ครูสาวระบาย โรงเรียนมัวแต่อบรม เอกสารหนัก จนทำให้ไม่อยากที่จะสอนนักเรียน

ครูสาวระบาย โรงเรียนมัวแต่อบรม เอกสารหนัก จนทำให้ไม่อยากที่จะสอนนักเรียน

ครูสาวระบาย โรงเรียนมัวแต่อบรม เอกสารหนัก จนทำให้ไม่อยากที่จะสอนนักเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่าเป็นปัญหาที่ติดอันดับต้นๆ ที่คุณครูหลายคนต้องได้เจอกันเลยก็ว่าได้ สำหรับปัญหา การประเมิน ปัญหาการทำเอกสาร จนทำให้คุณครูแทบจะไม่มีเวลาที่จะสอนหนังสือ รวมไปถึงดูดพลังงานความเป็นครูจนทำให้ไม่อยากสอนหนังสือเด็กๆ

เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์โดยคุณครูผู้ใช้งานเฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โดยคุณครูได้ โพสต์ภาพหนังสือออกจากราชการ พร้อมบรรยายความอัดอั้นในการดำรงตำแหน่งในการเป็นข้าราชการครู โดยคุณครูได้บรรยายว่า

cats

"คนเราบางทีก็มีความฝันแปลกๆ เช่นเรา เป็นคนนึงที่มีความฝันอยากจะลาออกจากราชการ ตั้งแต่ก่อนจะเข้าทำงาน ก่อนที่จะได้บรรจุ หลังจากบรรจุได้ 3 เดือน ฝันอย่างนึงในชีวิต เป็นจริงเเล้วนะคะ ได้ลาออกจากราชการแล้ว 555

บรรจุเข้าไปได้เริ่มทำงานช่วงแรกๆ ออกจากห้องประชุม 4 ทุ่ม หลายคืนมากๆ เพราะโรงเรียนจะมีการประเมิน เลยต้องเตรียมงาน งานหนักนะ หนักมากกกกก แต่ทำได้ ทำๆไปมันก็เพลินดี มีเพื่อน ครูที่โรงเรียนก็น่ารักกับเรามากๆ สอนงานเราหลายอย่าง ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ ได้มิตรภาพ แต่จนเย็นวันนึง หลังจากที่ประเมินโรงเรียนผ่านไป (เตรียมงานกันประมาณ 3 วีค) วันนั้นเราได้เลิกงานเร็ว เราออกไปที่ระเบียงห้อง เวลาประมาณ 4 โมงกว่าๆ 5 โมงเย็น ท้องฟ้าวันนั้นมันสวยมากๆ สวยมากที่สุดในชีวิตช่วงนั้นเลย เราจุดยากันยุงตั้งที่ปลายเท้า นั่งเอนหลังบนเก้าอี้มองท้องฟ้าเย็นวันนั้น เป็นวันที่อากาศดีมากๆ เรา appreciate life ณ โมเม้นต์นั้นมาก แล้วจู่ๆ มันก็มีคำถามที่พุ่งกระแทกสติเราเข้ามา ว่าทำไมกับอีแค่ท้องฟ้าตอนเย็นธรรมดาๆวันนึง มันถึงได้ดูเป็นสิ่งสวยงามในชีวิตเราขนาดนั้นในวันนั้น

จนมาคิดได้ว่าเพราะเราไม่ได้เห็นท้องฟ้าตอนเย็นมาเป็นเวลาเกือบๆ 1 เดือน ที่เราทำงานอยู่แต่ในห้องประชุม เห็นแต่เพดานขาวๆ มันนานจนเราลืมไปเลย ว่าท้องฟ้าตอนเย็นมันสวยขนาดไหน

หลังจากที่ยุ่งมาเป็นเดือน วันนั้นเป็นวันที่เรารู้สึกตัวในที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา เราเป็นคนที่งานอดิเรกเยอะมากๆ เราเล่นกีฬา เราเขียนนิยาย เราทำเล็บ เราวาดรูป เราชอบอ่านนิยาย เราชอบดูหนัง แต่การบรรจุทำงานแค่เดือนนึงตอนนั้น เอาความสุขของชีวิตเราไปหมดเลย ไม่เหลือเวลาให้เราได้หาความสุขให้ตัวเองเลย ทำงานหนัก มันไม่ได้ทุกข์ขนาดนั้นหรอกค่ะ มันไม่ได้ทำให้เราอยากตายหรืออะไรนะ แต่มันไม่ใช่ความสุขของเรา

ชีวิตคนเราสั้นมากนะ เราเผลอแค่แป๊บเดียว เราผ่านปี 2022 มาเกินครึ่งปีแล้วนะคะ เพราะฉะนั้น เราก็อยากจะใช้ชีวิตนี้ให้มีความสุขที่สุดเท่าที่เราจะมีได้งานที่ทำอยู่มันไม่โอเคเลย เป็นงานเอกสารที่ซ้ำซ้อน ไม่พัฒนาครู และยังช่วงชิงเวลาครูจากนักเรียนอีก

ยาที่ฮีลใจที่สุดตลอดการทำงานในโรงเรียนคืองานสอน แต่มีหลายครั้งมากๆ ที่เกือบจะร้องไห้เพราะเราไม่ได้สอน จนหลังๆเริ่มมีอาการดีใจที่ไม่ได้สอน เพราะเหนื่อยจากงานนอกสะสมจนไม่อยากจะไปสอนเด็ก แล้วต้องสารภาพเลย ว่าไม่เคยเตรียมสอน เพราะไม่มีเวลา เราอยากเป็นครูที่มีเวลาพัฒนาตนเองจริงๆ เพื่อที่จะไปพัฒนาการสอน พัฒนานักเรียน ไม่ใช่มาบังคับให้เราเข้าอบรมไปพร้อมๆ กับสอนเด็ก มันไม่มีมารยาท!"

  • อยากให้ลดการประเมินลงลดภาระงานเอกสารลง
  • ใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้นไม่ใช่เสียเวลาชีวิตไปกับการเขียนมือ
  • ทำโครงการคืนครูสู่ห้องเรียนด้วยค่ะ
  • พัฒนาคุณภาพคนไม่ใช่พัฒนาเอกสารและประเมิน

อีก 100 อย่างที่อยากจะเรียกร้อง

สิ่งที่เสียดายที่สุดที่จะต้องลาออกมา คือสังคมเพื่อนร่วมงานที่ดีมากๆ กับนักเรียนที่น่ารักมากๆของครู ตลอดเวลาเเค่เกือบๆ 2 เดือนที่เราได้เจอกัน เป็นความทรงจำที่ดีมากๆเลย ขอบคุณที่เป็นความสุขของเรานะคะ ขอให้เรามีความสุขในการทำงาน

294445768_5415521941845682_14

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวของคุณครูถูกแชร์ออกไป ก็เรียกได้ว่ากลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล จนมีผู้ที่เข้ามากดไลก์มากกว่า 4,100 และ แชร์มากถึง 3,100 ครั้ง ตลอดจนเข้ามาให้กำลังใจและอวยพรให้คุณครูได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในทิศทางที่ตัวเองต้องการกันอย่างมากมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook