“คนดังยุคใหม่” แค่สร้างชื่อเสีย ก็เป็นบุคคลสาธารณะได้แล้วเหรอ?
“เน็ตไอดอล” กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ชาวโซเชียลต่างให้ความสนใจ และกลายเป็นประเด็นดราม่าเกิดขึ้นในสังคมบ้านเราอย่างมาก ขอยกประเด็นร้อนในโซเชียล ถึงข่าวที่สังคมกำลังพูดถึงอย่างหนักหน่วง สำหรับกรณี “อดีตพระ” ที่ยอมรับแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ “สีกา” เป็นเหตุให้ลาสิกขาจากความเป็นพระ ซึ่งประเด็นดังที่โดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ เสียงแตกเป็นสองฝั่ง มีทั้งส่วนที่รุมด่า ตำหนิการกระทำที่ทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสีย แต่ก็มีอีกส่วนที่สนับสนุน มีแฟนคลับขอถ่ายรูปประหนึ่งเป็นไอดอลชื่อดัง
ต้องบอกว่าเมื่อยุคสังคมเปลี่ยนไป คนเข้าถึงสื่อได้ง่ายขึ้นทุกคนมีพื้นที่สามารถสร้างคอนเทนต์ของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือติ๊กต็อก เปรียบเหมือนเป็นเวทีแสดงและมีคนดูนับล้านคนในระยะเวลาอันสั้น
แต่เพิ่งรู้ว่าทุกวันนี้ แค่ขย่มกันในรถ แถวเขื่อนก็เป็น public figure ได้แล้วเหรอ??? สังคมเป็นอะไรกันไปหมดวะ งง ยกยอสิ่งผิด ๆ แล้วเด็กยุคใหม่ ๆ จะคิดไงวะ อ่อ กูทำผิดก็ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวฟลุกดังมีงาน เหรอวะ What a corrupt and broken society we live in…”
กล่าวคือผู้คนส่วนมากในสังคมปัจจุบันมักเสพข้อมูลข่าวสารจากสมาร์ตโฟน หลายครั้งที่เรามักพบว่าประเด็นใหม่ ๆ หรือกระแสความนิยมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ล้วนถูกจุดประกายโดยสังคมในโลกออนไลน์ ทำให้ข้อมูลที่ผ่านสื่อเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมของคนในสังคมตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
บุคคลที่ถูกเรียกว่า “เน็ตไอดอล” นั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในยุค 4.0 ในสังคมปัจจุบันที่แค่เรามีมือถือ อัดคลิปนิดหน่อย แล้วโพสต์อวดลงช่องทางส่วนตัว หรือแม้แต่มีข่าวเสียในปัจจุบัน ถ้าคลิปคุณข่าวคุณโดนใจชาวเน็ตเป็นกระแสบอกต่อ แชร์ต่อ กลายเป็นบุคคลโด่งดังขึ้นมาชั่วข้ามคืนได้แบบนี้เหรอ?
ย้อนไปตั้งแต่แรกเริ่มของยุคแรก ๆ ที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเราการที่ใครจะเป็น “เน็ตไอดอล” หรือกลายมาเป็นดารามีชื่อเสียงต้องผ่านการฝึกซ้อม ผ่านความทุ่มเท ผ่านการสร้างภาพลักษณ์ในสิ่งที่ดี ๆ ในเรื่องที่ตัวเองถนัดจนเกิดความเชี่ยวชาญและต้องผ่านเวทีประกวด หรือผ่านเว็บดัง ๆ เป็นเหมือนช่องทางแจ้งเกิดให้กับเน็ตไอดอลหลาย ๆ คน
กระแสนิยมที่ผิดเพี้ยนสร้างความแตกแยกของสังคม
ช่วงหลัง ๆ มานี้มีข่าวมากมายที่เกิดขึ้นในสังคมโซเชียล ที่เกิดเป็นกระแสโต้เถียงกันเรื่องของความถูก-ผิด เลยทำให้ต้องมานั่งคิดวิเคราะห์กันเลยว่า เรื่องไหนคือความถูกต้อง และเรื่องไหนคือการกระทำผิดกันแน่ ทำไมสังคมถึงให้ค่าผู้กระทำผิดมากขนาดนี้ โลกของเราเปลี่ยนไปแล้วหรืออย่างไร ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่มีอยู่แล้วหรือในสังคมนี้ คนเดี๋ยวนี้อยู่ดี ๆ ก็งงว่าอะไรถูก อะไรผิด เหมือนอยู่ ๆ เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องยาก ซึ่งมันน่าตกใจที่คนเรามาถึงขั้นแยกแยะถูก-ผิดไม่ออกกันแล้ว ทั้งที่มันไม่ได้ยากอะไรเลย เราแค่ต้องไม่สับสน ไม่อคติ และไม่ตีมึนกับเรื่องแบบนี้
- ถ้ามันถูกมันก็ต้องถูก ความถูกต้องมันก็คือความจริง ต่อให้ผ่านไปกี่ปีก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความถูกต้องที่มันเกิดขึ้นได้ และเรื่องอะไรที่มันถูกต้องก็ไม่มีตัวแปรอะไรมาทำให้มันเปลี่ยนจากความถูกต้องกลายเป็นความผิดได้ เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว แต่ที่สังคมมันบิดเบี้ยวอย่างทุกวันนี้ก็เพราะคนบางคนพยายามทำเรื่องที่ผิดให้กลายเป็นถูก มองความผิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา และยอมรับได้
- ถ้าผิดมันก็คือผิด เรื่องผิด ๆ เป็นอะไรที่แยกแยะได้ง่ายมาก คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำลงไป ผิดหรือไม่ แต่ที่มันเป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเราไม่ค่อยยอมรับความจริงกันสักเท่าไร หรือแค่หงายการ์ดตัวช่วย “ทำผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการ” จริง ๆ อะไรก็ตามที่ผิด คือไม่ปกติ คือเรื่องที่ไม่ควรจะมีใครทำ และไม่ควรทำตาม ถ้าเราแยกออกว่าอะไรคือถูก-ผิด เราจะไม่มองว่าความผิดคือเรื่องปกติ อย่าเอาความสบายของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่มองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือทำให้เกิดข้อโต้แย้งในสังคม
คำว่า “แต่” ต้องไม่ใช้กับคำว่า “ผิด”
ตอนนี้เส้นแบ่งถูก-ผิด อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเส้นบาง ๆ ที่เบลอ ๆ จนแทบแยกไม่ออก และอยู่ดี ๆ ทุกคนในสังคมก็เหมือนจะงงว่าอะไรถูก อะไรผิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ความถูก-ผิดมันชัดเจนมาก มันไม่ได้ยากเลยที่จะมองเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างไม่เหมาะ ไม่ควร เราต้องไม่สับสนว่าเรื่องนี้ผิดหรือถูก ไม่เอาอารมณ์ไปครอบงำ ไม่เอาอคติไปตัดสิน เพราะทุกอย่างมันชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว ไม่มี “แต่” และไม่มีตรงกลางระหว่างความถูก-ผิด ความผิดเพี้ยนนี้คงไม่เกิดขึ้นในสังคมเรา
“เน็ตไอดอลยุคใหม่” อะไรคือสิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ
อย่างที่เรารู้ดีว่าการเป็นบุคคลสาธารณะ หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคมได้นั้น ต้องสร้างคุณภาพให้ตัวเองซึ่งเปรียบเหมือนเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่ทำให้เราก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ผ่านการซ้อมจนเกิดความเชี่ยวชาญ ได้รับเลือกจากเวทีการประกวดและรักษามาตรฐานอันดี จึงทำให้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างคุณภาพได้
หากมองย้อนกลับไปเมื่อในอดีต “ดาราทำผิด” มักได้รับบทลงโทษทางสังคม ถูกแบนจนทำให้ไม่มีงานแสดง กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียหมดอนาคตในสายงานนี้ไปเลยเสียด้วยซ้ำ แต่ในปัจจุบันมันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะทุกคนสามารถเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงได้ กลายเป็นบุคคลสามารณะได้ไม่ยาก ไม่ต้องสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ไม่ต้องผ่านการซ้อมด้วยความทุ่มเท เพียงแค่ทำเรื่องอะไรก็ได้ เป็นเรื่องที่สังคมสนใจ ถูกใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แค่สังคมให้ความสนใจก็สามารถมีชื่อเสียงได้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียงในสังคม คุณอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในรูปแบบไหน
เชื่อว่าการเป็นเน็ตไอดอลที่มีคุณภาพเป็นสิ่งที่มีค่าและติดตัวคุณไปตลอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็มีคนพูดถึงคุณแต่สิ่งดี ๆ เสมอ หากดังในทางที่ผิด โด่งดังจากกระแสสังคมเพียงชั่วข้ามคืน ก็อาจเป็นเพียงกระแสที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ไม่นานเมื่อมีกระแสนิยมใหม่ ก็อาจโดนสังคมลืมในที่สุดเช่นกัน