ดื่มน้ำมากไประวังภาวะน้ำเป็นพิษ
ก่อนอื่นไม่ต้องตกใจอาการน้ำเป็นพิษนั้นจะเกิดขึ้นตอนคุณดื่มน้ำจำนวน 3-4 ลิตรภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งโดยปกติเราคงไม่ทำแบบนั้นกันอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามควรรู้จักภาวะนี้ไว้ เพราะมันส่งผลร้ายแรงจนอาจจะทำให้เสียชีวิตได้เลย
ภาวะน้ำเป็นพิษ คืออะไร?
ภาวะน้ำเป็นพิษ (Water intoxication หรือ Water poisoning) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากที่เราดื่มน้ำมากเกินไป จนส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย เช่น สมองหยุดทำงาน น้ำในเลือดมาก จนมันไปเจือจางอิเล็กโทรไลต์ในเลือด เช่น โซเดียม ที่ปกติแล้วค่อยทำหน้าที่ปรับสมดุลกับของเหลวระหว่างภายในและนอกเซลล์ เพราะถูกเจือจางทำให้เกิดการบวม จนเป็นอันตรายต่อสมอง
ภาวะน้ำเป็นพิษเกิดขึ้นตอนไหน?
โดยอาการภาวะน้ำเป็นพิษมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่เราดื่มน้ำมากกว่า 3-4 ลิตรในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือดื่มมากเกินไปคือ วันละ 6-7 ลิตรและมักมีสัญญาณเตือนออกมา เช่น
- มีอาการปวดศีรษะ
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- ตะคริว ชัก
- ง่วงนอน มีอาการอ่อนเพลีย
- ชักหรือหมดสติ
รวมถึงในบางกลุ่มอาจจะมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะน้ำเป็นพิษ เช่น คนที่ใช้ยากระตุ้นต่างๆ แล้วต้องเต้นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง, ผู้ที่เคยใช้ยาเสพติด รวมถึงแอลกอฮอล์และพยายามที่จะกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกด้วยการดื่มน้ำมากๆ หรือ คนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยการดื่มน้ำในปริมาณมาก ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
การป้องกันภาวะนี้เพียงแค่ดื่มน้ำตามปกติ ดื่มน้ำเปล่าที่สะอาด ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เฉลี่ย 1.5-2 ลิตร/คน/วัน อาจจะมีเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัว แต่ยังไงก็ค่อยๆ จิบอย่าดื่มรวดเดียว
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ iNN Lifestyle