มนุษย์ใช้เวลากับการซุบซิบนินทาถึง 52 นาทีต่อวัน !!

มนุษย์ใช้เวลากับการซุบซิบนินทาถึง 52 นาทีต่อวัน !!

มนุษย์ใช้เวลากับการซุบซิบนินทาถึง 52 นาทีต่อวัน !!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นิตยสาร National Enquirer เป็นที่นิยมเพราะสื่อดังกล่าวสามารถจับอารมณ์และธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ที่มักอยากรู้เรื่องราวของคนอื่น และนักพฤติกรรมศาสตร์ก็บอกว่า คนเรานั้นมักสนใจเรื่องเล่าบอกต่อเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว

โดยคุณแฟรงค์ แมคแอนดรูว์ นักจิตวิทยาที่ Knox College ในรัฐอิลลินอยส์ อธิบายว่าเรื่องนี้สามารถสืบสาวย้อนหลังกลับไปสมัยที่เรายังเป็นมนุษย์ถ้ำอยู่ ซึ่งการสื่อสารและการเรียนรู้ทางสังคมต้องอาศัยการบอกเล่า และในยุคนั้นบรรพบุรุษของเราได้รู้ว่าใครที่มีอำนาจ ใครที่ควบคุมทรัพยากร ใครหลับนอนกับใคร และใครเป็นผู้นำหรือเป็นคนที่ไม่ดีด้วยวิธีนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็ช่วยให้มนุษย์ถ้ำสามารถอยู่รอดและก้าวหน้าทางสังคมได้นั่นเอง

มาในปัจจุบัน นักวิจัยให้ตัวเลขว่าเราใช้เวลากับการซุบซิบนินทา ซึ่งก็หมายถึงการพูดถึงคนอื่นแบบลับหลังในเรื่องราวซึ่งไม่เป็นที่ทราบกันมาก่อนถึงราว 52 นาทีต่อวัน ในรูปแบบต่าง ๆ นับตั้งแต่การพูดคุยในที่ทำงาน การโทรศัพท์สนทนา การพูดคุยแบบตัวต่อตัวในสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่น ที่ร้านตัดผม หรือในวงอาหาร รวมทั้งการแชร์ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น

และแม้ว่าภาพเดิม ๆ เกี่ยวกับต้นตอของการแพร่ข่าวเล่าลือมักจะเป็นเพศหญิงในกลุ่มผู้มีการศึกษาต่ำและมีรายได้ต่ำนั้น แต่นักวิจัยบอกว่า พฤติกรรมดังกล่าวเกิดกับคนทุกเพศและทุกวัยในทุกฐานะทางสังคม

นักวิจัยบอกด้วยว่า ถึงแม้บางครั้งการนินทาอาจจะเป็นผลเสีย โดยเฉพาะถ้าเป็นการแพร่ข่าวลือที่ไม่จริงหรือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนอื่น แต่พฤติกรรมซุบซิบส่วนใหญ่มักไม่มีภัย และช่วยให้เราได้เรียนรู้บรรทัดฐานหรือวัฒนธรรมทางสังคมโดยทางอ้อม ซึ่งก็ช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้

แต่ที่น่าสังเกตก็คือ พฤติกรรมซุบซิบนินทามักเป็นเครื่องแสดงว่าเราต้องการสร้างความสัมพันธ์และมีความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับหนึ่งกับผู้ที่เราต้องการแบ่งปันข้อมูลด้วย ถึงแม้ว่าข้อมูลนั้นอาจไม่น่าเชื่อถือหรือเป็นจริง 100% ก็ตาม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้รับข่าวควรต้องกลั่นกรองก่อน

และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ในชีวิตจริงของเรานั้นเราอาจได้ฟังเรื่องเล่าบอกต่อมากมายซึ่งส่วนใหญ่อาจจะน่าเบื่อหรือไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าใดนัก เพราะเป็นเพียงความพยายามของคนบางคนที่อยากระบายความอัดอั้นตันใจ และเพียงอยากจะบอกว่าตนมีอะไรบางอย่างที่อยากเล่าให้ฟัง

เพราะบ่อยครั้งที่เราก็ต้องการคนรู้ใจที่พร้อมจะรับฟังการซุบซิบนินทา ถึงแม้ว่าในฝ่ายของคนฟังแล้วอาจจะดูรกสมอง หรือฟังแล้วชวนให้น่าหนักใจ แต่ก็ต้องทนฟังไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook