ความสัมพันธ์ Ghosting อยู่ดีๆ หายไปเลยยังกับผีหลอก
เดี๋ยวถึงบ้านแล้วเค้าทักไปนะ…..ผ่านไปเป็นปีเธอก็ยังไม่ถึงบ้าน ไม่ทักมา ไม่แน่ใจว่าบ้านเธออยู่ดาวอังคารรึเปล่า นี่คือความสัมพันธ์แบบ Ghosting
ความสัมพันธ์แบบโกสติง (Ghosting) คืออะไร?
Ghosting Relationship คือชื่อเรียกความสัมพันธ์ ที่ใครสักคนหายไป ไม่บอกไม่กล่าว ไม่โทร ไม่ส่งข้อความ ไม่มีอะไรบอกทั้งนั้น แม้เราจะพยายามส่งข้อความ พยายามติดต่อแค่ไหน ก็ไม่ได้อะไรกลับมา เขาคนนั้นก็จะหายไปแบบเงียบๆ ราวกับผี ทำให้เกิดชื่อเรียกว่า โกสติง
เคยมีการศึกษาในช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา พบว่ามีคนราวๆ 25% ที่อยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ สาเหตุที่ความสัมพันธ์แบบนี้เพิ่มสูงขึ้น มาจากการหาคนคุยผ่านแอปต่างๆ เช่น Grindr ,Tinder ทำให้เรารู้จักกันอย่างรวดเร็ว แต่อาจจะไม่จริงจัง
ทำไมคนถึง Ghosting?
มองในอีกมุมมองหนึ่งแล้วทำไมเขาต้องหลอกเราด้วย คำตอบนั้นซับซ้อนมีหลายอย่างมากๆ แต่ที่เห็นตรงกันมากที่สุดคือ ความกลัว ซึ่งความกลัวในที่นี้หมายถึง เขากลัวที่จะต้องสานต่อความสัมพันธ์ กลัวว่าจะต้องเลิกเลยพยายามเงียบหายไป และเหตุผลอื่นๆ ที่มีความเป็นไปได้ พอคุยแล้วรู้สึกไม่ชอบ รู้สึกถูกคุกคาม ต้องการดูแลความรู้สึกตัวเอง ทดลองคุยแล้วไม่ใช่ ก็เลยเลือกที่จะหายไปเงียบๆ
ทำอย่างไรดีเมื่อถูก Ghosting
เริ่มแรกให้สังเกตก่อนว่ามีอะไรผิดปกติไหม เช่น การที่เขาหายไปอาจจะเพราะงานยุ่ง ต้องเดินทางทำให้ไม่สามารถคุยกับเราได้ หลังจากนั้นก็อาจจะกลับมา มีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นไหม ดูหลายๆปัจจัยประกอบ หากรู้สึกผิดปกติ เงียบหายนานเกินไป คำตอบที่ดีที่สุดคือ มูฟออน ออกมา
Ghosting นั้นส่งผลต่อจิตใจ
ที่บอกให้มูฟออนออกมา เพราะการถูกหลอกนั้นส่งผลเสียอย่างมาก มีการศึกษาพบว่า ยิ่งถูกหลอกมากเท่าไร เราจะยิ่งกลัวความสัมพันธ์ครั้งต่อไปมากเท่านั้น สมองจะจดจำและเรียนรู้ที่จะปฏิเสธและกลัวเหมือนมันเป็นความเจ็บปวดทางร่างกาย
เราอาจจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ที่อาจจะเจอในอนาคต แต่บางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกอยากอยู่คนเดียวไปเลยก็ได้ ผีหลอกอาจจะไม่น่ากลัวเท่าคนเราหลอกกันเอง ยิ่งมาหลอกให้รักแล้วจากไปนี่เป็นหนึ่งในการหลอกที่น่ากลัวที่สุดเลย
อย่างไรก็ตามก็ต้องดูให้ดีๆใครเสียใจมา มาเติมพลังใจดีๆได้ที่ ไอ.เอ็น.เอ็น. อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดทุกคอนเทนต์ดีๆสำหรับคุณ