ช่วยเต็มที่ หมอเจี๊ยบช่วยเหลือ ครูเชาว์ ครูอาสาสะพานพระรามแปด ให้เด็กมีความเป็นอยู่ที่ดี

เรียกว่าหมอเจี๊ยบไม่เคยหยุดที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเลยจริงๆ นอกจากจะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือผู้ป่วยด้านโควิดแล้ว คุณหมอยังเป็นที่พึ่งพาและช่วยเหลือเหล่านักเรียนที่ขาดโอกาสอยู่เสมอด้วย

หมอเจี๊ยบ

ซึ่งล่าสุดหมอเจี๊ยบได้นำเรื่องราวดีๆ จากมูลนิธิ "ตัวเล็ก ใจใหญ่" ที่นอกจากจะช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ที่ยังไม่มีที่รักษาแล้ว มูลนิธินี้ยังมีโครงการอื่นๆ ในการช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือช่วยเหลือ คุณครูและเด็กๆ ที่มีโอกาสด้านการศึกษาที่น้อยกว่าผู้อื่น

• ย้อนวัยเด็ก "หมอเจี๊ยบ" ผู้เป็นทั้ง แพทย์ นักแสดง นางสาวไทย และนักกีฬา

โดยหมอเจี๊ยบ ลลนา ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจผ่าน IG ของหมอเอาไว้ว่า

นอกจากทางมูลนิธิจะมีโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย​โควิด ที่ยังไม่มีที่รักษา​ ติดค้างอยู่ที่บ้านแล้ว​ ยังมีโครงการช่วยสังคมอื่นๆ อีกมากมาย​ หนึ่งในการกระจายความช่วยเหลือ​ ที่ทางมูลนิธิได้มีส่วนช่วยมาตลอด​ คือ​ ครูอาสาแห่งชุมชนใต้สะพานพระรามแปด

"ครูเชาว์" มีเยาวชนในความดูแลของครูเชาจำนวน 60-80 คน​โดยทางมูลนิธิเองได้เคยพบกับน้องๆ​ จากโครงการที่ทางมูลนิธิเคยจัด​ขึ้น​โดยได้พาน้องๆ​ นั่งรถบัสไปสัมผัสทะเลครั้งแรกในชีวิต​ รวมถึงทางมูลนิธิได้ส่งเงินช่วยเหลือครูเชา​ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลเยาวชนในชุมชนทุกเดือน​เดือนละ​ 10,000 บาท​ ตลอดระยะเวลา​ 1 ปี​ ที่ผ่านมา​ และจะยังคงช่วยเหลือต่อไป​ จริงอยู่ที่ต้นทุนชีวิตของแต่ละคนไม่เท่ากัน​ แต่เราเลือกจะทำสิ่งดีๆ​ สิ่งที่ทำให้ตัวเราเองภูมิใจในตัวเองได้​ ขอบคุณครูเชาที่คอยดูแลเด็กๆ​ในชุมชนใต้สะพานพระราม​ 8 และขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนโครงการต่างๆของมูลนิธิ ดีใจที่เราได้กระจายความช่วยเหลือ​ ให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น @lets.be.heroes.foundation

ครูเชาว์-เชาวลิต สาดสมัย เกิดมาร่างกายไม่เหมือนคนอื่น ทั้งมือ ขา และดวงตา มีความผิดปกติ พ่อแม่ของครูเชาว์ตัดสินใจทอดทิ้งเขา ทำให้เขาต้องมาเติบโตในสถานสงเคราะห์เด็กบ้านราชาวดี โดยครูครูเชาว์ อยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็กๆ แม้จะเรียนรู้ได้ช้ากว่าคนอื่น และเพื่อนร่วมชั้นก็ไม่มีใครยอมรับ ครูเชาว์ใช้สิ่งเหล่านี้มาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเอง จนสามารถศึกษาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

และหลังจากนั้นเขาก็ทำตามความฝันของตัวเองด้วยการเป็นครู และคอยมอบความสุขให้กับเด็กในชุมชนที่ขาดแคลน ตามความตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ตอบแทนแผ่นดิน และให้เด็กที่ด้อยโอกาสที่เข้ามาเป็นลูกศิษย์ของเขาได้มีโอกาสเรียนจบระดับปริญญา โดยระหว่างการว่างจากการทำหน้าที่ครู เขาใช้เวลาว่างไปกับการรับจ้างแบกหาม หรือออกเก็บขยะขาย เพื่อนำเงินมาซื้อขนมและอุปกรณ์ทางการเรียนให้กับเด็กๆ