“ขอทานออนไลน์” หากินง่าย จากความสงสารของคนใจบุญ

คนไทย “ใจบุญ” ไม่แพ้ชาติใดในโลก เรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทุกคนมาแล้ว ไม่ว่าจะมีการเปิดรับบริจาคเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อนทั้งไทยและต่างประเทศ ก็มักจะมีเงินบริจาคหลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย

แต่ความขี้สงสารของคนไทยก็กลายเป็น “ช่องโหว่” ที่เปิดทางให้เหล่ามิจฉาชีพเข้ามาหาผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน และกว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอก ก็เสียเงินเสียทองไปเรียบร้อยแล้ว

อาศัยความใจบุญ หากินง่าย ๆ

คนบางจำพวกหากินง่าย ๆ จากการอาศัยความใจบุญสุนทานของเพื่อนมนุษย์ ด้วยการโพสต์ขอความช่วยเหลือทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งเรามักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์

วิธีการที่เห็นกันจนชินตา คือการโพสต์บอกเล่าความยากลำบากของตนเอง ที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้ต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้าย พร้อมด้วยรูปประกอบ และปิดท้ายด้วยการขอบริจาคเงินเข้าบัญชีส่วนตัว

ขณะที่บางคนก็อาจจะมีสตอรี่ที่เข้ากับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อมากขึ้น เช่น ตกงานเพราะพิษของ COVID-19 ทำให้บริษัทที่ทำงานอยู่เลิกจ้าง เมื่อไม่มีงานเลยไม่มีเงิน จึงมาโพสต์ของาน เพื่อหาเงินไปเป็นค่าเทอมลูก หาเงินไปเลี้ยงดู ครอบครัว

หากไม่ได้โพสต์ในช่องทางของตัวเอง ก็มักจะเข้าไปคอมเมนต์หรือแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของคนดังที่มีคนให้ความสนใจ หรือตามเพจดังต่าง ๆ เพื่อหวังว่าจะมีคนมองเห็นข้อความของตัวเอง และมีคนเห็นใจหรือสงสาร โอนเงินเข้ามาในบัญชีให้บ้าง
ช่วยเงินเล็กน้อย ไม่ได้คิดอะไรมาก

ส่วนใหญ่คนที่มีพื้นฐานจิตใจดี ขี้สงสาร จะเต็มใจช่วยเหลือคนทุกข์ยากโดยไม่อิดออด เพราะมองว่าเงินเพียงเล็กน้อย แค่ 100-200 บาท ก็สามารถต่อชีวิตให้กับคนอื่นได้

ยิ่งทุกวันนี้การโอนเงินทำได้ง่ายดายกว่าแต่ก่อนมาก แค่เข้าแอปฯ Mobile Banking ในโทรศัพท์มือถือ ก็กดโอนเงินได้อย่างง่ายดายแล้ว ที่สำคัญ คนที่บริจาคเงินมักไม่ได้สนใจ หรือไม่มีเวลาไปตามเช็กรายละเอียดว่าการโพสต์ขอเงินบริจาคนั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง จึง
โอนเงินไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้หาเงินได้แบบสบาย ๆ บางคนได้รับเงินบริจาคมากมายเป็นหลักหมื่น หลักแสน บางคนได้ถึงหลักล้านจนเปลี่ยนชีวิตตั้งตัวได้ เหมือนที่มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ

เกิดดราม่า เพราะจับโป๊ะได้

ส่วนรายที่เป็นดราม่าจนเป็นข่าวใหญ่โต มักเกิดจากความสงสัยของชาวเน็ตที่จับโป๊ะได้ หรือเห็นความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น จึงพากันหาความจริงว่ากุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกคนอื่นหรือไม่

เมื่อโดนตามล่าหาความจริง ขุดข้อมูลขึ้นมาอ้างอิง หากไม่แก้ต่างให้ตัวเองรอดความผิด ก็หนีหายไปเลย หรือถ้าความจริงมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด ก็ต้องออกมาขอโทษสังคมตามระเบียบ

ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในตอนนี้ จะหางาน หาเงินได้ยากลำบากเต็มที หลายคนต้องตกงาน เพราะบริษัทปิดตัว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็ยังมีภาระต้องจ่ายทุกเดือน แต่ถ้าถือคติที่ว่า “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันอดตาย

ขอเพียงแค่เป็นคนขยันทำมาหากิน ไม่ว่าอาชีพใดก็ทำเงินได้ทั้งนั้น แม้เงินเดือนหรือค่าจ้างอาจจะน้อยนิด แต่ก็ยังมีเกียรติมากกว่าการหากินง่าย ๆ ด้วยการเป็น “ขอทานออนไลน์”

การแบมือขอเงินขอความเมตตาจากคนอื่น เพราะคิดว่าคนไทยหลอกง่าย โดยไม่คิดดิ้นรนด้วยตัวเองก่อน นอกจากจะเป็นการลดเกียรติและคุณค่าของตัวเองแล้ว ยังเป็นการดูถูกน้ำใจคนไทยด้วยกันอีกด้วย!