วิธีการปลูกต้นกระท่อมง่ายๆ ด้วยการปักชำ

รัฐบาลได้ปลดล็อกพืชกระท่อมให้ไม่ผิดกฎหมายแล้ว หลังจากรอบที่แล้วเราแนะนำเกี่ยวกับ กระท่อมไปว่าคืออะไร มีสรรพคุณอะไร เราจึงมาแนะนำวิธีการปลูกต้นกระท่อมกัน เป็นวิธีปักชำทำง่ายๆเผื่อใครที่จะสนใจปลูกไว้ในบ้าน   

หลังจากที่ปลดล็อกพืชกระท่อมให้ถูกกฎหมายราคาก็พุ่งสูงมากเลยทีเดียว ใบกระท่อมในท้องถิ่นขายปลีก 7-8 ใบ 20 บาท และราคาประมาณ 1,000 บาท / กก. บางต้นทำรายได้ประมาณ 10,000 บาท

ราคาที่สูงมากขึ้นนอกจากเป็นเพราะปลดล็อกแล้ว ยังเพราะขาดแคลนจากที่ผ่านมามีการโค่นทำลายจำนวนมากในก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นเรามาดูอุปกรณ์และวิธีการปักชำ(ปลูก)กระท่อมง่ายๆกันดีกว่า

อุปกรณ์ปลูก

1. ดินคุณภาพดีหรือพีทมอส (พีทมอส คือ อินทรียวัตถุจากธรรมชาติ เป็นมิตร เป็นวัสดุที่ดีที่สุดสำหรับการเพาะเมล็ด และต้นกล้า สะอาด ปราศจากเชื้อโรคและแมลง เป็นวัสดุที่ต่อต้านเชื้อราที่จะหยุดการเจริญเติบโตของเมล็ด แต่เป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรียชั้นดีสำหรับการงอกของเมล็ดและต้นอ่อน)
   
   
2. แก้วพลาสติกใส
   
   
3. น้ำยาเร่งราก (แนะนำclonex)
   
   
4. ถุงใส (ถุงใส่แกงก็ได้)
   
   
5. หนังยาง
   
   
6. สำคัญสุด  กิ่งกระท่อม (เลือกดูกิ่งที่ไม่อ่อนและแก่จนเกินไป)

วิธีปลูกพืชกระท่อม 

1. เอาดินผสมกับน้ำพอชุ่ม(ไม่แฉะ) แล้วใส่กระป๋องแก้วพลาสติกเตรียมรอไว้
   
   
2. เอาน้ำยาเร่งรากมาทาบริเวณโคนกิ่งหรือจุ่มกิ่งลงไปในน้ำยาก็ได้
   - แบ่งน้ำยาใส่ภาชนะอื่น ห้ามจุ่มลงในขวดโดยตรงเพราะจะทำให้น้ำยาเร่งรากเสียไว
   - ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีสำหรับแบบจุ่ม 
   - สำหรับแบบทาควรทิ้งไว้ให้น้ำยาแห้งก่อน
   
   
3. นำกิ่งกระท่อม ที่ทาน้ำยาเร่งรากแล้วมาปักลงบนดินที่เตรียมไว้ ควรเปิดทางด้วยการแทงดินนำลงไปก่อนด้วยกิ่งไม้หรืออะไรที่เป็นแท่งตรง และค่อยนำกิ่งกระท่อมลงตาม 
   
   
4. นำถุงใสที่เตรียมไว้มาครอบแล้วนำหนังยางมามัดไว้ให้แน่นไม่ให้อากาศเข้าได้ 
   
   
5. นำไปตั้งไว้บริเวณที่มีแสง(แต่ไม่จัดจนเกินไป)
   
   
6. รอดูว่ารากขึ้นไหม แล้วค่อยนำลงดินต่อไป

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

• หากใบกระท่อมใหญ่เกินไป ให้ตัดใบเหลือเพียงครึ่งใบ เพื่อให้กิ่งที่เราปักชำแตกรากไวขึ้น
• ใส่หินเพอร์ไลท์เพื่อช่วยให้อุ้มน้ำและให้ต้นมีโอกาสรอดเพิ่มมากขึ้น(ไม่ให้รากแห้ง,ขาดน้ำตาย)
• สามารถใช้ “ไฟสำหรับปลูกต้นไม้” เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการแตกรากของ กิ่งที่เราปักชำ
• สามารถตัดกิ่งให้สั้นลง เพื่อเพิ่มโอกาสแตกรากได้มากขึ้น เพราะอาหารและน้ำจะขึ้นไปเลี้ยงต้นได้เร็วขึ้น