“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” พฤติกรรมที่อย่าหาทำในที่สาธารณะ

“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” พฤติกรรมที่อย่าหาทำในที่สาธารณะ

“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” พฤติกรรมที่อย่าหาทำในที่สาธารณะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้รับการอบรมสั่งสอนให้รู้จักเกรงใจผู้อื่น ซึ่งความหมายของความเกรงใจก็คือ “การที่ไม่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกลำบากหรือเดือดร้อนรำคาญใจเพราะการกระทำของตัวเอง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะหรือที่ชุมนุมชน เพราะการอยู่ร่วมกันกับคนอื่น ๆ เราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ตามอำเภอใจโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ต้องคำนึงเสมอว่า “คนอื่นเขาไม่ได้อยากรับรู้”

ต้องไม่ลืมว่านี่คือสาธารณะไม่ใช่ที่บ้าน ไม่ใช่ที่รโหฐาน ที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะเดือดร้อนหรือไม่ ฉะนั้น ไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ การที่ไม่เกรงใจคนอื่น ๆ ที่เขาต้องใช้พื้นที่นั้นด้วย เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย ที่สำคัญยังทำให้คนอื่นเข้าใจไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังว่าอาจไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดีมาก็ได้

พฤติกรรมใดบ้างที่อย่าหาทำในที่สาธารณะ

การอยู่ในที่สาธารณะ อยู่ในที่ชุมนุมชน มีผู้คนมากมายที่ต้องใช้สถานที่ร่วมกัน การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเป็นเรื่องที่ไม่มีมารยาท และเหมือนคนที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนว่ามันจะกระทบผู้อื่น ไม่ว่าจะทางกายหรือทางความรู้สึก มีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องระวังและอย่าหาทำในที่สาธารณะ

ทำเสียงดังรบกวนผู้อื่นในยามวิกาล

เป็นกรณีร้อนแรงมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อนักแสดงสาวท่านหนึ่งพร้อมแฟนหนุ่มจุดพลุฉลองวันเกิดในยามวิกาล (ราว ๆ 4 ทุ่ม) ซึ่งพื้นที่ย่านนั้นเป็นพื้นที่ชุมชน มีชาวบ้านอาศัยอยู่หลายหลังคาเรือน หลังจากมีประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์เกิดขึ้น นักแสดงสาวชี้แจงว่าได้ขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้รับอนุญาตให้จุดได้ แต่ชาวบ้านละแวกนั้นรู้เรื่องด้วยหรือไม่ ซึ่งนั่นถือเป็นการรบกวนชาวบ้านละแวกนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ถือว่าเป็นเวลาที่ดึกมากของชาวบ้านต่างจังหวัด ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนแล้ว

การจุดพลุทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านตกใจสะดุ้งตื่น บางบ้านมีผู้ป่วย ลูกเด็กเล็กแดง รวมถึงสัตว์เลี้ยงก็ตกใจแตกตื่นวิ่งหนีหายออกจากบ้าน หรือกรณีที่ร้ายแรงที่สุด คืออาจมีสะเก็ดไฟตกใส่บ้านเรือนแล้วทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ได้ จากการฉลองวันเกิดของคนเพียง 2 คน สร้างความเดือดร้อนให้กับคนหลายสิบหลายร้อยคน ซึ่งไม่ควรนำไปเทียบกับการจุดพลุปีใหม่ จึงจากเป็นเทศกาลที่ชาวบ้านรู้ล่วงหน้าและเตรียมรับมือแล้ว นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดงานสังสรรค์รื่นเริงด้วย

เปิดลำโพงเสียงดัง

เป็นกรณีที่พบเห็นได้บ่อยมากตามร้านอาหารหรือบนรถโดยสารสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์แบบเปิดลำโพงหรือฟังเพลงแล้วเปิดลำโพง ต้องเข้าใจว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของใคร และทุกคนไม่ได้ชื่นชอบเพลงที่เปิด ฉะนั้นไม่ต้องเผื่อแผ่ให้คนอื่น โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า “หูฟัง” ที่ควรหามาใช้ หรือจะดีที่สุดคือไปพูดคุยในที่ส่วนตัวหากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย สามารถแจ้งปลายสายได้ว่าตอนนี้ไม่สะดวกคุย คนปลายสายก็น่าจะเข้าใจ ส่วนเพลง ไม่จำเป็นต้องเปิดฟัง โดยเฉพาะในที่สาธารณะ

พูดคุยเสียงดัง

สามารถพบเห็นได้ทั้งการคุยโทรศัพท์หรือพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน อย่างที่บอกว่าคนอื่นไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ควรจะเกรงใจคนแปลกหน้าที่ใช้สถานที่ร่วมกัน นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันไม่จำเป็นต้องตะโกนคุยกัน และบางทีก็มีคำหยาบคายสารพัด ซึ่งควรจะเก็บไว้คุยกันกับคนสนิท คนแปลกหน้าไม่ต้องการได้ยิน แต่ถึงจะซุบซิบ ก็น่ารำคาญอยู่ดี

ใช้พื้นที่สาธารณะทำกิจกรรมส่วนตัวของกลุ่มตัวเอง

พื้นที่สาธารณะเป็นที่ที่ใครก็ได้สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้ แต่การที่มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามายึดครองทำกิจกรรมของตนเองจนคนอื่นไม่สามารถเข้ามาใช้ได้ ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาทในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้คนอื่นเข้าไปใช้พื้นที่ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังรบกวนสายตาของคนละแวกนั้นด้วย

สูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ

เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยเช่นเดียวกัน แม้บริเวณนั้นจะมีป้ายห้ามสูบบุหรี่ติดไว้ใหญ่โต ทว่าคนสูบก็หาสนใจไม่ ยืนสูบอยู่ข้าง ๆ ป้ายนั่นแหละ พอมีคนเข้าไปเตือนก็กลายเป็นมีเรื่องมีราวกันอีก ทั้งที่ป้ายก็มีห้ามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ แต่ก็ฝ่าฝืน ในกรณีนี้ถือว่าผิดเต็ม ๆ และมีโทษทางกฎหมายด้วย คนที่ใช้สถานที่ร่วมกันไม่ได้อยากได้สารพิษจากควันบุหรี่ และกลิ่นบุหรี่ก็รบกวนคนอื่นมากด้วยเช่นกัน
แซงคิว

เป็นการกระทำที่ทั้งไร้มารยาทและจิตสำนึก การแซงคิวถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ แซงคิวคนอื่นแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจว่าคนอื่นต่อแถวรอมาก่อน พมีคนเตือนก็หาว่าเขาไม่มีน้ำใจ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมีน้ำใจหรือไม่มีน้ำใจ แต่คนที่เขามาก่อนก็ควรได้ก่อน เขาก็เสียเวลาและอดทนรอมาเหมือนกัน อย่าทำนิสัยมักง่ายเอาเปรียบคนอื่นแบบนี้เลย

เดินคุยกันเรียงหน้ากระดาน/เดินขวางทางคนอื่น

คนที่ไปไหนมาไหนกันเป็นหมู่คณะ บางทีก็เดินคุยกันเรียงหน้ากระดาน ขวางทางคนที่เดินตามหลังมา จะแซงก็แซงไม่ได้เพราะไม่มีที่ให้แซง พื้นที่ที่ใช้สัญจรไม่ใช่ที่ที่จะมาเดินคุยกันขวางทางคนอื่น ไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะผ่านไปได้หรือไม่ หรือบางคนเดินคนเดียวก็จริงแต่ก้มหน้าก้มตาใช้โทรศัพท์ หรือไม่เดินหลบไปทางใดทางหนึ่ง ก็ทำให้คนที่ตามหลังมาเดินแซงขึ้นไปไม่ได้เช่นกัน กรณีที่มีเรื่องด่วนต้องใช้โทรศัพท์ ให้หลบเข้าข้างทาง อย่าขวางทางคนอื่น

ใช้โทรศัพท์มือถือในโรงภาพยนตร์

จริง ๆ แล้วการห้ามใช้โทรศัพท์ในโรงภาพยนตร์ถือเป็นกฎของสถานที่ การคุยโทรศัพท์นั้นรบกวนการดูหนังของคนอื่นที่จ่ายเงินเข้ามาดูหนัง ไม่ได้จ่ายเงินมาฟังใครคุยโทรศัพท์ การไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ หากมีสายเข้าก็รบกวนผู้อื่น รวมถึงแสงไฟจากการเปิดหน้าจอก็รบกวนคนอื่นเช่นกัน ฉะนั้น จะเข้าไปดูหนังก็ต้องเคารพกฎระเบียบของสถานที่ เรื่องมารยาทต่าง ๆ ในโรงภาพยนตร์ ว่าอะไรทำได้และอะไรไม่ควรทำ

พลอดรักกันในที่สาธารณะ

ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลว่าสังคมไทยยังไม่เปิดกว้างให้กับเรื่องนี้ แต่มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไปหาทำในที่ลับตาคนหรือที่ส่วนตัวเถอะ อย่าทำประเจิดประเจ้อให้เป็นที่อุจาดสายตา ถึงบางคนเขาจะไม่สนใจก็จริง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำในที่สาธารณะได้โดยไม่อายสายตาคนอื่น และอย่าอ้างว่าไม่อยากเห็นก็ไม่ต้องดู เพราะต่อให้เขาไม่ตั้งใจดูเขาก็เห็น มันเป็นที่สาธารณะ

ไว้ผมยาวได้แต่ทำไม่ให้เดือดร้อนคนอื่นไม่ได้

หลายคนอาจลืมคิดไปว่าผมของคุณผู้หญิงก็สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่มัดผมหางม้า เวลาหันซ้ายหันขวาก็สะบัดไปโดนหน้าคนอื่น ผู้หญิงที่ไว้ผมยาวแต่ไม่มัดให้เรียบร้อย เวลาโดนลมก็พัดไปโดนหน้าคนอื่น หรือเกะกะเป็นที่รำคาญคนอื่น เช่นบังจอของคนด้านหลังเวลานั่งเครื่องบิน หรือทำให้คนอื่นจับเบาะที่นั่งไม่ได้ เพราะผมมาบัง หากเขาไปจับแล้วโดนเข้าก็จะไปว่าว่าเขาดึงผมตัวเองอีก

การใช้ที่นั่งสาธารณะ

ที่เห็นได้บ่อย เช่น การถอดรองเท้าแล้วยกเท้าขึ้นมาพาด การปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นปีนป่ายเก้าอี้ทั้งรองเท้า นั่งเขย่าขา เคาะโต๊ะ นั่งกินพื้นที่ 2 ที่ หรือวางสัมภาระจนคนอื่นนั่งหรือยืนไม่ได้ ข้าวของของตัวเองควรจะเก็บให้ดี อย่าให้ไปรบกวนคนอื่นที่ต้องใช้พื้นที่ร่วมด้วย ไม่น่ามองและบางกรณีก็สกปรกเมื่อคนอื่นมาใช้ต่อ

นำอาหาร/กินอาหารกลิ่นแรง

บางที่ห้ามเด็ดขาดในการนำอาหารกลิ่นแรงเข้าไปยังสถานที่นั้น ๆ บางที่ไม่ได้ห้าม แต่ถ้าจะนำเข้าไปก็ต้องเก็บให้ดี อย่าให้มีกลิ่นรบกวนผู้อื่น ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกว่าอาหารที่เรานำมานั้นหอม หรือการกินอาหารในสำนักงาน ในห้องแอร์ หากเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรงก็รบกวนผู้อื่นได้

ล้วงแคะแกะเกา

ไม่ได้หมายความว่าห้ามเกาถ้ารู้สึกคันในที่สาธารณะ แต่การเกาแบบเหมือนคนเป็นโรคผิวหนังอาจทำให้คนอื่นรู้สึกรังเกียจ การล้วงเข้าไปใต้ร่มผ้า การเกาในจุดที่คนมองแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วน หรือแคะขี้มูก นั้นน่าสะอิดสะเอียนและดูสกปรกมาก บางคนนั่งตัดเล็บจริงจังในที่สาธารณะ ก็เป็นภาพที่ไม่น่ามองเช่นกัน

เซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอินกับการขอแต่งงานในที่สาธารณะ ต้องทำความเข้าใจว่าคนแปลกหน้าที่เดินสวนทางกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะยินดีกับการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของใคร อาจขวางทางเดิน เสียงดังหนวกหู และที่สำคัญมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคน 2 คนที่คนอื่นไม่ได้อยากรู้ รวมถึงทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกระอักกระอ่วนใจกับสายตาของสาธารณชนด้วย

ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับความเกรงใจ

คำพูดที่ว่า “ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี” นั้น เพราะว่าในสังคมที่เราต้องอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ซึ่งมีทั้งคนที่เรารู้จักและไม่รู้จัก ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะทำอะไรที่เป็นการรบกวนผู้อื่นให้เดือดร้อน หรือแม้แต่รู้สึกไม่พอใจในการกระทำนั้น ๆ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับความเกรงใจคนอื่นให้มาก ๆ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ หรือต่อให้มันเป็นที่ส่วนตัว แต่รบกวนคนอื่นก็ต้องระวัง เราสามารถทำได้ทุกอย่างที่พึงกระทำได้ แต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก่อนจะทำอะไรก็ตาม ควรพิจารณาดังนี้

  • เป็นมารยาทที่พึงมี ต่อให้ไม่มีใครสอนก็ควรรู้ได้ด้วยตัวเอง
  • ใจเขาใจเรา คิดเสมอว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์นั้นบ้างก็คงรู้สึกไม่พอใจ อะไรที่ไม่ชอบก็อย่าปฏิบัติกับคนอื่น
  • ให้เกียรติและเคารพในสิทธิของคนอื่น โดยเฉพาะคนที่เราไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสนิทกันแล้วจะทำอะไรโดยไม่สนใจได้)
  • อย่าถือแค่ว่าเป็นสิทธิของเราแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจ ถ้ามันไปละเมิดสิทธิของคนอื่น
  • เคารพกฎกติกาของสถานที่ที่ต้องใช้ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย จริง ๆ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนรู้ แต่บางคนไม่สนใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook