ทำไมเราไม่ควรกินฉี่ ไม่ว่าจะของตัวเองหรือของคนอื่น?
จากข่าวบุกทลายลัทธิประหลาดของ ‘พระบิดา’ ทำเอาหลายคนในช่วงนี้เว้นจากหน้าจอข่าวไปสักพักด้วยความเชื่อสุดพิสดารกับการกิน ฉี่ ขี้ไคล ของเจ้าสำนัก รวมไปถึงพอกตัวอึและน้ำเหลืองมาเพื่อหวังรักษาโรค ส่งผลให้ต้องออกมาเตือนกันอีกแล้วว่า เหตุใดเราถึงไม่ควรกินฉี่ กินอึตัวเอง
ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่พบลัทธิประหลาด สังคมก็พบข้ออ้างการกินฉี่ว่าเป็นยาอายุวัฒนะบำบัดโรคมานานแล้วตามความเชื่อในสายการแพทย์ทางเลือก และในสายของผู้ปฏิบัติธรรมบางกลุ่ม อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์สุขภาพ คุณหมอ คุณพยาบาล ก็ออกมาแสดงข้อเท็จจริงว่าฉี่รักษาโรคไม่ได้ แถมยังตามมาด้วยผลกระทบมากมาย ดังนี้
ผลกระทบจากการกินฉี่
- ฉี่ที่เราขับถ่ายออกมาเป็นของเสียแม้มีแร่ธาตุ แต่ก็มีน้อยกว่าข้าวหนึ่งคำ
- ในฉี่มีสิ่งปนเปื้อนทั้งเชื้อโรค พยาธิ แบคทีเรีย และเลือด ที่อาจติดเชื้อได้หากกินซ้ำเข้าไป
- ฉี่เป็นกรดอ่อนหากดื่มในขณะท้องว่าง อาจทำร้ายเยื่อบุผนังลำคอ หลอดอาหาร และกระเพาะ
- เพิ่มความเสี่ยงสะสมของยาในร่างกาย ทั้งๆที่ควรขับออกไป
- หากดื่มฉี่ที่เก็บไว้นาน ยิ่งเสี่ยงต่อเชื้อโรคที่มีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นแล้วความเชื่อเรื่องการกินฉี่เพื่อรักษาโรคอาจไม่มีประโยชน์มากพอที่จะบำรุงร่างกาย ซ้ำร้ายฉี่ที่คิดว่าเป็นยาก็อาจกลายเป็นยาพิษที่วกมาเข้าตัว ทั้งๆที่ร่างกายอุตส่าห์ขับออกไปแล้ว รวมถึงในยุคปี 2022 ที่โลกเข้าใกล้วิทยาการล้ำหน้าขึ้น ยาที่เภสัชคิดค้นขึ้นคงมีประโยชน์พร้อมกลืนง่ายมากกว่ายาที่เราผลิตเองด้วยซ้ำไป