ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง ให้น้อง ๆ ช่วยเยียวยาสุขภาพจิต
หากพูดถึงความสัมพันธ์ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบครอบครัว เช่น พ่อแม่ลูก ญาติพี่น้อง ความสัมพันธ์แบบคนรัก ซึ่งก็คือคู่รักที่คบหาเป็นแฟนกัน ความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่มีมิตรภาพและความปรารถนาดีมอบให้กัน หรือแม้แต่ความสัมพันธ์แบบศัตรูคู่อาฆาต อย่าให้ได้เจอหน้ากันไม่งั้นเป็นเรื่อง ก็ถือเป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งของมนุษย์เราเช่นกัน
แต่มีความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งที่อาจถูกมองข้ามไป เนื่องจากเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ที่เราล้วนต้องสร้างและสานสัมพันธ์กันผ่านการเข้าสังคม นั่นก็คือ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับ “สัตว์เลี้ยง” ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ซึ่งก็เป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงจึงมักไม่ค่อยถูกนึกถึงเท่าไรนักเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ ว่านี่ก็เป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบหนึ่งเหมือนกัน
เพราะน้อง ๆ สัตว์เลี้ยง มีคุณค่าทางจิตใจ
คนรักสัตว์เลี้ยงจะรู้ดีว่าสัตว์เลี้ยงมีคุณค่าต่อใจมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สัตว์เลี้ยงที่เรารักก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเกิดภาวะวิกฤติทางอารมณ์ พวกมันจะทำให้เราผ่อนคลายและสบายใจขึ้น แม้ว่าในเวลาปกติ สัตว์เลี้ยงหลาย ๆ ตัวอาจจะดูเย่อหยิ่ง ถือตัว กวนประสาทไปบ้าง ชอบทำหูตึงเรียกไม่หัน (ถ้าไม่หิว) แต่เชื่อไหมว่าส่วนใหญ่แล้วสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะมีสัญชาตญาณพิเศษ พวกมันรับรู้อารมณ์ของเจ้าของได้ว่าเรากำลังเศร้า กำลังรู้สึกแย่ ยิ่งถ้าเห็นเราร้องไห้ด้วยแล้วล่ะก็ พวกมันจะเดินเข้ามาหา ราวกับอยากถามว่า “มนุษย์ ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า”
คนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะเข้าใจปรากฏการณ์นี้ดีทีเดียว โดยเฉพาะคนที่เลี้ยงแมว แมวบางตัวไม่ได้มีนิสัยติดคนหรือขี้อ้อน ในยามปกติ พวกมันก็อาจจะใช้ชีวิตปกติในแบบของมันไป แต่ในวันที่เราแย่มากพอ มันจะแสนรู้พอที่จะรับรู้อาการของเราได้ว่าเราไม่โอเค เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว สัตว์เลี้ยงที่เคยเย่อหยิ่งเดินหน้าเชิด เห็นเราเป็นทาส เดินผ่านแทบไม่ไยดี ก็จะเปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนจะน่ารัก เดินเข้ามาหา มาคลอเคลียอยู่เป็นเพื่อน บ้างก็ออดอ้อนออเซาะในแบบที่แทบจะไม่เคยเห็นทำมาก่อน ทำให้เราคลายความทุกข์ใจลงได้บ้าง แล้วแบบนี้จะไม่รักพวกมันได้อย่างไร
ไม่นานมานี้ ปรากฏมีมหนึ่งในโซเชียลมีเดีย เป็นภาพการ์ตูน 4 ช่องที่วาดขึ้นง่าย ๆ ช่องแรกเป็นภาพคนที่ถูกวาดแบบก้างปลา ช่องที่สองมีการเติมเส้นสีฟ้าสองเส้นออกมาจากหน้าคนในตำแหน่งของดวงตา ช่องที่สามปรากฏภาพคนนั่งอยู่ที่เดิมแต่มีแมวโผล่เข้ามาในกรอบอีกหนึ่งตัว และช่องสุดท้าย เป็นภาพแมวตัวนั้นขึ้นมานอนซบอยู่บนอกคน เหมือนกับกำลังกอดปลอบใจคน มีแคปชันประกอบภาพการ์ตูน 4 ช่องนี้ว่า “มีคนบอกว่าหมูกระทะจะเยียวยาทุกสิ่ง แต่จริง ๆ คือ หมูลายเสือหูสามเหลี่ยมต่างหาก”
แม้ว่าสัตว์เลี้ยงจะปลอบใจเราด้วยคำพูดไม่ได้ แต่การกระทำของพวกมันก็ทำให้จิตใจที่กำลังดิ่งต่ำของเราพองฟูขึ้นมาได้ แม้ว่าปกติพวกมันจะทำตัวเหมือนเราเป็นทาสที่ต้องคอยปรนนิบัติ ทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเปย์ เทข้าว เก็บอึ แต่ในสถานการณ์แบบนี้พวกมันก็ยังอยู่เคียงข้างเราไม่ห่าง บางตัวมาคลอเคลีย มานอนซบบนตัวเหมือนกับในภาพการ์ตูน บางตัวมานั่งจ้องหน้าอยู่ข้าง ๆ บางตัวยื่นหน้ามาเลียหรือยื่นเท้าหน้ามาซับน้ำตาให้ด้วยซ้ำไป ให้เราได้รู้ว่าช่วงเวลาที่แย่ที่สุด เราก็ยังมีสัตว์เลี้ยงอยู่เป็นเพื่อนตัวสุดท้าย เยียวยาหัวใจที่พังย่อยยับให้ค่อย ๆ ดีขึ้น
หรือบางที การที่เหล่าสัตว์เลี้ยงพูดไม่ได้ ก็อาจจะเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับคนที่กำลังมีความทุกข์หรือเศร้าใจ เพราะบางครั้ง เราก็ไม่ได้ต้องการคำแนะนำใด ๆ แค่ต้องการแค่ใครสักคนที่รับฟังเราอย่างเข้าใจ ไม่ตัดสิน ไม่อคติ หรือเผลอพูดอะไรที่ทิ่มแทงใจเราออกมา และในบางทีเราอาจจะไม่มีแรงแม้แต่จะขยับปากพูดด้วยซ้ำ ได้แต่นั่งร้องไห้เงียบ ๆ สัตว์เลี้ยงพวกนี้ก็ไม่ได้เร่งเร้าให้เราต้องพูดอะไร นั่งให้กำลังใจ มองหน้าเราอยู่เงียบ ๆ แต่อาจจะมีโต้ตอบด้วยเสียงโฮ่งบ้าง เมี้ยวบ้าง เป็นกรณีไป มันก็ดีเหมือนกัน หากวันใดที่รู้สึกไม่ดี ลองหันไปเล่นกับพวกมันดูนะ
การเลี้ยงสัตว์ ดีต่อใจคนเศร้าอย่างไร
ความรักที่เราได้จากสัตว์เลี้ยง คือสิ่งที่ดีต่อใจคนที่กำลังทุกข์ใจ เศร้าใจ มันเป็นรักแท้ที่ไม่มีเงื่อนไข และเราก็เป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกมันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สัตว์เลี้ยงก็จะอยู่ข้าง ๆ เราเสมอ จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอหน้าและได้ใช้เวลากับเรา ซึ่งสัตว์เลี้ยงเยียวยาคนที่กำลังเศร้าใจอยู่ โดยการ
- มอบมิตรภาพ หากเรารู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว สัตว์เลี้ยงจะไม่ทอดทิ้งเราให้เปล่าเปลี่ยวแน่นอน เพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เราจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และความรักแบบไร้เงื่อนไขที่พวกมันมอบให้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้
- ลดความเครียด ในชีวิตประจำวันล้วนเต็มไปด้วยเรื่องเครียดและกดดัน แต่การที่เรามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน เราอาจต้องเจียดเวลาเล็กน้อยเพื่อเล่นกับมัน ซึ่งในขณะเดียวกันเราก็จะได้หยุดพักกับเรื่องเครียดตรงหน้าด้วย การทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมกับสัตว์เลี้ยง นับเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกมีความสุข สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา เช่น เอ็นดอร์ฟิน โดพามีน เซโรโทนิน ออกซิโทซิน ทำให้ระดับความเครียดของเราลดลงด้วย
- เพราะมันน่ารัก! การมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าพวกมัน สัตว์เลี้ยงจึงมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือมีความเครียดเรื้อรัง เพราะการได้เห็นความน่ารักของสัตว์เลี้ยง การได้เล่นด้วยกัน ก็สามารถบรรเทาความทุกข์จากสิ่งที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน ลดทั้งความทุกข์และสร้างความสุขไปพร้อม ๆ กัน
- ความรู้สึกว่ามีบางอย่างต้องดูแล สัตว์เลี้ยงทุกชนิดต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่ดี ซึ่งอันที่จริงสัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องพึ่งพาเราทุกอย่าง เราก็เลยต้องมีเวลาให้กับพวกมันบ้าง ความรู้สึกที่ว่ามีสิ่งที่ต้องคอยดูแล จะช่วยสร้างความรับผิดชอบต่อชีวิตอื่นที่นอกเหนือจากตัวเอง เราไม่ได้ไร้ความสามารถ เพราะอย่างน้อยก็มีสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ที่พึ่งพาเราได้ ทั้งยังทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า มีความหมาย อยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะได้เป็นคนสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา จะมัวแต่นอนซึมติดเตียงไม่ได้ ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่อย่างนั้นพวกมันอาจอดข้าวได้
สัตว์เลี้ยงบำบัด มีอยู่จริง ไม่ได้มโนไปเอง
ที่เรารู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงมีพลังวิเศษในการเยียวยาจิตใจที่แตกสลายของมนุษย์นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เรามโนกันไปเอง เพราะสัตว์เลี้ยงมีพลังที่ว่านี่จริง ๆ โดยในต่างประเทศ จะมีการเลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัด หรือ Pets Therapy กันอย่างจริงจังมานานแล้ว โดยเฉพาะการใช้บำบัดอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และก็ถือเป็นการบำบัดที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับผลลัพธ์ในเชิงบวกด้วย มีผลการวิจัยรองรับว่าสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางด้านสุขภาพจิตและโรคจิตเวชต่าง ๆ หรือแม้แต่ปัญหากลุ่มอาการต่าง ๆ ในโรคจิตเภทก็ช่วยได้
สัตว์ที่นิยมนำมาใช้กันมากสำหรับบำบัดจิตใจให้แก่ผู้ป่วย ได้แก่ สุนัข แมว นก ม้า และโลมา อย่างไรก็ดี สัตว์เลี้ยงที่จะนำมาใช้ในโปรแกรมนี้จะต้องมีการคัดเลือกและผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ช่วยบรรเทาความเครียด สร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณ ปรับปรุงทางอารมณ์ ทำให้ผ่อนคลาย โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นวิธีที่ควบคู่ไปกับเทคนิคทางการแพทย์ในการรักษาโรคจิตเภท หรือภาวะซึมเศร้า เป็นระบบการบำบัดในสถานพยาบาล
ถึงแม้ว่าสัตว์เลี้ยงจะช่วยเยียวยาสุขภาพจิตของเจ้าของได้จริง แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน โดยจะต้องตระหนักว่าผู้ป่วยนั้นมีอาการป่วยอยู่ในระดับใด ช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้น สัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นภาระและความรับผิดชอบที่มากเกินไปสำหรับผู้ป่วย ซึ่งจะมีผลให้อาการป่วยเป็นหนักขึ้น รวมถึงอาจเกิดกรณีที่ปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงจนดูเหมือนการทรมานสัตว์เลยก็ได้ แบบนั้นได้ป่วยคู่ทั้งคนทั้งสัตว์แน่ ๆ
ฉะนั้น การจะเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคู่ใจก็ไม่ใช่ว่านึกอยากจะเลี้ยงก็เลี้ยง ต้องมีใจที่รัก เอ็นดู และเมตตาสัตว์ ศึกษาหาข้อมูลของสัตว์แต่ละชนิดให้ดี ก่อนนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ต้องประเมินแล้วว่ามีความพร้อมที่จะเลี้ยงได้ ต้องไม่ป่วยเกินไปที่จะดูแลพวกมัน ที่สำคัญคือต้องทำควบคู่ไปกับการกินยาและปรึกษาจิตแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งคนและสัตว์