ค่านิยมติดหรูของ “คนเจนวาย” ที่อาจก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว

ค่านิยมติดหรูของ “คนเจนวาย” ที่อาจก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว

ค่านิยมติดหรูของ “คนเจนวาย” ที่อาจก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของคนในสังคม ทำให้การโพสต์ภาพต่าง ๆ เพื่อแสดงถึงชีวิตที่อยู่ดีกินดีของตัวเองผ่านโลกออนไลน์ กลายเป็นเรื่องปกติของใครหลายคน และดูเหมือนว่ากลุ่มคนที่อยู่ในเจเนอเรชัน Y หรือที่เราเรียกกันว่า “เจนวาย” ซึ่งมีอายุระหว่าง 22-37 ปี จะกินขาดในเรื่องนี้หากเทียบกับกลุ่มคนในเจนอื่น ๆ

โดยจากผลสำรวจล่าสุดที่นิด้าโพลร่วมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เกี่ยวกับพฤติกรรมการออมและภาวะหนี้สินประชาชนครึ่งปี 2560 พบว่า คนไทยเป็นหนี้มากถึง 40 ล้านคน ซึ่งกลุ่มเจนวาย เป็นกลุ่มที่ครองแชมป์หนี้เยอะมากที่สุด ทั้งเป็นหนี้เร็ว หนี้นาน และยอดหนี้สูง

ผลสำรวจดังกล่าวถือว่าไม่ต่างจากผลสำรวจของปีก่อนที่กลุ่มคนเจนวายครองแชมป์ในการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นในทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนในยุคเจนวายเกิดมาในยุคที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์มากกว่าคนในยุคก่อนหน้าอย่างเจเนอเรชัน X และเบบี้ บูมเมอร์ อีกทั้งยังมีชีวิตสะดวกสบายจากที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ได้สร้างไว้ให้ จึงแทบไม่รู้จักกับคำว่าลำบากหรือปากกัดตีนถีบ

ด้านรายได้ของคนกลุ่มนี้ หากเทียบกับช่วงอายุเดียวกันกับเจนก่อนหน้าก็ถือว่าค่อนข้างสูง จึงทำให้มีกำลังทรัพย์ในการจับจ่ายได้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็แทบไม่มีเงินออม เพราะมองว่าเงินเป็นสิ่งที่หามาได้ง่าย ๆ

ประกอบกับกลุ่มคนเจนวายมักมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจเอง จึงมักไม่ชอบทำงานประจำหรือเป็นลูกน้องใคร ซึ่งจากผลสำรวจโดยสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) พบว่าคนเจนวายมีแนวโน้มที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว หรือเป็นเจ้าของกิจการเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี แต่ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ จึงทำให้มีโอกาสล้มเหลวได้สูงแบบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ยังระบุด้วยว่า ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเจนวายที่มีมากกว่า 22 ล้านคนในประเทศไทยนั้น มักจะคล้ายคลึงกับกลุ่มเจนวายชาติตะวันตก เพราะได้รับอิทธิพลสูงจากเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตไม่ต่างกัน

โดยจากสถิติพบว่า คนเจนวายเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายด้านอาหารสูงสุดถึง 77 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด และมักนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน อีกทั้งยังมีโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ทำให้พวกเขาได้แสดงตัวตนอย่างที่ต้องการให้คนอื่นได้เห็นด้วย เราจึงได้เห็นภาพการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ นั่งอยู่ตามร้านอาหาร ร้านกาแฟยอดนิยมต่าง ๆ ให้เห็นกันจนชินตา

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการต่างเป็นห่วงว่าหากกลุ่มคนเจนวายไม่คิดปรับเปลี่ยนค่านิยมในการใช้ชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ และยังคงมีภาระหนี้สินที่ไม่ลดลง ก็จะส่งผลระยะยาวต่อชีวิตวัยเกษียณได้

เพราะหากบ้านเราเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มตัวในขณะที่ประชากรยังมีภาระหนี้ในสัดส่วนที่สูงอยู่จากการแบกรับหนี้อย่างต่อเนื่อง คุณภาพชีวิตก็ต้องถูกบั่นทอนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook