Final Call แนะนำหนังสือห้ามพลาดโค้งสุดท้ายงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 26

แจ้งเตือนนักอ่านทราบ! เหลืออีกเพียงไม่ถึง 48 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 26 กับโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ หากยังไม่รู้จะหยิบหนังสือเล่มไหนใส่ตะกร้าเราคัดเลือกตามหมวดหมู่ความสนใจมาให้แล้ว เริ่มตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่หาคู่มือเลี้ยงลูกน้อย คนรักต้นไม้ นวนิยายน่าอ่าน ไปจนถึงหนังสือสังคมการเมือง มีลิสต์อะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

รักวัวให้ผูกรักลูกให้สอน

1. วิชาพ่อแม่ที่โรงเรียนไม่ได้สอน

โจทย์ท้าทายสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกวัยรุ่นคือ พ่อแม่ไม่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์และสังคมของลูก จึงมักทำร้ายลูกโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลต่อสุขภาพจิตที่มีแนวโน้มให้วัยรุ่นมีปมค้างใจ กลายเป็นโรคซึมเศร้า เราต้องทำอย่างไรจึงจะเป็นพ่อแม่ที่คุยและแนะนำลูกวัยรุ่นได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว มุมมอง การเลือกเส้นทางชีวิต หนังสือเล่มนี้มีคำตอบให้พ่อแม่ทุกคน!

2. พ่อแม่จ๋า อย่าโกรธหนู

เนื้อหาในเล่มเขียนขึ้นเพื่อคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองที่กำลังประสบปัญหาเรื่องการจัดการอารมณ์เวลาต้องเลี้ยงดูลูก และรู้สึกผิดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จนนำไปสู่การตีหรือทำร้ายลูกโดยไม่ตั้งใจ ในเล่มนำเสนอแนวทางและวิธีการที่นำไปใช้ได้จริง เช่น การระงับอารมณ์ เทคนิคทำใจให้เย็นก่อนจะเผลอพลั้งมือ และวิธีรับมือกับลูก ๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้คุณรู้เท่าทันอารมณ์และเลี้ยงลูกอย่างมีความสุขได้โดยไม่สร้างบาดแผลไว้ในใจ

3. แม่จ๋าอย่าโมโห

นิทานภาพสไตล์มินิมอลๆ จากเยอรมนี ซึ่งได้รับการแปลไปหลายภาษาทั่วโลก เรื่องราวว่าด้วย คุณแม่เพนกวินที่เกิดอารมณ์โมโหระเบิดอารมณ์ใส่ลูกเพนกวิ้นจนเจ้าเพนกวินจิ๋วตัวแตกหลุดกระจัดกระจายไปทั่วโลก เป็นนิทานเด็กที่สอนใจผู้ใหญ่ได้ดีที่สุดเล่มหนึ่ง แนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่

4. โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก

หนังสือเล่มนี้เป็นแค่ความหวังเล็กๆ ว่าอาจช่วยให้พ่อแม่มองหา และมองเห็นบางรายละเอียดระหว่างเส้นทางการเลี้ยงดูลูก แค่บางอย่าง... ไม่ใช่ทั้งหมด บางอย่างเล็กจ้อยอันอาจเป็นที่มาของความไร้สุข บางอย่างที่อาจพรากเราออกห่างคนละฟากจักรวาลทั้งๆ ที่นั่งอยู่กันตรงนั้น บางอย่างอ้างว้างเกินไปในความรัดแน่นเกินไป บางเปราะบาง กรีดบาด และแตกร้าว เพื่อจะบอกย้ำว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีค่าเหลือเกิน มีค่าเกินไป งดงามเกินไป กว่าเราจะยอมจ่ายได้... แค่จะแลกมาซึ่งลูกในอุดมคติ

สายเขียวรักต้นไม้ใบหญ้า

 

1. Happy CACTUS

วิธีดูแลให้เจ้าขนหนามกอน้อยของคุณให้เป็นสุขและสุขภาพดีตลอดปี หนังสือเล่มนี้จะตอบปัญหานี้อย่างตรงประเด็น ด้วยคำแนะนำที่ปฏิบัติตตามได้จริงเกี่ยวกับที่ตั้งวางต้นไม้ของคุณ วิธีช่วยให้ออกดอก และเวลารดน้ำกับใส่ปุ๋ย แฮปปี้แคคตัสจะแสดงให้คุณเห็นว่าอะไรทำให้แคคตัสหรือไม้อวบน้ำของคุณมี ความพิเศษและต้นไม้ของคุณจะมีพฤติกรรมแบบใดเมื่อได้รับการ ปฏิบัติจากคุณด้วยความรักเพียงเล็กน้อย

2. บอนสี Caladium

ไม่ตกเทรนด์เรื่อง บอนสี ราชินีแห่งใบไม้ ที่ครองใจคนรักต้นไม้มาอย่างยาวนาน รวบรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้ของ บอนสี Caladium จากสมาคมบอนสีแห่งประเทศไทย มาไว้ในเล่มนี้แล้ว

3. รู้ทันโรคพืช

รวมความรู้พื้นฐานด้านโรคพืชจากประสบการณ์ในการเรียนการสอนและการวิจัย เพื่อให้ผู้สนใจสามารถใช้เป็นข้อมูลความรู้พื้นฐานประกอบการวินิจฉัย ตั้งแต่เรียนรู้ว่าพืชเป็นโรคได้อย่างไร มีปัจจัยใดเกี่ยวข้องกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นบ้าง อาการโรคพืชที่เกิดจากเชื้อสาเหตุชนิดต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ไฟโตพลาสมา เชื้อไวรัส ไวรอยด์ ไส้เดือนฝอย เป็นต้น ทั้งในพืชไร่ ผัก ไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับ

อ่อนไหวใจบางแนะนำลิสต์นี้!

 

1. เป็นคนธรรมดา แต่ว่า...ซึมเศร้านิดหน่อย

ไดอารี่ของนักดนตรีสาวที่เผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้ามานับสิบปี เธอตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชและเขียนเล่าประสบการณ์ทั้งหมดผ่านตัวอักษร ทั้งการใช้ชีวิต การรักษากับจิตแพทย์ จนกระทั่งการตัดสินใจฆ่าตัวตาย แม้จะอยู่ท่ามกลางชีวิตที่แทบมองไม่เห็นวันพรุ่งนี้ เธอยังคงหวังว่าสักวันจะหายจากโรคที่กัดกินจิตใจนี้เสียที หนังสือ เป็นคนธรรมดา แต่ว่า...ซึมเศร้านิดหน่อย เปิดเปลือยความรู้สึกของการเผชิญกับโรคซึมเศร้าอย่างซื่อตรง ละเอียดอ่อน และสะเทือนใจ ซึ่งจะทําใหคุณเข้าใจ “โลกของคนซึมเศร้า” ได้ลึกซึ้งและชัดเจนขึ้น

2. ฉันไม่ได้อ่อนไหว เธอนั่นแหละที่ทำเกินไป

หนังสือเล่มนี้จะพาเราไปสังเกตพฤติกรรมของคนที่ชอบล้ำเส้นอารมณ์ของผู้อื่น การทำความเข้าใจมนุษย์และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล รวมไปถึงวิธีการสร้างความมั่นคงทางจิตใจ เพื่อสร้างขอบเขตอารมณ์ที่แข็งแกร่ง ไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายความรู้สึกได้ง่าย ๆ ให้อารมณ์และจิตใจของเราเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง ขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองก้าวล้ำเส้นอารมณ์ของผู้อื่นไปด้วย

3. สุขก็เล่า เศร้าก็ฟ้อง

หลายเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเจอเอง แค่เรียนรู้จากบทเรียนชีวิตคนอื่นก็เพียงพอแล้ว “สุขก็เล่า เศร้าก็ฟ้อง” เล่มนี้จึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนประสบการณ์หลากหลาย ที่มาพร้อมข้อคิดสะกิดเตือน เปรียบเหมือนมีเพื่อนคอยตบบ่า กอดปลอบใจไปจนถึงนั่งอยู่ข้างๆ พร้อมเข้าใจเราเสมอ

ลิสต์ปกขาวใส่ใจทั้งสุขภาพกายและใจ

1. ที่ผ่านมา มนุษย์ไม่เคยไร้หัวใจ

มนุษย์ถูกสอนให้เชื่อว่าเราเกิดมาเห็นแก่ตัวและชั่วร้ายผ่านบทเรียนในหนังสือ สื่อมวลชน ทฤษฎีจิตวิทยาประวัติศาสตร์ ปรัชญา และอื่นๆ แต่หนังสือเล่มนี้กลับโต้แย้งว่า “มนุษย์เราเป็นคนดี” โดยกำเนิด รุตเกอร์สืบเสาะและค้นหาความจริงมาโต้แย้งด้วยการพาคนอ่านย้อนไปกว่า 200,000 ปี ผ่านการวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต เพื่อที่จะค้นพบว่าโฮโมเซเปียนส์ ไม่ได้ฉลาดกว่า เก่งกว่า หรือโหดร้ายกว่าโฮโมสายพันธุ์อื่น แต่พวกเขาเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันเป็นสังคมและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

2. 11 นาที

นวนิยายที่บอกเล่าเรื่องราวของมาเรีย เด็กสาวจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศบราซิลผู้ซึ่งใจสลายหลังจากประสบการณ์รักครั้งแรกตอนยังเด็ก เธอเชื่อว่าจะไม่มีวันได้พบรักแท้และมองว่า "ความรักคือสิ่งชั่วร้ายที่จะทำให้ทุกข์ทรมาน" แต่การพบเจอโดยบังเอิญ ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ได้พาเธอโบยบินไปยังเมืองเจนีวาที่ที่เธอใฝ่ฝันจะสร้างชื่อเสียงและเงินตรา แต่สุดท้ายกลับจบลงที่การเป็นโสเภณี

3. ช่องคลอด ใครคิดว่าไม่สำคัญ เพิ่มพลังหญิงสาวด้วย 9 วิธีดูแลช่องคลอดสไตล์ญี่ปุ่น

สูตินรีแพทย์หญิงโคะมะงะตะ โยะริโกะ ผู้เขียนก็เป็นอีกคนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับผู้หญิงคนอื่นๆ นั่นคือปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ต้องกินยาแก้ปวด 4-5 ครั้งต่อวันจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เธอจึงเริ่มศึกษาหาวิธีบรรเทาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเองและเผยแพร่ผ่านเว็บบล็อก แล้วรวบรวมสิ่งที่ศึกษาและทดลองแล้วว่าได้ผลมาแบ่งปันเป็นหนังสือเล่มนี้ เพราะเธออยากให้ผู้หญิงมีความสุขกับร่างกายและสุขภาพของตนเองเพื่อใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขและพร้อมแบ่งปันความสุขไปสู่คนที่รัก

สังคมการเมืองสายแข็ง

1. เบ้าหลอมนักปฏิวัติ

เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ ได้กล่าวถึงช่วงเวลาของสงครามกลางเมืองรัสเซียหลังการปฏิวัติ เล่าถึงเรื่องราวของเยาวชนคนหนึ่งที่ต่อสู้และเติบโตมาเป็นคอมมิวนิสต์ที่ดี ทุ่มเท และเสียสละทุกอย่างให้แก่ความเจริญของประเทศชาติ กลายเป็นแบบอย่างอันดีที่คนหนุ่มคนสาวทั่วไปจะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจในปรัชญาแห่งการดำรงอยู่ของชีวิต ที่สำคัญเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้มีพลังในการปลุกเร้าให้ผู้อ่านได้เห็นถึงคุณค่าที่แท้จริงของการเสียสละและอุทิศตนเพื่อสังคม

2. ทุน วัง คลัง (ศักดิ) นา : สมรภูมิเศรษฐกิจการเมืองไทย กับประชาธิปไตยที่ไม่ลงหลักปักฐาน

หนังสือเล่มนี้ได้ย้อนกลับไปขุดรากประวัติศาสตร์ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมิติทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสัมพันธ์กับการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างชนชั้นปกครองเก่ากับชนชั้นปกครองใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการลงหลักปักฐานของระบอบประชาธิปไตยในระยะยาว

3. ฐานันดรที่สามคืออะไร?

หนังสือที่โปรยปกและเชิญชวนอย่างน่าสนใจว่า “เหตุผลและความยุติธรรมไม่สามารถโอนอ่อน เพื่อเอาใจท่าน มันไม่คู่ควรแม้กระทั่งคำถามว่า ในท้ายที่สุด ชนชั้นอภิสิทธิ์ควรมีที่ทางตรงไหนในระบบสังคม นั่นเปรียบเสมือนการตั้งคำถามว่าธาตุเหลวที่เป็นพิษควรมีที่ทางตรงไหนในร่างกาย ของคนป่วย ในเมื่อธาตุเหลวนั้นบ่อนเซาะและทรมานร่างกายที่มันอาศัย ธาตุเหลวนั้นต้องถูก สยบ เพียงประการเดียว ... แต่ดูเหมือนมีผู้บอก แก่ท่านว่า ท่านยังไม่พร้อมต่อการมีสุขภาพดี แล้วท่านก็น้อมรับฟังคติเตือนใจดังกล่าวจาก ภูมิปัญญาแห่งอภิชนอย่างว่าง่ายเชื่องเชื่อไม่ต่าง จากชาวตะวันออกไกลยอมรับบุญทำกรรมแต่ง เป็นเครื่องปลอบประโลมใจ ดังนั้นก็จงทนป่วยต่อไป!”

วรรณกรรมรสชาติล้ำเลิศ

1. เพียงหนึ่งไจเดียว

เพียงหนึ่งไจเดียว คือหัวใจหนึ่งดวงของผู้หญิงโสดคนหนึ่ง ที่ต้องเข้มแข็งแม้เปราะบาง ต้องไม่หวาดหวั่นแม้วิตกกริ่งเกรง และต้องอยู่คนเดียวให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เรื่องราวของไวโอเลต พนักงานพิมพ์ดีดประจำบริษัทประกัน แต่ความเป็นโสดที่ต้องอยู่แบบเขียมๆ เจียมเนื้อเจียมตัว และการมีแม่ผู้ไม่ดูดาย รวมทั้งความเศร้าระคนความกลัวที่อยู่เบื้องลึกของหัวใจเธอเองนั้น กลายเป็นแรงผลักดันทำให้ไวโอเลตพยายามดิ้นรนค้นหาสีสันและความหมายใหม่ๆ ให้ชีวิต

2. ความจำที่สาบสูญ

ความจำที่สาบสูญ ฉบับภาษาญี่ปุ่นตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1994 ต่อมาได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเมื่อปี 2019 ในชื่อ The Memory Police และได้เข้ารอบสุดท้ายรางวัล International Booker Prize ประจำปี 2020 เล่าเรื่องราวบนเกาะไร้ชื่อที่ผู้คนเผชิญกับการหลงลืมเป็นเรื่องปกติ การสาบสูญของสิ่งสามัญ สิ่งสวยงาม และสิ่งที่เคยประทับภาพสำคัญในชีวิต หายไปจากความทรงจำโดยแทบไม่มีใครตั้งคำถาม

3. วินาทีไร้น้ำหนัก

นวนิยายเรื่องนี้นำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าของตนเองและผู้อื่นท่ามกลางเป้าหมายชีวิต ความสุข ความทรงจำที่แตกต่างกันไป ผู้เขียนก่อร่างชีวิตรูปแบบต่างๆ สื่อสารผ่านมนุษย์เงินเดือน พนักงานเสิร์ฟอาหาร สถาปนิก คนขับรถรับจ้าง พนักงานแคชเชียร์นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงหมาจรจัด นำเสนอตั้งแต่ระดับตัวตน คนรอบข้าง และผู้ร่วมอาศัยบนโลก โดยหลายชีวิตได้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันใน “อุบัติเหตุครั้งใหญ่” เกิดการเชื่อมประสานส่งผลกระทบต่อกัน อ่านจบแล้วทำให้ได้ทบทวนความหมายของชีวิต อย่าปล่อยให้สิ่งสำคัญหล่นหายไป จนล่วงผ่านไปถึงวินาทีสุดท้าย

ลิสต์หนังสือตื่นเต้นสั่นประสาท

1. อสูรผมขาว

คนในโลงศพจะกลับมา ความแค้นนี้มิได้ถูกฝังอยู่ในถ้ำตลอดกาล และถ้ำแห่งนั้นดูเหมือนถูกปิดตาย แต่แล้ว...มันกลับถูกแง้มออกมาด้วยบุคคลเหนือความคาดหมาย นั่นคน? หรือศพเดินได้? หรืออสุรกายกันแน่! เรื่องราวชวนตื่นเต้นเร้าใจ ที่มีแต่สวรรค์ (หรือนรก?) เท่านั้นที่รู้ อะไรกันหนอที่ทำให้บุรุษคนหนึ่ง กลายเป็นคนหัวขาวไปได้เพียงชั่วข้ามคืน ถ้ำแห่งนั้นคือแดนปริศนา ที่เก็บงำไว้ทั้งโครงกระดูก ศพ ความหลัง ความตาย และความพยาบาท และใครจะตกเป็นเหยื่อแห่งความอาฆาตทะลักออกมาจากถ้ำแห่งนั้น

2. ไซเลนต์ โตเกียว

จะเป็นอย่างไรเมื่อโทรศัพท์ปริศนาโทร.มาเตือนว่า มีการวางระเบิดที่สถานีรถไฟเอบิสุ โดยคนร้ายในเงามืดได้ออกอุบายบังคับให้ ยามางุจิ ไอโกะ แม่บ้านวัยกลางคน และ คุรุสุ โคตะ สตาฟรายการข่าวทีวี เป็นผู้ร่วมลงมือก่อวินาศกรรมกลางเมืองในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ระเบิดคนร้ายมีข้อเรียกร้องขอคุยกับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แบบตัวต่อตัว หากถูกปฏิเสธ ระเบิดครั้งถัดไปจะถูกจุดชนวนในเวลา 18.30 น. ของวันคริสต์มาสอีฟ ที่หน้ารูปปั้นฮาจิโก สถานีรถไฟชิบุยะ โตเกียว สถานการณ์จะ เลวร้าย หรือ คลี่คลาย ไปอย่างไร? ใครอยู่เบื้องหลังการวางระเบิดครั้งนี้ และใครจะหยุดพวกเขาได้? ติดตามได้ในเล่ม

3. ชดใช้

นำเสนอเรื่องราวของเด็กหญิงสี่คนที่เป็นพยานในที่เกิดเหตุฆาตกรรมของเพื่อนร่วมชั้นเมื่อสิบห้าปีก่อน ได้แก่ ซะเอะ มะกิ อะกิโกะ และยุกะ เด็กหญิงทั้งสี่ถูกแม่ของเด็กที่ถูกฆ่าตายตาหน้าว่าพวกเธอนั่นแหละที่ต้องชดใช้ ... พวกเธอคือฆาตกร นี่คือห่วงโซ่แห่งการชดใช้ความผิดบาป ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม

ได้ลิสต์หนังสือในมือแล้ว ไปตำกันได้ที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26 ผ่านเว็บไซต์ Thaibookfair.com และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจ Thai Book Fair