ต่างวัยต่างความคิด แต่ละเจเนอเรชันมอง “ความรัก” อย่างไร
มุมมองความรักของคนในแต่ละเจเนอเรชันนั้นมีความแตกต่างกันไปตามประสบการณ์และสภาพแวดล้อมของสังคม และที่น่าสนใจ คือคนในแต่ละเจเนอเรชั่นนั้นมีทางออกให้กับความรักของตนเองที่แตกต่างกันไป แล้วคุณล่ะอยู่ในเจเนอเรชันไหน มีมุมมองความรักแบบที่บทวิเคราะห์กล่าวเอาไว้หรือไม่ มาสำรวจกัน
Baby Boomer สงสัยในรักแต่ยังรักษาธรรมเนียม
ความรักของคนในเจเนอเรชัน Baby Boomer คือคนที่ปัจจุบันมีอายุระหว่าง 55–70 ปี Baby Boomer ส่วนใหญ่จะแต่งงานก่อนอายุ 30 และเป็นการแต่งงานตามธรรมเนียม ประเพณี แม้ว่าจะมีคำถามในใจต่อการแต่งงานและการสร้างครอบครัว แต่พวกเขาก็ยังคงปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน
โดยที่ไม่รู้เลยว่าในเวลาต่อมา การแต่งงานโดยที่ยังมีคำถามอยู่ในใจทำให้คนในเจเนอเรชัน Baby Boomer คือกลุ่มที่มีสถิติการหย่าสูงที่สุด เพราะหลายคู่แต่งงานโดยที่ไม่รู้ว่ารักกันแน่แค่ไหน และอีกหลายคู่ก็ใช้วิธีแยกกันอยู่โดยไม่จดทะเบียนหย่า และต่างฝ่ายต่างก็ไปหาคนที่ตนพึงใจโดยไม่มีการแต่งงานซ้ำอีกรอบ ในขณะที่อีกหลายคู่ไม่ได้เหลือใจให้กันอีกแล้ว แต่ต่างอยู่เพื่อให้ลูกได้สบายใจ
เจเนอเรชัน X รักแท้ต้องสร้างด้วยมือเราเอง
คนในเจเนอเรชัน X คือกลุ่มคนที่ปัจจุบันมีอายุอยู่ในช่วง 39–50 ปี คนในเจเนอเรชันนี้จะแต่งงานช้า โดยมีผลสำรวจว่า หนึ่งในสามเท่านั้นที่แต่งงานตอนอายุ 30 ปี เนื่องจากพวกเขาต้องการความแน่นอนในชีวิตแต่งงาน และคนในเจเนอเรชัน X คุ้นเคยกับการหย่าร้างเป็นอย่างดี พวกเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา แต่มองว่ามันคือการใช้ชีวิตที่ต้องหาจุดที่ลงตัวให้ได้ และนั่นทำให้คนในเจเนอเรชันนี้มีสถิติการหย่าร้างน้อย
เพราะหลายคู่ศึกษาดูใจกันก่อนแต่งงาน และเมื่อพวกเขาคิดจะแต่งงาน นั่นหมายถึงการแต่งงานที่เกิดขึ้นจากความรัก ไม่ใช่หน้าที่ และพวกเขาจะทำทุกทางในการประคับประคองให้ครอบครัวของตนเองมีชีวิตที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดการหย่าร้าง
Millennials ความรักสร้างประเพณีใหม่ขึ้นมา
คนในเจเนอเรชั่น Y หรือมิลเลนเนียล เป็นกลุ่มที่มีอายุ 25–38 ปี นับเป็นเจเนอเรชันที่สร้างประเพณีการแต่งงานขึ้นเป็นของตนเอง หลายคู่ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน และมีการประกาศให้เพื่อนฝูงรับทราบถึงการย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันด้วย เหมือนเป็นนัยว่าคู่นี้น่าจะต้องลงเอยกันจริง ๆ บางคู่จะมีการวางแผนในการซื้อที่อยู่อาศัย หรือบางคู่ก็มีลูกก่อนที่จะแต่งงาน
อันที่จริงแล้วกลุ่มเจเนอเรชัน Y นั้นไม่เชื่อในประเพณีการแต่งงานสักเท่าไร พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงานได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นการสร้างประเพณีในการมีครอบครัวแบบใหม่ขึ้นมา
แต่ที่น่าสนใจคือ คนเจเนอเรชัน Y จะมีแนวโน้มอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวที่มีความแตกต่างทางเจเนอเรชัน มากกว่าคนในเจเนอเรชัน X ที่เป็นเช่นนั้นเพราะคนในเจเนอเรชัน Y เชื่อว่าการอยู่รวมเป็นครอบครัวใหญ่จะทำให้ช่วยดูแลซึ่งกันและกันได้
เจเนอเรชัน Z รักข้ามขอบฟ้า
เจเนอเรชัน Z คือกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงวัย 23 ปีลงไป เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยรู้จักสังคมที่ไม่มีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือวิดีโอเกม และเป็นเจเนอเรชันที่มีความหลากหลายทางสังคมมากขึ้น
ความรักของคนในเจนฯ นี้จะไม่ได้ยึดติดอยู่กับคนเชื้อชาติเดียวกับตนเองอีกต่อไป แต่เป็นความรักที่สามารถเกิดได้กับทุกคนบนโลก และน่าสนใจว่ากลุ่มเจเนอเรชัน Z นั้น มีสถิติการเกิดมากกว่าคนในยุค Baby Boomer ซึ่งนั่นหมายความว่าคนในเจเนอเรชันนี้จะกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่ของโลกในอนาคต และคงต้องมาดูกันว่าพวกเขาจะสืบทอดความรักแบบไหน ระหว่างเจเนอเรชัน X ที่รักษาความรักให้ยั่งยืน กับเจเนอเรชัน Y ที่มองว่าการแต่งงานไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิตอีกต่อไป หากแต่การมีความรักที่แท้จริงต่างหากจึงจะทำให้ชีวิตคู่อยู่รอด