ความในใจของครู ในยุคการศึกษาถดถอย นักเรียนเรียกร้องสิทธิแต่ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง

ความในใจของครู ในยุคการศึกษาถดถอย นักเรียนเรียกร้องสิทธิแต่ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง

ความในใจของครู ในยุคการศึกษาถดถอย นักเรียนเรียกร้องสิทธิแต่ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นเรื่องราวที่สังคมออนไลน์ให้ความสนใจกันอย่างมากๆ หลังจากที่คุณครูท่านหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ระบายความในใจ ในสิ่งที่ตัวเองต้องเจอในรั้วโรงเรียนทุกวัน จนรู้สึกหมดกำลังใจเพราะพฤติกรรมของนักเรียนและระเบียบกระทรวงที่มีความหย่อนลง

โดยคุณครูท่านนี้ได้โพสต์ความในใจลงบนเฟซบุ๊ก Patcharaphon Wongchuwan ของตัวเอง โดยได้ระบายความในใจเอาไว้ว่า

นฐานะครู 1 คน

แต่ละวัน​ หลังจากระเบียบของกระทรวงที่หย่อนลงตามการเรียกร้องของนักเรียน เราต้องเจอกับนักเรียนที่ผมยาวมากๆ​ ยาวจนแยกไม่ออกว่าเป็นเด็ก รร. เรา​ที่ยังเรียนอยู่ หรือเป็นเด็กที่ไม่เรียน และออกนอกระบบการศึกษา​ไปแล้ว เราไม่สามารถจัดการกับเด็กที่มาโรงเรียน แต่ไม่เข้าโรงเรียนได้เลย

ในทุกๆวันบริเวณรอบๆโรงเรียนเราเต็มไปด้วยนักเรียนใส่ชุดนักเรียน ไม่ว่าจะออกไปกินข้าว​, ไปตั้งวงกินกระท่อม​, ไปสูบบุหรี่​, ไปแว๊น โดยที่เราได้แค่ยืนดู​ แค่ถามว่าเรียนอยู่ห้องไหนก็เจอการชักสีหน้าใส่จนเหมือนเราไม่ใช่ครู

เราตีเด็ก​ สังคม​ก็ไม่ให้เราตี ถ้าเราหักคะแนนความประพฤติ​ สุดท้ายต่อให้หักจนไม่มีคะแนนจะหัก​ ระบบนี้ก็บีบให้เราต้องให้เด็กผ่านไปอยู่ดี ครูอย่างพวกเราทำอะไรได้บ้าง

เวลาเรียนไม่เข้าเรียน​ เวลาสอบไม่อ่านหนังสือ เพราะต่อให้ตกก็ได้ไม่ต่ำกว่า 60% อยู่ดี​ มีที่ไหนสอบไม่ได้ซักข้อ​ ความรู้ไม่มี​
วันๆ หวีผมแต่งหน้า​ ใส่หูฟังขณะสอน กินข้าวในห้องก็มี แต่ได้คะแนนสอบ 60% ไปเฉย ให้ซ้ำชั้นไม่ได้​ ทั้งๆที่ไม่มีความรู้อะไรเลย

ครูกราบล่ะ​ ถึงนักเรียนที่เคารพ พวกคุณขอสิทธิ์​มากมาย พวกเราที่เป็นครูก็มอบให้คุณ แต่คุณเอาแต่สิทธิ์​ไม่เอาหน้าที่ หน้าที่ของการเป็นนักเรียน ช่วยรับมันไปเหมือนที่รับสิทธิ์​ต่างๆไปด้วย สิทธิและหน้าที่ต้องมาด้วยกัน อย่าโตไปเป็นแค่คนที่เห็นแก่ประโยชน์​ของตัวเองเอาแต่ชอบ​ ไม่เอาผิด ดั่งคนไม่มีความรับผิดชอบ

ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของครู​ ในยุคที่ได้ชื่อว่าการศึกษาถดถอย

cats

หลังจากที่คุณครูได้แชร์ความรู้สึกในใจของตัวเองออกไปแล้ว ก็เรียกว่ากลายเป็นไวรัล ที่มีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจและเห็นอกเห็นใจคุณครูกันเป็นอย่างมาก โดยโพสต์ดังกล่าวมียอดไลก์มากกว่า 10,000 ครั้ง และ แชร์มากถึง 7,700 ครั้ง รวมไปถึงยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาเล่าเรื่องราวที่ตัวเองเจอและความเห็นในเรื่องดังกล่าวกันอย่างมากมาย

01-1
01-2
02
03
04

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook