#ลูกบิด คืออะไร มีที่มาจากไหน แฮชแท็กที่พูดถึงกันอย่างร้อนแรงในตอนนี้
เรียกว่าเป็นที่พูดถึงและกลายเป็นแฮชแท็กติดอันดับ 1 บนโลกทวิตเตอร์กันไปเลยสำหรับ #ลูกบิด ที่กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายและกลายเป็นมีมตลกๆ บนโซเชียลอีกมากมาย
เราเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะมีความสงสัยว่า ที่มาของ #ลูกบิด นั้นมาจากไหน ใครเป็นคนริเริ่มกันอยู่บ้าง ดังนั้น Sanook Campus เราก็เลยจะพาเพื่อนๆ มาดูที่มาของศัพท์โซเชียล แฮชแท็กเด็ดอย่าง #ลูกบิด กันสักหน่อย
#ลูกบิด นั้นเกิดขึ้นมาจากกระแส #ย้ายประเทศกันเถอะ ที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจ ในการอยากเปลี่ยนประเทศ เพื่อไปหาคุณภาพชีวิตที่ต่างแดนนั่นเอง โดย นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนบัญชีโซเชียลมีเดียของเขาถึงความยากลำบากในการไปอาศัยอยู่ที่ต่างแดน
โดยในโพสต์ระบุว่า
ผมไปใช้ชีวิตในต่างประเทศที่นิวยอร์กซิตี้อยู่เกือบหกปี ตอนไปเรียนต่อปริญญาเอก ผมมีความคิดว่าผมจะไม่กลับเมืองไทย จะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่พออยู่ไปสักพัก ผมก็ทราบว่าตนเองเป็นได้แค่พลเมืองชั้นสอง เจอ prejudice หลายอย่างที่ทำให้รู้ว่า ถึงอยู่แคว้นใดไม่สุขสำราญ เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้า สุขทวี
วันหนึ่งเดินข้ามถนน คนดำตะโกนด่าผมว่า Chinky แปลว่าไอ้เจ๊ก ผมก็ตะโกนด่ากลับไปว่า I am Thai, from Thailand. I am not Chinese, Blackie. กูเป็นคนไทย จากประเทศไทย ไม่ใช่คนจีน หรอกหนา ไอ้มืดตัวดำปี๋มันโกรธมาก ความรู้สึกคือ โห คนดำ เป็นพลเมืองชั้นสองของอเมริกา ยังเหยียดและดูถูกเรา แล้วเราเองเล่าจะเป็นพลเมืองชั้นไหนกันแน่
ผมจบปริญญาเอกในสาขาที่จัดว่าเป็น STEM (Science, Technology, Engineering, and Mathematics) ซึ่งหาคนอเมริกันเรียนกันได้น้อย มีแต่ต่างชาติเรียน ไม่ต้องรอคิวหากใครจะจ้างก็ sponsor ให้ green card ได้เลย และยังอยู่ต่อหลังจบได้อีกเป็นปีๆ เพื่อจะรองาน
ผมไปทำงานเป็น adjunct assistant professor สอนนักศึกษาปริญญาเอกในโรงเรียนบริหารธุรกิจที่ Zicklin school of business, Baruch College, City University of New York.
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ฝังใจผมมาก วันหนึ่งอากาศหนาวมาก ผมจะเข้าบ้านเช่า เลยถอดถุงมือเพื่อให้จับลูกกุญแจไขลูกบิดได้ถนัด เอามือเปล่าจับประตูแล้วเนื่องจากหนาวเย็นจัดมาก มือเปล่าๆ เลยเกิดน้ำแข็งเกาะติดกับลูกบิดประตู ผมต้องก้มเอาลมปากร้อนๆ เป่ามือจนเอามือออกจากลูกบิด
พร้อมกับคำถามในใจว่า เราจะมาอยู่ทรมานเป็นพลเมืองชั้นสามชั้นสี่ในที่ ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเราไปทำไม วินาทีนั้นทำให้ผมตัดสินใจในทันทีว่าผมต้องกลับมารับใช้ชาติบ้านเมือง
ชาติบ้านเมืองของเรา อาจจะวุ่นวายไปบ้าง มีความแตกแยก มีคนเลว มีนักการเมืองเลว มีประชาชนเลวและเห็นแก่ตัว มีต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ มีการกลั่นแกล้งรังแกกัน แต่ถ้าเรายึดมั่นในการทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง ผมเชื่อมั่นว่าแล้วความดีจะคุ้มครองเรา อยู่ที่ไหน ทำเพื่อใครก็ไม่เท่ากับทำให้แผ่นดินเกิด
ฝากให้คนชังชาติที่คิดจะไปอยู่บ้านเมืองอื่น ชาติอื่น แล้วสักวันคุณจะเข้าใจ
ซึ่งย่อหน้าที่เรียกว่าทำให้ชายเน็ตรู้สึกขำขันและมองว่ามันเป็นเรื่องตลก ก็คือย่อหน้าที่ว่า จับลูกบิดประตู แล้วมือติดเพราะอากาศเย็น ซึ่งหลายๆ คนมองว่ามันเป็นเรื่องราวที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจว่าการใช้ชีวิตต่างชาติมีความลำบากมากจริงๆ หรอ จนกลายมาเป็นภาพศิลปะตลอดจนภาพมีมตลกๆ จากหลายๆ เพจเอามาแซวและแชร์จนกลายเป็นที่พูดถึงติดเทรนด์โซเชียลนั่นเอง
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ