ห้ามถามเพื่อนว่าทำไมไม่มาเรียน กฎของโรงเรียนที่เกิดขึ้นเพราะการระบาดของ COVID-19
ไม่ว่าโรงเรียนไหนก็จะมีการกำหนดกฎระเบียบให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง ปฏิบัติตามเสมอ เพื่อให้การเรียนการสอน และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียนเป็นไปด้วยความราบรื่นและสงบเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้โรงเรียนประถมบางแห่งในประเทศญี่ปุ่นต้องออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายในโรงเรียน ซึ่งกฎระเบียบบางอย่างก็ค่อนข้าง “แปลก” อยู่พอสมควร จึงกลายประเด็นที่เหล่าผู้ครองของเด็กๆ กำลังให้ความสนใจอย่างมาก
ห้ามถามเพื่อนว่าทำไมไม่มาเรียน
มันคงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เด็กๆ จะถามเพื่อนที่ขาดเรียนว่า “ทำไมไม่มาเรียนล่ะ” แต่เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงทำให้โรงเรียนบางแห่งต้องออกกฎว่า “ห้ามถามเพื่อนว่าทำไมไม่มาเรียน” และ “ห้ามผู้ปกครองท่านอื่นๆ ไปเสาะแสวงหาเหตุผลที่เด็กคนนั้นหยุดเรียน” ด้วย
S ซัง ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่งเล่าว่า ที่โรงเรียนของลูกชายก็มีกฎในลักษณะนี้เช่นกัน ก็คงเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 นั่นแหละ แต่รู้สึกว่าทางโรงเรียนจะเข้มงวดกับกฎนี้มาก ได้ยินว่ามีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งถูกคุณครูตำหนิอย่างรุนแรงเพียงเพราะเผลอไปถามเพื่อนว่า “ทำไมถึงหยุดเรียน” แต่โดยส่วนตัวคิดว่า ด้วยความเป็นเด็กก็คงอยากรู้เฉยๆ แหละว่าทำไมเพื่อนถึงหยุดเรียน คงไม่ได้คิดถึงขนาดว่าเพื่อนจะติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรอก หรือก็คือเค้าก็ถามไปตามธรรมชาติของความเป็นเด็กแค่นั้นเอง
ปัจจุบันไม่ว่าใครก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยกันทั้งนั้น ฉันจึงอยากให้สังคมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปิดบังกัน ถ้าเกิดมีเพื่อนคนไหนติดเชื้อขึ้นมาและรักษาหายแล้ว ก็อยากให้เด็กๆ คิดว่า “หายแล้วเหรอ ดีจังเลยนะ งั้นเรากลับมาเล่นด้วยกันเหมือนเดิมนะ” แต่การที่จะให้เด็กๆ และผู้ปกครองท่านอื่นๆ คิดเช่นนั้นมันคงเป็นเรื่องยากพอสมควร
ห้ามสนทนากันในระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ในช่วงพักกลางวัน เด็กๆในโรงเรียนประถมจะจัดโต๊ะรวมกลุ่มเพื่อพูดคุยและนั่งรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันตามประสาเด็กๆ แต่เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงทำให้บางโรงเรียนต้องออกกฎว่าห้ามจัดโต๊ะรวมกลุ่ม และห้ามสนทนากันในระหว่างรับประทานอาหาร และบางโรงเรียนถึงขั้นบังคับว่าต้องทานให้เสร็จภายใน 20 นาที อีกด้วย
F ซัง ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทางโรงเรียนก็ออกกฎว่า ในเวลารับประทานอาหารกลางวัน ห้ามจัดโต๊ะรวมกลุ่มสนทนากัน โดยนักเรียนทุกคนต้องหันหน้าไปทางกระดานดำ และต้องมีการเว้นระยะห่างของที่นั่งแต่ละคนด้วย จึงทำให้บรรยากาศในการรับประทานอาหารกลางวันจากเดิมที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นกลับกลายเป็นดูเงียบเหงา คงได้ยินเพียงแค่เสียงเคี้ยวอาหารกับเสียงดื่มน้ำเท่านั้น ซึ่งลูกสาวของเธอก็บอกว่าอยากให้บรรยากาศแบบเดิมกลับมาโดยเร็ว
ห้ามพกขนมไปทานในวันทัศนศึกษา
เดิมทีโรงเรียนประถมบางแห่งของญี่ปุ่นก็มีกฎห้ามนำขนมไปทานในวันทัศนศึกษาอยู่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนทิ้งขยะเรี่ยราด แต่เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงทำให้มีจำนวนโรงเรียนที่ออกกฎเช่นว่านี้เพิ่มมากขึ้น
Y ซัง ผู้ปกครองท่านหนึ่งกล่าวว่า ในปีนี้ทางโรงเรียนได้กลับมาจัดให้มีการทัศนศึกษาอีกครั้ง หลังจากที่จำเป็นต้องยกเลิกไปในปีก่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ก็ได้มีการกำหนดว่า “ห้ามพกขนมไปทานในวันทัศนศึกษา” เพราะไม่ต้องการให้เด็กๆ ถอดหน้ากากโดยไม่จำเป็น โดยจะอนุญาตให้ถอดหน้ากากเฉพาะเวลารับประทานอาหารกลางวันเท่านั้น ซึ่งเธอก็ยอมรับกฎดังกล่าวได้เพราะเข้าใจว่าเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 ของทางโรงเรียน แต่การห้ามพกขนมไปทาน มันจะกลายเป็นการทัศนศึกษาที่ไร้สีสันสำหรับเด็กๆ หรือเปล่านะ ?
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับบทความที่ผมนำมาเสนอในวันนี้ โดยส่วนตัวผมมองว่ากฎระเบียบต่างๆ ที่ทางโรงเรียนได้กำหนดขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโรงเรียน และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ติดเชื้อไวรัส COVID-19 นั่นเอง เพียงแต่ว่ากฎระเบียบใดที่หากนำมาใช้จริงแล้วมันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ หรือเป็นการตัดโอกาสในการเรียนรู้หรือพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็กจนมากเกินควร ทางโรงเรียนก็ควรรับไปพิจารณาเพื่อปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเหล่านั้นให้เหมาะสมต่อไป