จะเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์เลี้ยงเมื่อคู่รักเลิกรากัน?
การตัดสินใจเลิกราหรือหย่าร้างในสังคมไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้คนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงของคู่ที่เคยรัก และนำมาซึ่งข้อพิพาทในชั้นศาลได้ ทำให้เกิดแนวคิดการเตรียมการล่วงหน้าสำหรับสถานการณ์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักไม่ต้องตกที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะเมื่อกฎหมายของสหรัฐฯ มองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นทรัพย์สินเมื่อคู่แต่งงานแยกทางกันตามกฎหมาย
ปัจจุบัน ศาลอเมริกันเล็งเห็นแนวทางใหม่ในการตัดสินเรื่องสิทธิในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของครอบครัว โดยมีการจ้างผู้ไกล่เกลี่ยพิเศษเพื่อตกลงกันในเรื่องนี้ นอกจากนี้บางคู่ยังมีการเซ็นสัญญาก่อนที่จะแต่งงานเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงหากการแต่งงานสิ้นสุดลงอีกด้วย สัญญาดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า “petnups” ซึ่งได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีในอนาคต
ทั้งนี้ คำว่า Petnup เป็นการเล่นคำจากคำว่า "prenup" ซึ่งย่อมาจาก "prenuptial" คือข้อตกลงที่คู่รักบางคู่ทำขึ้นก่อนแต่งงานเกี่ยวกับการจัดการสิทธิในทรัพย์สิน
สำนักข่าว Associated Press ได้พูดคุยกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงและนักกฎหมายหลายๆ คนในเรื่องนี้
ในบางรัฐของสหรัฐฯ กฎหมายอนุญาตให้ผู้พิพากษาตัดสินเรื่องสิทธิในการดูแลสัตว์เลี้ยงโดยพิจารณาจากผลประโยชน์สูงสุดของสัตว์เลี้ยง
สภานิติบัญญัติของรัฐนิวยอร์กกำลังพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว โดย เจมส์ สกูฟิส (James Skoufis) วุฒิสมาชิกของรัฐนิวยอร์ก เป็นผู้สนับสนุนร่างกฎหมายที่ว่านี้ ตัวเขาเองก็มีแมวที่ชื่อว่า รูธ (Ruth) ซึ่งมาจากชื่อของตุลาการศาลสูงของสหรัฐฯ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก (Ruth Bader Ginsburg) ผู้ล่วงลับไปแล้ว
ส.ว. สกูฟิส กล่าวกับ Associated Press เกี่ยวกับกฎหมายที่เสนอนี้ว่า แมวหรือสุนัขของใครบางคนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของคนเหล่านั้น และไม่ควรได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง
อดัม ซิตรอน (Adam Citron) ทนายความด้านการหย่าร้างในนิวยอร์กกล่าวว่า เรื่องสิทธิในการดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นปัญหาที่ยากเสมอ ดังนั้นเขาจึงสนับสนุนการทำสัญญา prenups ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และว่า Petnup เป็นข้อตกลงที่มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคู่รักมีสัตว์เลี้ยงระหว่างที่แต่งงานกันอยู่
เขากล่าวเสริมว่าเรื่องสิทธิในการดูแลสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นเรื่องที่สะเทือนอารมณ์และตัดสินได้ยากกว่าการเป็นเจ้าของชุดจานชามหรือรถยนต์ Citron ให้คำแนะนำสำหรับรัฐที่ไม่มีกฎหมายเหล่านี้ว่า ก่อนที่คู่แต่งงานจะรับสัตว์มาเลี้ยง พวกเขาควรตัดสินใจว่าชื่อของใครจะอยู่ในเอกสารการจดทะเบียนหรือเอกสารการเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว และคน คนนั้นควรจะเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงนั้นด้วยเงินของตัวเอง
ผู้ไกล่เกลี่ยบางคนกล่าวว่าพวกเขาทำงานเพื่อแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโดยให้สิทธิในการดูแลร่วมกัน แต่บางคนบอกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข และสุนัขมักจะเป็นศูนย์กลางของข้อพิพาทเรื่องสิทธิการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมอ
ไมลส์ เมสัน ซีเนียร์ (Miles Mason Sr.) ทนายความด้านการหย่าร้างในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซีบอกกับ AP เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อสิทธิในการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดุเดือดของสามีภรรยาคู่หนึ่ง โดยทั้งสองคนทะเลาะกันเรื่องสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดสองตัวของพวกเขา ฝ่ายภรรยาได้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้ควบคุมสุนัขตัวใหญ่ได้ดีแต่สามีไม่ได้รับการฝึกนี้ และก่อนการหย่าร้างสามีไม่สามารถควบคุมสุนัขตัวหนึ่งขณะที่พาไปเดินเล่น เป็นผลให้สุนัขอีกตัวที่ผ่านมาถูกฆ่า ภรรยาได้โต้ว่าสามีไม่ควรได้รับสิทธิในการเลี้ยงดูสุนัขเพราะเขาไม่สามารถควบคุมมันได้
เมื่อทั้งคู่แยกทางกัน สามีต้องการไปเยี่ยมสุนัขที่เคยเลี้ยงซึ่งผู้พิพากษาเห็นด้วย แต่กล่าวว่าการเยี่ยมนั้นต้องอยู่ในการควบคุมในบ้านของฝ่ายภรรยา อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษากล่าวว่าอาจมีการพิจารณาใหม่อีกครั้งได้ หากฝ่ายสามีเข้ารับการฝึกอบรมการควบคุมสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดแล้ว
คาริส นาฟตี (Karis Nafte) ผู้ศึกษาพฤติกรรมสัตว์มาเป็นเวลาเกือบ 26 ปี เล่าว่า เมื่อสองปีก่อนเธอเริ่มทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิการดูแลสัตว์เลี้ยงสำหรับผู้ที่ต้องการหย่าร้าง เธอพยายามช่วยให้ผู้คนเข้าใจว่า “แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าสุนัขคือลูกของคุณ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่”
ในความเป็นจริงแล้ว การปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นลูกอาจเป็นผลเสียต่อสัตว์ได้ เพราะตารางการเยี่ยมหรือสิทธิในการดูแลร่วมกันนั้นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับสุนัขมากกว่าการแยกจากกันอย่างถาวร เพราะสุนัขที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างบ้านสองหลังอาจมีปัญหาด้านพฤติกรรมได้
นาฟตี แนะนำว่าควรเจรจาเรื่องสิทธิในการดูแลสัตว์เลี้ยงก่อนเป็นอันดับแรกในการหย่าร้าง เพราะจะทำให้กระบวนการที่เหลือเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น