้องต้นชิ้นสำคัญในช่วงหน้าฝนเลย หรือจะเรียกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่พวกเราควรจะมีติดตัวไว้ทุกคน ไม่ใช่หน้าฝนก็พกไว้ด้วย หลังจากที่เดินฝ่าสายฝน เดินบนฟุตบาทเสี่ยงทาย หรือเดินลุยน้ำโคลน น้ำขังเหม็น ๆ มาแล้ว จะให้ทนอยู่อย่างนั้นก็ใช่ที่ ซึ่งถ้ามีทิชชู่เปียกในกระเป๋ายังช่วยแก้ขัดได้บ้าง ถึงที่หมายแล้วค่อยจัดการอีกที ดังนั้นแล้ว ระหว่างทางถ้าเจอร้านสะดวกซื้อก็แวะซื้อเก็บไว้เลย

7. ยาลดไข้

ถ้าตัวเปียกฝน ระวังโรคภัยไข้เจ็บจะถามหา เพราะการที่เราตัวชื้น แล้วยังต้องเจอกับอากาศที่แปรปรวนทั้งวัน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เดี๋ยวต้องเข้าห้องแอร์ ร่างกายปรับตัวไม่ทันก็ป่วยได้ เลยจำเป็นต้องมียาแก้ปวด-ลดไข้ ติดตัวติดกระเป๋าไว้บ้าง ซึ่งก็หาซื้อไม่ยากเพราะเป็นยาสามัญประจำบ้านทั่วไป (แต่ถ้าไม่มีอาการป่วยไม่ต้องกินดัก อ่าน “เข้าใจใหม่! รู้สึกเหมือนจะป่วย “กินยาดัก” ไม่ได้ช่วยอะไร“)

8. ยารักษาน้ำกัดเท้า/โรคผิวหนัง

เมื่อฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดการณ์ น้ำท่วมสูงกว่าที่คิด หุ้มเท้าด้วยถุงพลาสติกอย่างไรก็เอาไม่อยู่ แวะเข้าร้านขายยาซื้อยารักษาน้ำกัดเท้าหรือรักษาโรคผิวหนังมาไว้รอเลยได้ใช้แน่นอน ถ้าเริ่มมีอาการคันหรือเท้าเริ่มเป็นแผล ส่วนยาโรคผิวหนังก็อย่างพวกยาแก้แพ้ ยาทาแก้คัน ยารักษาโรคผิวหนัง สำหรับผิวหนังของบางคนจะค่อนข้างอ่อนไหวกับน้ำฝน เมื่อถูกฝนก็อาจจะเกิดอาการคัน

9. ซองโทรศัพท์กันน้ำ

ในกรณีที่ฝนตกหนัก เสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด น้ำอาจจะซึมไปหาโทรศัพท์ได้ด้วย เสี่ยงต่อการที่โทรศัพท์จะพังเอาได้ แต่ถ้าเรามีซองโทรศัพท์กันน้ำไว้ชีวิตก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะ อยากจะหยิบมาใช้ก็หยิบง่าย โทรศัพท์ไม่เปียก นอกจากนี้ถ้ายังพอมีที่ในกระเป๋าเหลือ ก็นำเอาข้าวของอื่น ๆ เช่น เงิน กุญแจบ้าน กุญแจรถ แยกออกมาต่างหาก เมื่อจำเป็นต้องหยิบออกมาใช้ จะได้หยิบง่ายใช่สะดวก

10. อาหารสำเร็จรูป

หิวนักก็หยุดพัก เรื่องกินคือเรื่องใหญ่ อย่าทนหิวในวันที่ฝนตกแบบนี้ เพราะการที่ฝนตก น้ำท่วม รถติด เป็นบรรยากาศที่ชวนให้หงุดหงิดที่สุด ยิ่งถ้าท้องว่างด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง อาจมีอาการโมโหหิวได้ เพราะฉะนั้น แวะหาของกินที่ร้านสะดวกซื้อก่อนน่าจะดีกว่า อย่างพวกเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป ที่แค่กดน้ำร้อน หรือเข้าไมโครเวฟก็กินได้แล้ว เมื่อกินอิ่มมีแรง อารมณ์ก็ดีขึ้นนิดนึง จากที่รู้สึกหัวร้อนอยู่เมื่อกี๊อาจจะชิลขึ้นมาอีกนิดได้