อยากได้อนุญาตให้อยู่และทำงานแคนาดาถาวร แต่ไม่เก่งอังกฤษ เงินเก็บน้อย ต้องทำแบบนี้!!!

อยากได้อนุญาตให้อยู่และทำงานแคนาดาถาวร แต่ไม่เก่งอังกฤษ เงินเก็บน้อย ต้องทำแบบนี้!!!

อยากได้อนุญาตให้อยู่และทำงานแคนาดาถาวร แต่ไม่เก่งอังกฤษ เงินเก็บน้อย ต้องทำแบบนี้!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งทางสำหรับคนที่อยากไปใช้ชีวิตต่างประเทศ อย่างการเป็นของบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยและทำงานของต่างประเทศได้อย่างถาวร ซึ่งประเทศแคนาดา นั้นถือว่าเป็นประเทศในฝันอันดับต้นๆ ของใครหลายๆ คนในการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ว่าได้ ซึ่งเราเชื่อว่าต้นทุนของทุกคนด้านกำลังทรัพย์หรือความสามารถทางด้านภาษาอาจจะไม่เท่ากัน แต่นั่นไม่ได้เป็นข้อจำกัดว่าเราไม่สามารถทำในสิ่งที่ฝันได้

โดยล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก บัญชี Jack Phaunpa ได้แนะนำการ เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยและทำงานของประเทศแคนาดาได้อย่างถาวร ผ่านโพสต์ของเขา ซึ่งเป็นวิธีที่เขาใช้ และเหมาะสำหรับคนที่ อาจจะจบระดับ ม.3 อายุไม่เกิน 35 ปี เงินเก็บ ตลอดจนถึงภาษาอังกฤษเริ่มต้นอาจจะไม่ได้ดีนัก โดยเขาได้เผยข้อมูลเอาไว้ว่า

จบ ม.3 อายุไม่เกิน 35 เงินเก็บน้อย ภาษาอังกฤษไม่ดี อยากได้ Permanent Residency ประเทศแคนาดา ทำยังไง

  1. หา skill ที่ตัวเองชอบและที่แคนาดาต้องการให้เจอคนจบหรือมีประสบการณ์ สายช่าง เช่นช่างยนต์ ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง หรือ ทำอาหารไทย
  2. หาที่เรียน GED สอบ GED https://ged.com/en/policies/thailand/
  3. เอาแผนที่โลกไปติดข้างฝาบ้านให้เห็นทุกวัน คนรอบตัวเราส่วนใหญ่จะหาว่าเราบ้า เพ้อเจ้อ ไม่ต้องไปฟัง คุยกับคนที่เค้ามั่นใจว่าเราทำได้เท่านั้น
  4. เปลี่ยนสิ่งรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษให้หมดเช่น Menu โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อีเมล ทุกอย่างเปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษให้หมด Google เยอะๆ เลิกดูละครไทย เลิกดูข่าวภาษาไทย หาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วอ่าน ฟังเป็นภาษาอังกฤษ ฟังซ้ำๆ ฟังแทนเพลงไทย ฟังแทนฟังข่าวไทย ดูหนังที่ไม่ได้พากย์ไทย อ่าน Subtitle เอา อ่านอะไรพยายามอย่าแปลเป็นไทย แต่ให้เข้าใจว่าเค้าพูดถึงอะไร
  5. ทำงานเก็บเงิน 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี ต้องตั้งเป้า
  6. คนรอบข้างตัวคุณจะบอกว่าคุณทำไม่ได้เป็นเรื่องปกติคุยเฉพาะกับคนที่เค้าบอกว่าคุณทำได้มุ่งมั่นตั้งใจ
  7. เมื่อมีเงินพอมาเรียน Diploma สองปี มาเรียนในจังหวัดเล็กๆ เช่น NS, NB, NL, PEI, MB, SK, Yukon, Nunavat (diploma รับวุฒิขั้นต่ำม.6 ปวช. ปวส. หรือ GED) สอบ IELTS ได้เท่าไหร่เท่านั้น ไม่ถึงเกณฑ์ไม่เป็นไร เค้ามี pathway ที่มาเรียนภาษาอังกฤษก่อนได้ ใช้วุฒิ ม.6, ปวช., GED หรือ ปวส. สมัครเรียน (รายละเอียดต้องไปดูสาขาที่จะเรียนด้วย ว่าเค้าเอาวิชาอะไร) เรียน 2 ปี ได้ open work permit 3 ปี งาน skill trade หางานง่าย ทำงาน 1 ปี สมัคร Permanent Residency ได้แล้ว ไม่ต้องไปคุยกับเอเจนซี่ที่ไหน เพราะเค้าจะชวนเรามาเรียนจังหวัดใหญ่ๆ ที่คนอายุเยอะจะได้ Permanent Residency ยากมาก หาข้อมูลเอง มาเรียนในจังหวัดเล็กๆ สมัครเรียนเอง ได้ Letter of Exceptance (LOA) แล้ว ถ้ากลัวเรื่องยื่นขอวีซ่านักเรียน ปรึกษา immigration consultant ให้ช่วยตรวจสอบเอกสาร ช่วยยื่นให้
  8. เรียนสองปี ระหว่างเรียน 8 เดือน ทำงานได้ 20 ชม. ต่ออาทิตย์ ปิดเทอม หรือ break ทำงานได้ไม่จำกัดชม. อย่าว่อกแว่ก ไม่มีทางลัด ใครบอกว่ามาทำงานฟาร์ม เก็บเห็ด ออก LMIA ให้ ฟังหูไว้หูอย่าเชื่อ เป้าหมายเราคือ Permanent Residency มาแบบนั้นมีโอกาสน้อยมาก ที่จะได้ Permanent Residency เผลอๆ ทำงานระหว่างเป็นนักเรียนได้เยอะกว่ามาทำงานผ่านนายหน้าอีก เก็บเงินค่านายหน้ามาเรียนดีกว่า
  9. เรียนครบสองปี ขอ open work permit 3 ปี .เมื่อได้ ทำงาน 1 ปี และอยู่ในจังหวัดเล็กๆ ควรจะได้คะแนนผ่านเกณฑ์สมัคร Permanent Residency ได้
  10. ระยะเวลา ตั้งแต่มาเรียนจนกระทั่งได้ Permanent Residency เค้านับเวลาให้ครึ่งนึง เช่น เรียน 2 ปี ทำงาน 1 ปี สมัคร Permanent Residency นับให้ ปีครึ่ง ทำงานต่ออยู่ที่นี่จบครบ 3 ใน 5 ปี สมัคร citizen
  11. อย่าดูถูกตัวเอง และต้องมีความมุ่งมั่น อดทน วางเป้าหมาย ไม่งั้นจะเอื่อยเฉื่อย ...
  12. ไม่มีทางลัด ยกเว้นได้แต่งงานกับคนที่เป็น Permanent Residency หรือ citizen (เพศเดียวกันก็ได้)
  13. เส้นทางการได้ PR ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเป็นตำนานของตัวเอง ... คุยกับคน 10 คนคิดไม่เหมือนกันซักคน ... ที่ผมเขียนมาทั้งหมด เป็นความเห็นส่วนตัวแค่นั้น ... หาข้อมูลทางอื่น ... คิดเอง วิเคราะห์เองด้วยนะครับ ...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook