ทำความรู้จัก “ปอนด์ พลวิชญ์” หนุ่มหล่อมากความสามารถทั้งการแสดงและการเรียน

ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร หนุ่มหล่อเจ้าของฉายารอยยิ้มจระเข้ น้องชายคนเก่งของ ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร หนุ่มคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถรอบด้านอีกด้วย ไม่ว่าจะทั้งด้านการแสดง และด้านการเรียน โดยเขาสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา ใช้ชีวิตฉายเดี่ยวในสิงค์โปรตั้งแต่ 10 ขวบ เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว

ปอนด์ พลวิชญ์

วันนี้ Sanook Campus เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ ประวัติ ปอนด์ พลวิชญ์ หนุ่มหล่อเจ้าของฉายารอยยิ้มจระเข้ ที่เก่งทั้งด้านการแสดงและด้านการเรียนคนนี้ให้มากขึ้นกันซักหน่อย

ปอนด์ พลวิชญ์

ประวัติ ปอนด์ พลวิชญ์

• ปอนด์ มีชื่อจริงว่า พลวิชญ์ เกตุประภากร
• เกิดวันที่ 25 มีนาคม 2542
• ภูมิลำเนา เป็นคนกรุงเทพมหานคร
• พี่สาวคือ ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร
• จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโทจาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• IG : pondponlawit

เพราะอะไรถึงเลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ?

สาเหตุที่เลือกเรียนวิศวะ น่าจะมาจากสมัยเด็กไปเรียนที่สิงคโปร์ มัธยมของที่นั่นจะให้เลือกว่าจะเรียนสายไหน เลยตัดสินใจเลือกเรียนไปทางฟิสิกส์ เคมี ตอนนั้นไม่ได้อยากจะเป็นหมอ ตัดหมอออกไปเลยตั้งแต่มัธยม เพราะว่าไม่ได้เรียนชีวะเลย ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวเองชอบและถนัดไปทางฟิสิกส์กับเลขมากกว่า เลยเลือกเรียนคณะวิศวะ

ถ้าไม่ได้เรียนวิศวะ เคยคิดไหมว่าอยากเรียนไปทางไหน ?

ถ้าไม่ได้เรียนคณะนี้ คิดว่าอยากเรียนไปทางธุรกิจไปเลย หรือไม่ก็ไปทางอาร์ตไปเลย จริงๆ ตั้งแต่เด็กชอบวาดรูป ระบายสี พอสมควร แล้วก็เป็นคนชอบออกแบบภายใน ชอบออกแบบบ้านอะไรพวกนี้

ปอนด์ พลวิชญ์

ระหว่างเรียนที่ไทย กับ เรียนที่สิงคโปร์แตกต่างกันอย่างไร ?

สมัยก่อนจะไปเรียนที่สิงคโปร์ ตอนนั้นยังไม่มีน้อง เป็นเด็กติดแม่พอสมควร มีแม่อยู่ข้างตัวตลอด สิ่งที่รู้สึกว่าแตกต่างกันก็คือ ความรับผิดชอบ จะมีความต่างกับตอนอยู่ไทยเยอะมาก ตอนอยู่ไทยจะเป็นเด็กที่ไม่ยอมเข้าโรงเรียนเลย จนกว่าเพลงชาติกำลังจะขึ้น ก็คือติดแม่มาก แต่พอไปสิงคโปร์จะต้องไปเรียนเอง ทำการบ้านเอง เพราะตอนเด็กๆ แม่จะเป็นคนบอกให้ทำการบ้านซะเป็นส่วนใหญ่

ไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกคนเดียวเจออุปสรรคอะไรบ้างไหม ?

อย่างแรกที่เจอก็คงเป็น ปรับตัวเรื่องคิดถึงที่บ้านมากๆ เพราะตอนนั้นก็ไปตอน 10 ขวบ แล้วก็เป็นเด็กที่ติดแม่มากด้วยเหมือนกัน ภาษาก็ถือเป็นอุปสรรคอย่างนึง ที่พ่อเลือกให้ผมไปเรียนที่สิงคโปร์ เพราะว่ามันได้สองภาษา ก็คือ อังกฤษ กับจีน แม้เราจะเคยเรียนภาษาจีนตอนก่อนไปสิงคโปร์แต่ภาษาเรายังไม่ค่อยดีมาก ทำให้ตามเด็กที่นู่นไปค่อยทัน เลยต้องจ้างครูมาสอนและเรียนพิเศษเสริมเยอะมาก

สมัยเรียนมีวีรกรรมอะไรที่แสบสุดๆ ?

ตอนผมเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ วีรกรรมที่แสบจริงๆ ก็คือการโดดเรียนครับ คือจริงๆ ผมก็เป็นเด็กปกติทั่วไปที่บางครั้งอาจจะติดเล่น ติดเพื่อน เลยทำให้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนบ้างในบางครั้ง แต่พอถึงจุดที่เรารู้ตัวว่าทำตัวไม่ค่อยดี เลยต้องพยายามปรับตัวและพยายามมากขึ้นกว่าเดิมครับ

ฉายาที่เพื่อนๆตั้งให้สมัยเรียน ?

เราไม่ได้มีฉายาอะไรหรอก แต่เวลาไปต่างประเทศ ชื่อภาษาไทยถือว่าแปลก เป็นชื่อที่ยาวมากอย่าง พลวิชญ์ เกตุประภากร ก็เป็นชื่อที่ยาวและออกเสียงยากมาก คนส่วนใหญ่จะเรียกไม่ได้ เรียกไม่ถูก จำไม่ถูก อย่างนามสกุล คนจีนจะมีแค่แซ่พยางค์เดียว คนมาเลเซีย หรือ คนอินเดีย ก็จะเป็นอีกแนวนึง แต่พอเป็นคนไทยเขาจะออกเสียงไม่ค่อยถูก เกตุประภากร เรียกยังไง สมัยไปแรกๆ เขาจะเรียก เกตุประป็อปคอร์น เรียกเป็น ป็อปคอร์นไปเลย ที่ไม่ได้ให้เรียกชื่อเล่น เป็นเพราะว่า ชื่อปอนด์ จะออกเสียงเหมือนกับคำว่า พอร์น (porn) ซึ่งฟังดูไม่ค่อยดี เลยจะเรียกเป็น พลวิชญ์ หรือไม่ก็ เกตุประภากร แทน

ถ้าย้อนเวลากลับไปสมัยเรียนได้ อยากกลับไปแก้ไขอะไร ?

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากแก้ไขเรื่องการแข่งบาส เพราะรู้สึกว่าสมัยนั้น เป็นคนที่ขี้เกียจพอสมควร ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าสมมติมีโอกาสกลับไปทำกิจกรรมอะไรที่เราชอบมากๆ ในสมัยนั้นอีกครั้ง ก็อยากจะขยันให้มากกว่านั้น เผื่อเวลาไปแข่งขันอะไรหรือเวลาอยู่กับเพื่อนๆ จะได้มีอะไรที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น หรือไม่ก็ได้เจออะไรแปลกใหม่ที่เราพลาดไป

ปอนด์ พลวิชญ์

จุดเริ่มต้นของการเล่นบาสคืออะไร ทำไมหลงรักกีฬาชนิดนี้ ?

จริงๆ แล้วสมัยอยู่ไทย เป็นเด็กที่เล่นบอลมาตลอด แต่พอไปสิงคโปร์ หน้าหอพักนักเรียนต่างชาติจะมีสนามบาสให้เล่น ไม่มีสนามบอลเลย เหมือนคนรอบข้างตัวก็เล่นบาสกัน ก็เลยเริ่มเล่นบาสจากตรงนั้น รู้สึกสิ่งที่ทำให้เราชอบเล่นบาสหรือหลงใหลไปกับมันเรื่อยๆ ก็คือเพื่อนรอบข้าง ผมรู้สึกว่าบาสเป็นกีฬาที่ทำให้ผมสนิทกับเพื่อนใหม่หรือสนิทกับเพื่อนบางกลุ่ม ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัยเพื่อนที่สนิทที่สุดก็มาจากกลุ่มที่เล่นบาสเสมอ ผมคิดว่าผมหลงใหลเวลาเล่นกับเพื่อน ซึ่งจริงๆก็ชอบกีฬาอื่นนะ แต่ว่ามีเพื่อนสนิทเล่นบาสเลยชอบ

อยากสานต่อการเป็นนักกีฬาบาสไหม ?

จริงๆอยากมาก แต่อาจจะด้วยความสามารถของผมเอง แม้บาสจะเป็นแพชชั่นในชีวิตผม แต่ต้องคำนึงถึงความสามารถด้วย เราเลยเอาบาสเป็นกีฬาที่เล่นยามว่างดีกว่า หน้าที่การงานอยากให้เป็นอย่างอื่น อีกอย่างสมัยเรียนเวลาจริงจังกับบาสมากๆ โดยเฉพาะการเก็บตัว ผมรู้สึกว่ามันหนักอยู่เหมือนกัน ข้อเท้าแพลง มือหัก ก็เคยมาแล้ว เลยคิดว่าตัวเองอาจจะโหมไปหรือเปล่าบางที

ชีวิตตอนเรียนกับตอนทำงานต่างกันมากน้อยแค่ไหน ?

จริงๆเริ่มทำงานตั้งแต่สมัยเรียน ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้แตกต่างกันมาก อยู่ที่การบริหารเวลาของเราซะมากกว่า เพราะตอนนี้ผมก็เรียนต่อปริญญาโทไปด้วย แต่จะเรียนเป็นภาคค่ำ ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่าการเรียนมันต้องใช้ตลอดเวลาขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าคณะที่เรียนหรือวิธีการศึกษาของผมด้วยซะส่วนใหญ่ ผมเลยไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างสักเท่าไร

ทำไมถึงตัดสินใจเข้าวงการบันเทิง ?

ช่วงแรก รู้สึกว่าอยากได้ประสบการณ์ เพราะว่า เรารู้สึกว่าการเป็นนักแสดง เราจะได้ทำในสิ่งที่เราไม่ได้ทำในชีวิตจริง เราได้ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ลองสิ่งใหม่ๆ ที่ชีวิตเราไม่เคยได้ทำ เราได้ลองเป็นหมอ ลองเรียนหมอ ได้ลองเล่นกีฬา เล่นเทนนิส รู้สึกว่ามันสนุกซะมากกว่าครับสำหรับการเป็นนักแสดง

ถ้าไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง ตอนนี้คิดว่าปอนด์จะทำอะไรอยู่ ?

ถ้าไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง คิดว่าตอนนี้ก็คงทำเป็นงานประจำไปเลย เพราะผมก็จบวิศวะมา ผมรู้สึกว่าจริงๆ มันก็มีด้านสนุกของมันนะครับ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงก็อาจจะทำเป็นงานประจำเกี่ยวกับวิศวะ หรือไม่ก็อาจจะไปทางธุรกิจไปเลย ในอนาคตถ้ามีโอกาสผมก็อยากเอาความรู้ที่เราเรียนมาทั้งด้านวิศวะและธุรกิจไปใช้ต่อ

ปอนด์ พลวิชญ์

ปอนด์กับฟรังเป็นพี่น้องที่สนิทกันมากๆ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราสนิทกันแบบนี้ ?

อายุครับ คือผมกับฟรังอายุต่างกันสองปี ด้วยอายุที่ไล่เลี่ยกัน ทำให้เล่นด้วยกันตลอดเวลาตั้งแต่เด็กๆ เวลาแม่ไม่อยู่ ก็จะมีฟรังเล่นเป็นเพื่อน อีกส่วนหนึ่งคือผมติดแม่มากสมัยเด็กๆ เลยไม่ค่อยไปเล่นกับเพื่อน จะอยู่กับแม่ตลอดเวลา เวลาฟรังอยากไปเล่นกับเพื่อน แม่ก็จะพาผมไปด้วย มีฟรังก็ต้องมีผมด้วยอีกคน

ตอนนี้ฟรังเป็น Youtuber แล้ว ปอนด์คิดจะทำบ้างไหม ?

จริงๆมีไอเดียที่อยากทำนะครับ แต่อาจจะยังไม่ทำเป็นของช่องตัวเอง แต่จะเอาไอเดียไปเสนอฟรัง แล้วทำในช่องยูทูปของฟรังไปก่อน

สิ่งที่คนอื่นๆ ไม่รู้เกี่ยวกับปอนด์ ?

คนอื่นอาจจะมองผมดูขรึมๆ บางทีอยู่กับคนที่ไม่รู้จัก ผมจะดูเป็นคนเงียบๆ แต่ว่าจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนคุยง่ายนะ เข้าถึงง่าย ส่วนมากจะคุยเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำ

ปอนด์ พลวิชญ์

สิ่งที่ดีที่สุดในการที่เราเป็นปอนด์ พลวิชญ์ คืออะไร ?

ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดในการเป็นปอนด์ พลวิชญ์ คือ ผมเป็นคนชิวๆ สบายๆ ไม่ได้ซีเรียสกับผลลัพธ์ที่จะออกมา ก็เลยรู้สึกว่าเราเป็นคนสนุกกับการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต ผมไม่เคยคิดว่าผมจะต้องเรียนได้เกียรตินิยมนะ หรือต้องเล่นกีฬาไปถึงขนาดแชมเปี้ยนชิป ผมเป็นคนสนุกกับสิ่งต่างๆ ในระหว่างทางซะมากกว่า อย่างเช่น การอยู่กับเพื่อน การเรียนกับเพื่อน และการทำตัวไร้สาระกับเพื่อน

ชอบทานอาหารอะไรเป็นพิเศษไหม แนะนำหน่อย ?

จริงๆเป็นคนชอบทานอาหารรสจัด สำหรับผมอาหารแต่ละชาติก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ผมจะชอบทานอาหารไทยและก็อาหารอินเดีย เพราะเป็นคนชอบทานอะไรเผ็ดๆ แซ่บๆ มาก ไม่รู้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าไปเรียนสิงคโปร์ตั้งแต่เด็ก กินตั้งแต่เด็กๆหรือเปล่า ก็เลยเป็นคนชอบอาหารที่รสชาติจัดมาก ผมแนะนำให้ลองทานอาหารอินเดียนะ เพราะคนไทยส่วนใหญ่น่าจะยังไม่เคยลอง จริงๆ แกงไทยกับแกงอินเดียมีส่วนที่คล้ายกัน แต่อินเดียจะมีรสชาติจัด เข้ม และมันกว่า ก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าลองครับ

ปอนด์ พลวิชญ์

ได้ข่าวว่ามีสัตว์เลี้ยง เลี้ยงอะไร ชื่ออะไร ?

เลี้ยงหมาครับ ชื่อเปโซ เป็นพันธุ์ชิบะ อินุ เพิ่งได้มีโอกาสเลี้ยงตอนช่วงโควิดเนี่ยแหละครับ จริงๆ อยากเลี้ยงหมามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ แต่ว่าที่บ้านไม่ยอม เพราะว่าไม่มีคนดูแล เหตุผลที่เลือกเลี้ยงพันธุ์ชิบะ อินุ ส่วนหนึ่งเพราะฟรังชอบหมาขนปุยๆ และที่บ้านก็ไม่ค่อยชอบเสียงเห่า ก็เลยได้หมาพันธุ์ชิบะ อินุมา เพราะว่า พันธุ์นี้มีความเรียบร้อย เป็นหมาที่รักสะอาด จะทำความสะอาดตัวเองตลอดเวลา แล้วก็เป็นหมาที่ไม่ค่อยเห่า

สุดท้ายแล้วฝากผลงานหน่อย

ตอนนี้ก็จะมีผลงานเล่นมิวสิควิดีโอเพลง ข้างเดียว ของวง HENS สามารถไปรับชมได้ที่ช่อง Whattheduck นะครับ และตอนนี้ก็กำลังถ่ายทำละครเรื่อง อาชญากล คน 5G กับทางช่อง Thai PBS ใกล้จะออนแอร์แล้ว ฝากติดตามด้วยนะครับ

เนื้อหาโดย Pornnapat W.