เมื่อไรกันนะ ที่เราควรจะต้องพูดว่า “เลิกกันเถอะ”

เมื่อไรกันนะ ที่เราควรจะต้องพูดว่า “เลิกกันเถอะ”

เมื่อไรกันนะ ที่เราควรจะต้องพูดว่า “เลิกกันเถอะ”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ถึงแม้ว่าจะสุขบ้าง เศร้าบ้าง แต่ถ้าปรับเข้าหากันได้ มันก็เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้กันไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ ทั้งข้อดี ข้อเสีย ตัวตนจริง ๆ ของอีกฝ่าย หรือเรื่องลับ ๆ ที่ซ่อนไว้ นั่นก็แปลว่าไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์ที่จะไปด้วยกันรอด พอมันถึงทางตัน ก็เปล่าประโยชน์ที่จะเสียเวลาทุบกำแพง แต่ควรพิจารณาดีกว่าว่าต่อจากนี้จะทำอะไรต่อไป จะไปต่อ (ทั้งที่ดูแล้วว่าเป็นไปไม่ได้) หรือจะเลิกกันไป ซึ่งถ้าจะเลิก เมื่อไรล่ะ ถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่จะพูดคำว่า “เราเลิกกันเถอะ” เสียที

นอกใจ

ความไม่ซื่อสัตย์ เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดแล้วในความสัมพันธ์ ลองคิดดูว่าถ้าเขาหรือเธอกล้านอกใจแอบไปมีกิ๊ก ไม่ว่าจะจับได้หรือไม่ก็ตาม มันคือความรักอย่างนั้นหรือ นอกจากจะไม่ให้เกียรติกันแล้วยังดูถูกกันด้วย มันทำให้เราดูแย่ที่เป็นคนโง่ แล้วอย่ามาอ้างว่าเพราะเราไม่สามารถเป็นอย่างที่เขาหรือเธอต้องการเลยต้องไปมีคนอื่น ก็แล้วทำไมไม่หาจีบคนแบบนั้นแต่แรก คนรักกันจริงเขาทนเห็นคนที่รักเจ็บปวดไม่ได้หรอก และที่สำคัญ คนเราถ้าพอใจกับคนที่อยู่ตรงหน้า จะไม่มีวันหวั่นไหวให้กับคนอื่นหรอก

ทำร้ายร่างกาย

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่ควรมีใครถูกกระทำความรุนแรง ถูกตบ ถูกต่อย ทึ้งผม หรือแค่กระชากแขนก็ไม่ควรทั้งนั้น เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ลองคิดดูว่าที่เราถูกเลี้ยงมา พ่อแม่บางคนยังไม่เคยตีลูกซักแอะ คนคนนี้เป็นใครทำไมถึงต้องยอม อย่าเชื่อคำที่อ้างว่ารักกัน คนรักกันจริงจะกล้าทำให้คนที่ตัวเองรักร้องไห้ เจ็บปวด ขาแขนมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดไหลงั้นเหรอ ถ้าถูกทำร้ายทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอาจรวมเรื่องทางเพศจากคนรัก นี่คือเหตุผลที่ดีที่สุดที่ควรจะโบกมือลาเขาหรือเธอ นี่เป็นอาชญากร ไม่ใช่คนรัก!

ไม่เห็นอนาคตร่วมกัน

แรก ๆ อาจจะยังพอมองไม่ออก เพราะความรัก ความหลง หรือความสนใจที่คล้าย ๆ กันมันบังตา แต่จริง ๆ แล้ว แค่เรื่องพวกนี้ ไม่อาจทำให้ความสัมพันธ์ในรูปแบบคนรักยั่งยืนได้ ตราบเท่าที่มองไม่เห็นเลยว่าอนาคตต่อจากนี้ที่จะมีร่วมกันจะเป็นอย่างไร การมีเขาหรือเธออยู่ในสถานะคนรัก มันคือความตั้งใจจะชีวิตคู่อยู่กับคนคนนี้ แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างไร หากดูแล้วไม่มีอนาคตเอาซะเลย มีอยู่แต่กับปัญหาเดิม ๆ ทัศนคติที่ปรับจูนเข้าหากันแล้วก็ไม่รอด รวมถึงไม่รู้สึกว่าอีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็ม แบบนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกนะ

ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ

หากในช่วงเวลาที่คบกัน มีแค่เราที่ทุ่มเท พยายามประคับประคอง พยายามปรับเปลี่ยนอยู่ฝ่ายเดียว ทำอะไรตั้งมากมายแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยมองไม่เห็นค่า ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ เพราะฉะนั้น นี่แหละคือช่วงเวลาที่ดีที่ควรจะแยกย้ายกันไปเสียที อย่าทำเป็นละคร การจะทำอะไรเพื่อใครน่ะทำได้ แต่ต้องทำกับคนที่เขาเห็นค่าในสิ่งที่เราทำด้วย ไม่ใช่เห็นเป็นของตายที่หันมาหาเวลาไม่เหลือใคร แบบนี้คิดว่าจะมีความสุขกันได้จริง ๆ เหรอ หรือแค่หลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ยังนึกถึง ถามตัวเองดี ๆ ใจเราน่ะ มันไม่มีความรู้สึกเหมือนที่อยู่อาศัยเหรอ ถึงทนอะไรแบบนี้ได้

ไม่ได้รักกันแล้ว

คำถามคือ ในเมื่อไม่ได้มีใจให้กันแล้ว จะยื้อความสัมพันธ์ผุ ๆ พัง ๆ แบบนี้ไว้เพื่ออะไร ไม่ได้รักในที่นี้ไม่ได้แปลว่าต้องมีมือที่สามที่สี่เข้ามาแทรก คนสองคนจะหมดรักกันไปเองก็ย่อมได้ หากรู้ว่าไปต่อไม่ได้ หยุดแค่นี้ แล้วพูดออกมาว่าเลิกกัน ยังดูกล้าหาญมากกว่าฝืนคบต่อไปทั้งที่ไม่ได้รัก ทำให้อีกฝ่ายเจ็บ ส่วนตัวเองก็อึดอัดซะเปล่า ๆ อีกอย่างการที่ยังคงสถานะไว้ แล้วไปมีคนใหม่ มันก็คือการนอกใจและไม่แฟร์กับคนใหม่ด้วย ดังนั้น รีบจบความสัมพันธ์นี้ให้ไว ต่างคนต่างไปมีชีวิตใหม่จะดีกว่านะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook