อย่าเพิ่งลดโควตา! วิธีอ่านหนังสือให้ไว เข้าใจได้เร็ว

เคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่าทำไมถึงไม่ชอบการอ่านหนังสือเอาเสียเลย ทั้งที่นั่นอาจจะเป็นโพสต์ขายของธรรมดาที่มีความยาวประมาณ 3-4 บรรทัด ก็ขี้เกียจอ่าน แล้วใช้วิธีไปคอมเมนต์ถามเอา ทั้ง ๆ ที่ข้อความที่ไม่อ่านนั้นน่ะมีบอกไว้หมดแล้ว ซึ่งถ้าจะเสียเวลาไล่สายตาอ่านผ่าน ๆ สักนิด ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องไปพิมพ์คอมเมนต์ถามในสิ่งที่เขาก็บอกไว้แล้วก็ได้ ลองดูว่าอะไรมันง่ายกว่ากัน

ที่สำคัญ รู้บ้างหรือไม่ว่าการที่เราไม่ยอมจะอ่านแม้แต่ข้อความขายของสั้น ๆ นั้น มันทำให้เราอ่านหนังสือน้อยลงไปด้วย แล้วหันไปใช้วิธีอื่นในการรับข้อมูลแทน เช่น ดูหรือฟังไลฟ์ ทว่านั่นคือการขายของ แต่ความจริง คือความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือมาก ๆ ก็ยังคงเป็นความรู้ที่รอบตัวกว่า ลึกซึ้งกว่า และพัฒนาสมองมากกว่าความรู้ที่เราได้จากการดูหรือฟังอยู่ดี

ดังนั้น คงจะดีกว่าถ้าเราหันมาอ่านให้มากขึ้นและเร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องลดโควตาการอ่านหนังสือ 7 บรรทัดที่ปกติก็น้อยมากอยู่แล้วให้น้อยลงไปอีก ซึ่งต้องอาศัยการอ่านหนังสือให้มากขึ้น แต่ใช้เวลาอ่านและทำความเข้าใจน้อยลง รวมถึงอาจจะช่วยให้เขียนหนังสือผิดน้อยลงด้วย เพราะคำต่าง ๆ คุ้นตาว่าต้องสะกดแบบนี้ เพราะเรามีสมาธิและเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

กำหนดจุดการวางสายตาในการอ่าน

เป็นวิธีการอ่านหนังสือที่ง่ายและพื้นฐานที่สุดแล้ว ก็เหมือนตอนเรียนอนุบาลนั่นเอง เราจะใช้นิ้วจิ้ม ก.ไก่ – ฮ.นกฮูก เวลาอ่าน และถ้าไม่ใช้นิ้วจิ้มไปด้วยก็จะโดนครูดุว่าให้ชี้ตัวหนังสือด้วย เพราะการใช้นิ้วชี้อ่าน ไปมันเป็นการกำหนดจุดสายตาว่าต้องโฟกัสไปที่ปลายนิ้วเพียงเท่านั้น ทำตัวหนังสืออื่นที่รายล้อมอยู่จะถูกกันออกไปจากสายตา ช่วยให้มีสมาธิอ่านหนังสือมากขึ้นด้วย ฉะนั้น ไม่ต้องอายที่จะกลับไปใช้วิธีนี้เหมือนเด็กน้อย หรือถ้าให้ดูโตขึ้นอีกหน่อย จะเอาไม้บรรทัดมาวางตามบรรทัด แล้วลากสายตาไปตามไม้บรรทัดก็ช่วยได้

ใช้วิธีฝึกอ่านให้เร็วขึ้น

เมื่อผ่านวิธีแรกมาได้แล้ว ก็ต้องฝึกต่อไปเพื่อให้สามารถอ่านได้เร็วขึ้น คือ ไม่ต้องใช้นิ้วหรือไม่บรรทัดแล้ว ใช้สายตาตัวเองนี่แหละกำหนดจุดที่ต้องการอ่าน เช่นเดียวกันกับการอ่านกระดาษข้อสอบยาว ๆ แล้วทำให้ทันนั่นเอง ซึ่งอาจเคยได้ยินวิธีอ่านเร็วแบบ skimming และ scanning มาบ้าง ทั้ง 2 วิธีเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้อ่านหนังสือได้รวดเร็วและเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ทันที โดย

• skimming คือ การอ่านแบบผ่าน ๆ ข้าม ๆ โฟกัสตัวหนังสือเป็นกลุ่มคำ แล้วไล่สายตาให้สามารถอ่านได้ทั้งประโยค จะทำให้มองเห็นภาพรวมคร่าว ๆ ว่าที่กำลังอ่านอยู่เกี่ยวกับอะไร
• scanning คือ การอ่านแบบตั้งใจอ่าน เก็บรายละเอียดเฉพาะส่วนที่เราต้องการ ซึ่งจะรู้ว่าข้อมูลตรงไหนคือส่วนที่เราต้องการ ก็ต้องผ่านการอ่านแบบ skimming มาก่อน เราจะรู้แล้วว่าตรงไหนที่เป็นเพียงส่วนขยาย ไม่ใช่รายละเอียดสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ

ก็แค่พยายามอ่านบ่อย ๆ

เราไม่มีทางฝึกการอ่านได้หรอกถ้าคุณไม่คิดจะหยิบอะไรมาอ่าน ก็เหมือนแค่ว่ารู้ทฤษฎี แต่ไม่เคยฝึกปฏิบัติ แล้วจะเก่งขึ้นได้อย่างไร เพราะความเก่ง ความชำนาญ ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน และสะสมชั่วโมงบินไปเรื่อย ๆ ฝึกบ่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอก็จะซึมซับการอ่านหนังสือไปได้เอง และเมื่ออ่านได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลาในการทำความเข้าใจ ก็จะทำให้เราอ่านหนังสือได้สนุกขึ้นด้วย และในอนาคต อาจนำไปพัฒนากับการอ่านภาษาอื่น ๆ ได้ด้วย กรณีที่เราจำเป็นต้องอ่านจริง ๆ