ข้อดี-ข้อเสีย หากคิดจะเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน
หลายคนมีนิยามของคำว่า “เพื่อน” กับ “เพื่อนร่วมงาน” ชัดเจน และรู้ดีว่าคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี ไม่ได้แปลว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีได้ เพราะหลาย ๆ คนรู้สึกไม่ชอบหน้าหรือไม่พอใจกับนิสัยของเพื่อนร่วมงานของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับในความสามารถของพวกเขา ในเมื่อพวกเขาทำงานเก่งจริง ๆ
แต่…เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทุกคน หลาย ๆ คนก็น่าที่จะสานสัมพันธ์ต่อเพื่อมาเป็นเพื่อนซี้กันจริง ๆ ด้วยเห็นว่าทั้งทำงานเข้ากันดี มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด ปรึกษาได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ส่วนตัวคุณเองก็เห็นว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเพื่อนร่วมงานก็อาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจในงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันและการมีส่วนร่วมในการทำงาน ความสัมพันธ์ที่ดีมีส่วนสำคัญต่อการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร
อย่างไรก็ดี มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่พยายามจะกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในการทำงานกับความสัมพันธ์ของการใช้ชีวิตนอกที่ทำงาน พวกเขาชี้แจงว่าเราควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานมากเกินไป เพราะมันอาจมีผลต่อการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตปกตินอกที่ทำงานก็เป็นได้ แต่มันก็อาจจะไม่เป็นเช่นนี้ก็ได้ หากคุณกำลังคิดที่จะสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานให้มาเป็นเพื่อน ลองพิจารณาข้อดี-ข้อเสียต่าง ๆ ดูก่อนก็ได้ว่าถ้าคุณสานสัมพันธ์เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเป็นเพื่อนจริง ๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง
ข้อดีของการเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน
หากคุณคิดจะสานสัมพันธ์กับคนในทีมเดียวกันเพื่อเป็นเพื่อน นี่คือข้อดีบางประการของการเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน
สร้างความเชื่อมั่น
การเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน จะนำไปสู่ความรู้สึกไว้วางใจในการทำงานมากขึ้น เพราะถ้าคุณหาโอกาสในการทำความรู้จักเพื่อนร่วมงานแบบที่อยากจะเป็นเพื่อนกับเขาจริง ๆ คุณจะเข้าใจบุคลิก แรงจูงใจ และมุมมองการใช้ชีวิตของเพื่อนร่วมงาน เมื่อคุณรู้จักตัวตนของเขา คุณจะพบว่าคุณมั่นใจในตัวพวกเขาและผลงานของพวกเขาได้ง่ายขึ้น และรู้สึกว่าจะทำงานกับพวกเขาได้อย่างสบายใจขึ้นด้วย
เพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน
การมีเพื่อนในที่ทำงานอาจช่วยให้คุณรู้สึกดีและกระปรี้กระเปร่าได้ตลอดทั้งวัน ยิ่งถ้าหากผลงานขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในฐานะที่ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของทีม รู้สึกรับผิดชอบต่อผู้อื่นในทีม เมื่อทุกคนช่วยกันทำงานอย่างเชื่อใจได้ คุณจะรู้สึกว่าการทำงานนี้ง่ายและสนุกสนานมากกว่าที่เคย จึงช่วยกระตุ้นให้คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น แน่นอนว่ามันก็ส่งผลต่อประสิทธิผลในการทำงานด้วยนั่นเอง
สร้างการมีส่วนร่วม
การขาดการมีส่วนร่วม ทำให้แต่ละคนรู้สึกว่าใจตนเองห่างจากคนอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันไม่รู้สึกถึงความผูกพันที่ต้องทำงานด้วยกัน แต่การสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงาน อาจกระตุ้นให้คุณรู้สึกดีขึ้นตลอดทั้งวัน ให้ความรู้สึกมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งในที่ทำงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานด้วยเช่นกัน คุณจะทำงานอย่างตั้งใจ ด้วยจนพึงพอใจในงาน
สร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกัน
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการทำงานร่วมกันนี้มีค่ามาก เพราะเมื่อทีมสามารถทำงานร่วมกันได้สำเร็จ มันจะทำให้พวกเขารู้สึกว่างานที่ได้นั้นโดดเด่นและบรรลุเป้าหมายสูงสุดขององค์กรได้ การเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงานเพื่อให้ได้บรรยากาศนี้มา ทำให้มีโอกาสในการทำงานร่วมกันได้มากขึ้น รวมถึงอาจมีผลให้ใช้กำลังน้อยลงตามไปด้วย ในฐานะเพื่อน พวกคุณจะรู้สึกสบายใจที่ได้แบ่งปันความคิดเห็น นำเสนอข้อมูล และการทำงานร่วมกัน
การสื่อสาร
เป็นเรื่องปกติที่ความสำเร็จขององค์กรจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของพนักงาน (ทั้งระหว่างกันเองและลูกค้า) การส่งเสริมมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานจึงสามารถเปิดโอกาสให้คุณได้พัฒนาทักษะการสื่อสาร และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล เพราะเมื่อคุณเข้าใจในตัวเพื่อนร่วมงานและวิธีการต่าง ๆ ของพวกเขาอย่างแท้จริง คุณก็สามารถถ่ายทอดข้อความต่าง ๆ ในการสนทนาระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น
คอยสนับสนุนกันและกัน
จากการทำงานแบบเก่าที่คุณรู้สึกว่าไม่สนิทกับใครเลยในที่ทำงาน อาจทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่อยากทำงาน หรือไม่อยากที่จะมาทำงาน แต่การมีเพื่อนก็เหมือนกับคุณมีที่พึ่งพิงทางใจ มีคนที่พร้อมจะสนับสนุนคุณให้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงที่คุณประสบกับความเครียด หรือเมื่อต้องการความช่วยเหลือ หรือเมื่อประสบปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับงาน เพื่อนร่วมงานที่เป็นเพื่อนด้วยอาจเต็มใจให้ความช่วยเหลือคุณและเป็นที่พึ่งพิงทางใจที่ดี
บรรเทาความเครียด
การมีเพื่อนในที่ทำงานหรือมีเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนม คุณสามารถพึ่งพาพวกเขาให้ช่วยบรรเทาความเครียดที่คุณกำลังแบกรับอยู่ได้ อาจจะเป็นเพียงการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ หรือเป็นพวกเดียวกับคุณให้คุณรู้สึกอุ่นใจ เป็นที่ระบายความทุกข์อกทุกข์ใจเมื่อมีปัญหา ปลอบประโลม แม้กระทั่งเป็นแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาที่กำลังเผชิญ การทำหน้าที่เพื่อนของพวกเขาจะช่วยคลายความเครียดและความกังวลของคุณได้มากทีเดียว
คุณภาพงานสูงขึ้น
การที่คุณจะเป็นมิตรกับใครนั้น มันมักจะมาพร้อมกับความเชื่อใจและไว้วางใจกันและกัน การสื่อสารที่ดี และการทำงานที่เข้าขากันมากขึ้น นำมาซึ่งศักยภาพการทำงานที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อคุณทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมของทีมที่ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด ต่างคนต่างรับผิดชอบงานของตัวเองเต็มที่และทำได้ดีมาก ความผิดพลาดน้อยลง ประสานงานกันได้ไหลลื่น ต่างก็อุดช่องโหว่กันและกัน งานก็ย่อมออกมาดี
ความพึงพอใจในการทำงาน
ปัจจัยที่ทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับงานมีหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องของค่าตอบแทน เนื้องาน หรือความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกับทีม ปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงานก็ส่งผลต่อความรู้สึกที่พึงพอใจในการทำงานได้เช่นกัน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและปราศจากความเครียด ไม่ต้องมาทำสงครามประสาทใส่กันทุกวัน การทำงานเป็นไปในด้านบวก คุณอาจรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
ข้อเสียของการเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน
จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น สภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือความชอบส่วนบุคคล เมื่อคุณสร้างมิตรภาพกับเพื่อนร่วมงาน คุณอาจต้องเผชิญกับข้อเสียบางอย่างด้วยเช่นกัน
การแข่งขัน
ความจริงแล้ว เพื่อนร่วมงานและการแข่งขันต่างหากที่เป็นของคู่กัน นี่คือสาเหตุที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่กินเส้นกับเพื่อนร่วมงานเท่าไรนัก เพราะการทำงานมีเรื่องของการเลื่อนตำแหน่ง ค่าตอบแทนตามความสามารถ ในบางกรณีอาจเกิดขึ้นได้ที่สภาพแวดล้อมในการทำงานทำให้คุณกับเพื่อนต้องมาแข่งขันกันเสียเอง อาจทำให้คุณรู้สึกแย่ กดดัน วิตกกังวล และรู้สึกผิดหากต้องแข่งขันกับเพื่อนในทีมขึ้นมาจริง ๆ ถ้าต้องแข่งแบบนี้ แข่งกับศัตรูสบายใจกว่า
มีสิ่งรบกวนสมาธิ
เป็นธรรมดาของคนที่เป็นเพื่อนกัน ที่มักจะมีการสนทนา การล้อเล่น การหยอกล้อ หรือการระบายอารมณ์ระหว่างกันและกัน ที่อาจขัดจังหวะขั้นตอนการทำงาน ยิ่งสนิทกันมากเท่าไรเรื่องแบบนี้ก็เกิดได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ลองนึกถึงเวลาที่เราไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงดูสิ แล้วนี่อยู่ในที่ทำงานเดียวกันด้วย มันคงจะโหวกเหวกโวยวายน่าดู ทำให้ไม่มีสมาธิ ลดประสิทธิภาพในการทำงาน ลดประสิทธิผล ลดคุณภาพงานลงได้ ต้องแบ่งเวลาทำงานออกให้ชัดเจน
ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์น้อยลง
เป็นอีกเรื่องปกติของเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ที่บางทีก็มักจะเห็นคล้อยตามกันไปเสียทุกเรื่อง อีกทั้งมันยังเป็นเรื่องยากที่วิจารณ์งานของกันและกันโดยปราศจากอคติ คุณอาจได้รับคำติชมที่สร้างสรรค์น้อยลง เพราะพวกเขาอาจไม่กล้าพูดเพราะกลัวกระทบความสัมพันธ์ หรืออาจมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปด้วยความสนิทกัน คุณจึงต้องแยกและมีวิธีรับมือกับการรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ เพราะคำวิจารณ์ที่นำมาปรับปรุงหรือพัฒนาต่อได้มีสำคัญต่อการเติบโตทางอาชีพ
สมดุลชีวิต
เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรักษาสมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตนอกที่ทำงานให้ดี แบ่งเวลาทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว แต่การที่คุณมีเพื่อนที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนร่วมงานด้วยนั้น บางทีคุณอาจนัดเจอกันกับพวกเขาช่วงสุดสัปดาห์เพื่อเที่ยวเล่นใช้ชีวิตในวันหยุด แต่ก็ดันหลุดพูดคุยเรื่องในที่ทำงานในบางประเด็น จนเหมือนว่าไม่ว่าที่ไหนคุณก็ต้องทำงาน ดังนั้น คุณต้องสร้างขอบเขตไม่ให้เรื่องงานเข้ามายุ่งกับช่วงเวลาส่วนตัวให้ได้
ความเป็นส่วนตัว
สิ่งที่แยกนิยามระหว่างเพื่อนและเพื่อนร่วมงานออกจากกัน คือการที่เรามักจะมีพื้นที่ส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงานมากกว่าเพื่อน ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้วคือรู้จักนิสัยส่วนตัวกันดีหมด แต่ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน คุณอาจต้องพิจารณาที่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดส่วนบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์ที่ไม่สะดวกใจ ยิ่งถ้าหากมีการติดตามกันบนโซเชียลมีเดีย จะทำให้คุณทั้งคู่เข้าถึงรายละเอียดส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตของกันและกันที่ซ่อนไว้ก่อนหน้านี้ได้มากขึ้น
ความเป็นมืออาชีพ
ยิ่งสนิทกัน ความเกรงใจกันจะยิ่งลดลง (ทั้งที่ควรจะต้องแคร์กันให้มาก) จึงอาจทำให้มีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมืออาชีพเกิดขึ้นได้ ฉะนั้น ในระหว่างทำงาน คุณควรต้องแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวให้เด็ดขาด เพื่อนร่วมงานจำเป็นต้องรักษาความเป็นมืออาชีพเอาไว้ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายและลูกค้า ต้องปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ เพื่อความน่าเชื่อถือ มันจึงเป็นเรื่องที่ยากหากต้องเลือก