Work Smart หรือ Work Hard คุณทำงานแบบไหน?
การทำงานใด ๆ ก็ตามให้ได้ประสิทธิผล และมาพร้อมกับประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องบริหารจัดการงานนั้น ๆ อย่างชาญฉลาด หรือที่เรียกกันว่า Work Smart ซึ่งต่างจากการทำงานแบบ Work Hard ที่แม้จะทำงานหนักชนิดหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยสุขภาพ และชีวิตส่วนตัวที่หายไป
หากใครยังนึกภาพไม่ออกว่าตนเองเป็นคนที่ทำงานแบบใด Tonkit360 รวบรวมลักษณะการทำงานของคนทั้งสองแบบมาเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าคนที่ทำงานแบบ Work Smart กับ Work Hard แตกต่างกันอย่างไร
Work Smart
คนที่ทำงานแบบ Work Smart เมื่อได้รับมอบหมายงานต่าง ๆ มักจะจัดลำดับความสำคัญของงานก่อนเป็นลำดับแรกว่างานชิ้นใดควรทำก่อนหรือหลัง และเมื่อมีงานใหม่ ๆ เข้ามา พวกเขาจะวิเคราะห์และวางแผนงานก่อนเสมอ จึงจัดสรรงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ใช้เวลาในการทำงานน้อยที่สุด
นอกจากนี้ พวกเขาจะใช้เวลาในการทำงานอย่างเต็มที่และคุ้มค่า โดยไม่เสียเวลาไปกับเรื่องเปล่าประโยชน์ เพื่อจะได้ทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลา และไม่ต้องหอบงานกลับไปทำต่อที่บ้าน เพราะมองว่าชีวิตส่วนตัวก็ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน จึงบริหารเวลาได้อย่างลงตัวทั้งเรื่องส่วนตัวและงาน
เราจึงมักเห็นคนที่ Work Smart จัดสรรเวลาได้เป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ไม่มีงานคั่งค้าง เพราะเคลียร์งานได้เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ามีงานประเดประดังเข้ามาจนเกินรับมือไหว ก็จะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาจนสายเกินแก้ แต่จะแจ้งให้หัวหน้างานหรือเจ้านายได้รับทราบ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างทันท่วงที
Work Hard
คนที่ทำงานแบบ Work Hard จะมองว่างานทุกอย่างมีความสำคัญเท่ากันทั้งหมด โดยมักทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายอย่างทุ่มเท เพื่อหวังให้บรรลุผลตามเป้าหมาย แต่มักจะไม่ได้วางแผนหรือจัดสรรการทำงานให้เป็นระบบ
เมื่อมีงานใดแทรกเข้ามา พวกเขามักจะรับงานนั้น ๆ มาทำโดยทันที ส่งผลให้บางครั้งงานล้นมือจนทำไม่ทัน ซึ่งเป็นเพราะไม่กล้าปฏิเสธงานที่เข้ามา และเวลาที่ได้รับมอบหมายงานต่าง ๆ พวกเขามักรับผิดชอบงานนั้น ๆ มาทำเองทั้งหมด เพราะเชื่อว่าตนเองสามารถจัดการได้แม้ว่าจะมีงานเยอะเพียงใดก็ตาม
เราจึงมักเห็นคนที่ Work Hard ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำทั้งที่ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เพราะใจอยากทำงานให้สำเร็จลุล่วง แม้จะต้องกลับบ้านดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม และหากทำไม่เสร็จก็มักเป็นกังวลว่าจะทำงานไม่ทันกำหนด ส่งผลให้ต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลให้ไม่มีเวลาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้