7 สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณ “ตกหลุมรัก” เข้าให้แล้ว

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และก็เป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนปรารถนาอยากจะมี แต่ด้วยสถานการณ์หลาย ๆ อย่างที่ทำให้ยังรู้สึกไม่แน่ใจ สับสน หรือไม่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำว่าตกหลุมรักเขาหรือเธอเข้าเต็มเปาแล้ว Tonkit360 จึงจะชวนคุณมาสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่บอกว่าคุณกำลังตกหลุมรักใครบางคนอยู่ ถ้ามีมากกว่า 4 ข้อก็เริ่มเข้าเค้า แต่ถ้าคุณเป็นทุกข้อล่ะก็ คงไม่ต้องบอกแล้วนะว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเขาหรือเธอ อาการมันฟ้องขนาดนี้

1. คุณดูแลเอาใจใส่เขาหรือเธอเป็นพิเศษ

คุณมีความรู้สึกว่าอยากจะดูแลและให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเขาหรือเธอมากกว่าที่คุณรู้สึกกับคนอื่น คุณจะทำดีกับคนคนนั้นมากจนผิดปกติ ยิ่งถ้าปกติคุณเป็นคนไม่แคร์โลก แล้วมารู้สึกแบบนี้กับคนเพียงคนเดียว มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะการที่คุณชอบใครสักคน มันทำให้คุณอยากจะปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อให้เขาหรือเธอเห็นว่าเราเองก็มีดีที่จะให้เขาหรือเธอหันมาพิจารณาดูบ้าง และก็หวังว่าการทำแบบนี้ จะทำให้เขาหรือเธอมีความรู้สึกดี ๆ เกี่ยวกับตัวเรามากขึ้น ทำให้คุณยอมทำทุกอย่างเพื่อดูแลเขาหรือเธอให้ดีที่สุดโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ

2. แอบหึงหวงอยู่ในใจ

มั่นใจเลยว่า 99.99 เปอร์เซ็นต์ จะต้องมีอาการหึงหวงบ้างถ้าคนที่เราชอบไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ว่าจะแสดงออกหรือไม่ก็ตาม แต่คุณจะรู้ตัวดีเพราะมีความรู้สึกแปล๊บ ๆ อยู่ในใจ อันที่จริงข้อนี้ค่อนข้างชัดเจนเลยล่ะ ถึงกระนั้นบางคนก็แยกไม่ออกว่าหวงเพราะความสนิทหรือหวงเพราะความรู้สึกอื่น ในกรณีที่คุณอยู่ในโหมดแอบชอบหรือ (ยัง) เป็นแค่เฟรนด์โซน รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้น หากคุณมีความรู้สึกว่าเขาหรือเธอควรจะเป็นของคุณเพียงคนเดียว ไม่อยากให้เขาหรือเธอเข้าใกล้ใครหรือใครมาเข้าใกล้ ก็ไม่ใช่ความรู้สึกอื่นแล้วล่ะ

3. ประทับใจสิ่งที่เขาหรือเธอทำให้เป็นพิเศษ

ไม่ว่าเขาหรือเธอจะทำอะไรให้ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยนิดหน่อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกหวั่นไหว หรือสามารถเอามาเป็นปลื้ม ยิ้มแก้มฉีกได้ทั้งวัน โลกเป็นสีชมพูตั้งแต่ตอนนั้นยันเข้านอน (เผลอ ๆ ไปต่อในฝันด้วย) และจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีก ถ้าคุณมองว่านิสัยใจคอของเขาหรือเธอนั้นช่างน่าดึงดูด ทำอะไรก็ดูน่ารักใจละลายไปหมด ก็ไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะ ดีใจด้วยนะ คุณมีใจให้เขาหรือเธอไปเรียบร้อยแล้ว เพราะความประทับใจที่คุณมีให้กับคนที่คุณแอบชอบน่ะนะ มันยากที่จะลืมเลือนไปจากความทรงจำ

4. เวลาน้อยแค่ไหนก็เคลียร์ให้เขาหรือเธอได้เสมอ

ถ้าปกติคุณเป็นพวกที่ชอบพูดว่า “สำคัญแค่ไหน ถ้าง่วงก็เลือกนอน” แต่กลับมีคนหนึ่งที่คุณยกให้เป็นกรณีพิเศษ แบบที่ “ถึงง่วงแค่ไหนก็ถ่างตารอ” เพราะคุณรอที่จะใช้เวลาร่วมกับเขาหรือเธอให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว ฉะนั้น ต่อให้กิจวัตรของคุณจะยุ่งวุ่นวายขนาดไหน เพื่อคนนี้แล้วตารางจะถูกเคลียร์คิวว่างเสมอ ยอมตัดช่วงเวลาที่สำคัญ (แต่น้อยที่สุด) ออกไป เพื่อให้ได้อยู่ด้วยกัน ชนิดที่ไม่มีอารมณ์เบื่อหน่ายแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้น คุณยังกลัวว่าถ้าคุณไม่มีเวลาสำหรับเขาหรือเธอ คะแนนที่สะสมมาก็จะลดลงเรื่อย ๆ จึงเคลียร์คิวด่วน ๆ

5. แอบส่องแอบเช็กโซเชียลมีเดียของเขาหรือเธอ

สิ่งที่เรียกว่าโซเชียลมีเดีย เอื้อให้เราตามสืบชีวิตของคนที่เราแอบชอบได้ง่ายขึ้น ขอแค่กลั้นใจ ทำใจกล้าสักนิดกดแอดเฟรนด์เขาหรือเธอไป รอให้กดรับ แค่นี้เราก็อัปเดตชีวิตประจำวันเขาหรือเธอได้แล้ว จะไปไหน ทำอะไรอยู่ คุณก็รู้ได้หมดผ่านกิจกรรมที่เขาหรือเธอโพสต์ ดีไม่ดีคุณอาจจะตั้งแจ้งเตือน หรือไม่ก็ตั้ง see first ไว้เลยก็ได้ ต่อให้มันเด้งแจ้งเตือนทั้งวัน คุณก็หารำคาญไม่ นี่ล่ะ คนที่กำลังอยู่ภวังค์แห่งรัก แต่ต้องเตือนนิดว่าอย่าล้ำเส้นจนดูเหมือนโรคจิตเชียวหรือพวกสตอล์กเกอร์เชียวนะ อันนั้นคือน่ากลัว เขาหรือเธอได้เผ่นหนีก่อนแน่

6. แอบสืบว่าเขาหรือเธอเคยมีแฟนเก่าหรือไม่ ถ้าเคยมีแฟนเก่าเป็นคนแบบไหน

ถ้าข้อบน ๆ ที่ผ่านมาคุณเป็นทุกข้อ ข้อนี้ก็เชื่อได้ 100 เปอร์เซ็นต์เลยว่าคุณต้องทำ ถึงปากจะบอกว่าไม่เลย เราไม่สนใจอดีตเขาหรือเธอเลยสักนิด จริงเหรอ? ถามใจตัวเองให้ดี คุณจะตามสืบจนได้แหละว่าเขาหรือเธอเคยมีแฟนไหม แฟนเก่าเป็นยังไง แล้วเลิกกันเพราะอะไร แล้วในใจลึก ๆ ก็แอบเปรียบเทียบว่าสิ่งที่คุณมีสู้คนเก่าได้หรือเปล่า จนอาจมีความรู้สึกไม่ดีต่อแฟนเก่าของเขาหรือเธอได้ คุณมองว่าอดีตเคยผูกพันกันมาก่อน ทำให้คุณแอบเก็บมาคิดเสมอว่าเขาหรือเธอจะยังไม่ลืมความสัมพันธ์นั้น ยิ่งทำให้คุณเข้าใกล้เขาหรือเธอยากขึ้น

7. ไม่ว่าจะเวลาไหนก็คิดถึงเขาหรือเธอได้ตลอด

คุณคือคนที่รับบทคนคลั่งรักที่แท้ทรู เมื่อเขาหรือเธอไม่ได้อยู่ใกล้ตัว หรือไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหรือเธอกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน (กับใคร) หน้าเขาหรือเธอลอยเข้ามาในหัวอยู่เรื่อย ๆ มีอาการกระวนกระวาย คิดถึงเขาหรือเธอเป็นพิเศษ พอนึกถึงแล้วก็รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง และสงสัยว่าเขาหรือเธอกำลังมีอาการแบบเดียวกับคุณอยู่หรือเปล่า จากนั้นคุณจะเริ่มหาข้ออ้างที่จะทำให้ได้ใกล้ชิดเขาหรือเธอมากขึ้น เป็นที่มาของคำว่า “ไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาบ้านก็ยังดี” นั่นแหละ ถ้าถึงขั้นนี้แล้ว ก็แปลว่าอารมณ์รักนั้นถูกฝังเข้าไปในใจคุณเรียบร้อยแล้ว