เลิกสับสนได้แล้ว อาการแบบนี้แหละ In Love อยู่แน่ ๆ
สำหรับคนที่กำลังอยู่ในสถานะของคนคุยหรือคนแอบรัก แต่สิ่งที่รู้สึกอยู่ในใจยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เคยสงสัยในความรู้สึกของตัวเองบ้างหรือไม่? ว่าอาการที่เรากำลังเป็นอยู่นั้นมันคืออะไร เช่น อยากให้เขาหรือเธอยิ้ม อยากให้เขาหรือเธอมีความสุข อยากให้ตัวเราได้อยู่ข้าง ๆ เขาหรือเธอ ไม่ว่าจะโอกาสใดก็ตาม เป็นต้น
จริง ๆ แล้วมีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังอยู่ในภวังค์แห่งรัก โลกเป็นสีชมพูสดใส แต่กลับไม่รู้ว่าใจตัวเองรู้สึกอย่างไรอยู่ ยังไม่แน่ใจ ยังสับสนลังเล กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาเพราะใครคนนั้น จนไม่รู้ว่าเรียกว่าชอบหรือรักได้หรือยัง ซึ่งถ้าใครกำลังไปไม่ถูกกับความในใจของตัวเองที่ว่ากำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่ ไม่ต้องว้าวุ่นใจอีกต่อไปแล้ว เพราะ Tonkit360 จะชวนทุกคนที่เผชิญความรู้สึกนี้ ไปคุยกับตัวเองให้ชัดเจน ว่าอาการแบบนี้แหละเรากำลัง in love อยู่แน่ ๆ ถ้ารู้ตัวแล้ว จะได้ถึงเวลาพิจารณาอย่างจริงจังและตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรักครั้งนี้ดี
นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ทั้งวัน
เป็นอาการแรก ๆ ที่สังเกตได้อย่างชัดเจนเลยว่ากำลังอยู่ในห้วงแห่งรัก คือ อาการที่ใครสักคนสามารถนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ทั้งวัน ดีไม่ดีอาจถึงขั้นหน้าแดง หูแดง เวลาที่นึกถึงเขาหรือเธอขึ้นมา หรือเวลาที่มีใครพูดเรื่องความรักขึ้นมา ก็จะเกิดอาการเขินอยู่คนเดียว หากรู้ว่าตัวเองดีว่ากำลังมีอาการแบบนี้ก็แปลว่าเลิกสับสนและพร้อมเดินหน้าต่อ แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ในความรู้สึก ก็ต้องลองเช็กในข้อต่อ ๆ ไปดู
เริ่มที่จะหาความหมายของคำว่า “คลั่งรัก”
ก็ถ้าในหัวใจมีแต่ความรู้สึกเป็นสีชมพูวิ้ง ๆ อยู่ตลอด อาการออกจนคนรอบข้างต้องถาม แถมในใจก็รู้สึกว่า “ฉันกำลัง ‘คลั่งรัก’ อยู่หรือเปล่า?” จนต้องไปเปิดหาคำตอบหรือเช็กลิสต์อาการคนคลั่งรัก ยิ่งเช็กก็ยิ่งชัด ว่าอาการที่วิ้ง ๆ มวน ๆ เหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องนี้ เป็นความรู้สึกรักที่ระดับของความรู้สึกมากกว่าชอบ แล้วก็มากกว่าการหลงใหลตามปกติด้วย ทีนี้ก็คงชัดเจนแล้วนะว่าตรงนี้พบคนคลั่งรัก 1 อัตรา
ฟังแต่เพลงรัก
สัญญาณของคนกำลังมีความรัก ก็คือ ฟังแต่เพลงรัก เพราะอารมณ์กำลัง “อิน” อยู่อย่างไรล่ะ ยิ่งถ้ารู้สึกอินกับเพลงไหนมาก ๆ ก็สามารถฟังเพลงเดิมวนซ้ำ ๆ ได้เป็นสิบเป็นร้อยรอบเลยทีเดียว ถ้ายังสับสนไม่แน่ใจ ก็ลองพิจารณาดูว่าแต่ก่อนนี้เป็นคนที่ฟังเพลงรัก เพลงหวาน ๆ แบบนี้แค่ไหน ถึงขั้นเสพติดไหม ถ้าจู่ ๆ ก็ชอบขึ้นมา ก็ไม่ปกติแล้วรู้ไว้เลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในโหมดมีความรัก โลกกำลังเป็นสีชมพู
มีแต่ใครคนนั้นเข้ามาเข้ามารบกวนสมาธิหรือความคิดอยู่เรื่อย ๆ
อารมณ์ประมาณว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีหน้าเขาหรือเธอปรากฏขึ้นมาในจินตนาการอยู่เสมอ ยิ่งถ้ากำลังทำอะไรเพลิน ๆ แล้วจู่ ๆ มีแว่บขึ้นมา ก็เตรียมตัวเตรียมใจเป็นคนคลั่งรักได้เลย หรือบางทีกำลังคิดบางเรื่องและเตรียมที่จะตัดสินใจ ก็จะนึกถึงเขาและเธอเข้ามาอยู่ในการตัดสินใจนี้ด้วย เขาหรือเธอจะโอเคไหมนะ จะชอบไหมนะ ที่สำคัญคือ จะมีคำว่า “ฉันและเขา (เธอ)” ทุกครั้งที่ตัดสินใจ แบบนี้ก็ชัดเจนแล้วไหมว่าตัวเองกำลังอยู่ในอาการ in love ชัวร์ ๆ
อยากเป็นตัวเองเวอร์ชันที่ดีขึ้น
อานุภาพร้ายแรงของความรัก คือ สามารถทำให้ใครคนหนึ่งคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพราะอยากให้เขาหรือเธอรู้สึกว่าเราปรับปรุงตัวได้เพราะมีคนที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ อะไรที่ปกติไม่เคยทำก็พยายามจะทำ อย่างไรก็ดี ขอให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำเอง ไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือพยายามแค่จะเอาชนะใจให้คนอื่นมารักมาชอบ จงทำเพราะอยากให้ตัวเองดีกว่าเดิมดีกว่า
มีอารมณ์ร่วมตลอดกับอารมณ์ของเขา
จะสุข จะเศร้า จะเหงา จะทุกข์ ก็เอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับความรู้สึกของเขา อยากรับรู้ อยากช่วยแบ่งเบา อยากเป็นกำลังใจ อยากอยู่ข้าง ๆ เสมอ แถมยังคิดมากเป็นกังวลกับอารมณ์ของเขาหรือเธออยู่ตลอด แค่เขาหรือเธอขมวดคิ้วนิดหน่อยก็ยังสังเกตเห็น มีลางสังหรณ์ (คิดเองเออเอง) ว่าเขาหรือเธอต้องมีเรื่องไม่สบายใจอยู่แน่ ๆ แล้วก็พะว้าพะวังไม่สบายกับความไม่สบายของเขาหรือเธอแทบทั้งวัน ถึงอย่างนั้น อย่าลืมเอาเวลามาสนใจตัวเองด้วยนะ
อารมณ์ดี๊ดี มีความสุขได้ทั้งวัน
ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไหม ที่คนที่กำลังมีความรักจะมีอารมณ์ดี๊ดี มีความสุขได้ทั้งวัน เรื่องแย่ ๆ ผ่านเข้ามา จากที่แต่ก่อนจะหัวร้อนหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก็กลายเป็นไม่ได้หงุดหงิดกับมันมากเท่าเดิม ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ยิ้มได้มากขึ้นกว่าเดิม นี่ก็ถือเป็นเรื่องดีจากผลพวงของความรัก เพราะอารมณ์ในด้านบวกย่อมดีกว่าอารมณ์ด้านลบอยู่แล้ว ต้องขอบคุณเรื่องดี ๆ นี้ที่เข้ามา ที่ทำให้เรามองโลกได้สดใสมากยิ่งขึ้น