นิสัยแบบไหนบ้างที่ทำให้ดูแย่ในสายตาเพื่อนร่วมงาน

นิสัยแบบไหนบ้างที่ทำให้ดูแย่ในสายตาเพื่อนร่วมงาน

นิสัยแบบไหนบ้างที่ทำให้ดูแย่ในสายตาเพื่อนร่วมงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จริง ๆ แล้ว เพื่อนร่วมงานยอดแย่นั้น มีแฝงร่างอยู่ในทุกที่ทุกวงการนั่นแหละ แต่จะว่าไปหากคิดว่าเป็นเรื่องของบุญบาปที่ทำให้เราได้มาเจอกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นคนนี้ ก็คงมีคนเชื่อแบบนั้น เพราะหลาย ๆ คนโชคดีมากที่ชีวิตการทำงานเจอแต่เพื่อนร่วมงานที่ดี ที่ไม่ดีก็มีบ้างแต่ไม่เคยเจอคนประเภทที่ต้องยกโล่บุคคลยอดแย่ให้ แต่อีกหลาย ๆ คนกลับตรงกันข้าม นั่นก็คือไม่เคยเจอเพื่อนร่วมงานดี ๆ กับเขาบ้างเลย เปลี่ยนที่ทำงานกี่ทีก็มักจะเจอแต่คนประเภทเดิม ๆ ที่ทำให้รู้สึกลำบากใจที่ต้องร่วมงานด้วยเสมอ คนประเภทที่ทำให้เหนื่อยใจมากกว่าเหนื่อยงาน แย่จนอยากมอบโล่

ซึ่งพฤติกรรมหรือนิสัยที่แต่ละคนแสดงออกมาเวลาทำงานนั้น ล้วนเกิดมาจากทัศนคติและประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนว่าเติบโตมาอย่างไร ซึ่งถ้าหากว่าบุคคลผู้นั้นถูกหล่อหลอมด้วยชุดความคิดที่บิดเบี้ยวมาเป็นเวลานาน จนทำให้เป็นตัวเขาในเวลานี้ มันก็ยากที่เราจะแก้ไขอะไรได้ คงได้แต่อดทน เคลียร์ใจ หรือต้องพ่ายแพ้โดยการเปลี่ยนงานไปเองเพื่อความสุขกายสบายใจ

แต่อันที่จริง เราเองต่างก็ไม่รู้พอ ๆ กันว่าตัวเองเป็นเพื่อนร่วมงานยอดแย่ในสายตาของเพื่อนร่วมงานคนอื่นอยู่หรือเปล่า บางทีอาจเป็นตัวเราเองก็ได้ที่เป็นตัวปัญหา ถ้าอย่างนั้น ลองมาพิจารณาตัวเองจากลักษณะนิสัยเหล่านี้ ที่ทำให้ดูแย่ในสายตาเพื่อนร่วมงาน ถ้ารู้สีกว่าตัวเองมีพฤติกรรมหรือลักษณะนิสัยแบบนี้ต้องรีบปรับแก้โดยด่วน เพราะมันอาจจะเป็นตัวขัดขวางให้เราไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และที่สำคัญ ทำให้คนอื่นเขาไม่คบค้าสมาคมด้วย แม้ว่าจะเป็นเรื่องจำเป็นอย่างเรื่องงานก็ตาม

ฉันเก่งกว่าทุกคน

การที่คุณเป็นคนเก่ง มีทักษะสูง มีความสามารถโดดเด่น นับเป็นเรื่องที่ดีในการทำงาน ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานกับคนเก่ง คนมีความสามารถทั้งนั้น ในแง่ของการทำงานช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นเยอะ แต่การทะนงตัวว่าตัวเองเก่งที่สุด และวางตัวเย่อหยิ่งให้ตัวเองอยู่เหนือทุกคนนั้นมันจะให้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม ต่อให้คุณจะเป็นคนอวดดีที่มีดีให้อวดก็ตามที มันเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนเกินไปว่าคุณไม่เห็นหัวใคร ไม่ฟังคนอื่น หรือไม่ก็มองว่าตัวเองดีเลิศทำถูกอยู่คนเดียว สร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดในการทำงาน เพราะคุณพร้อมจะตัดสินคนอื่นตลอดเวลาและกล่าวโทษทันทีในกรณีที่เกิดความผิดพลาด ทั้งที่ใคร ๆ ก็พลาดได้ นำไปสู่การสูญเสียความเป็นทีมได้ในที่สุด

มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ

อีกหนึ่งตัวปัญหาที่สร้างทั้งความน่ารำคาญในการทำงานร่วมกันและสร้างปัญหาในการทำงาน คือคนประเภทที่ไม่ช่วยทำแล้วยังขัดขวางการทำงานของผู้อื่น หรือที่เรามักจะเรียกว่าพวก “มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ” นั่นเอง หากคุณเป็นคนประเภทที่ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับทีม ไม่เคยเสนอไอเดียอะไรเลย แต่มักจะทำตัวขวางคลองกับความคิดของคนอื่นเสมอ จ้องแต่จะขัดความคิดคนอื่นตลอด มีปัญหาไปหมดทุกเรื่อง โดยชอบอ้างอะไรกลวง ๆ ขึ้นมาเป็นเหตุผล พอโดนซักมากเข้าก็ไปไม่เป็น การเห็นต่างไม่ผิด ถ้าไม่เห็นด้วยต้องมีทางอื่นที่ดีกว่ามานำเสนอ หรือเวลาที่คนอื่นเขาลงมือทำงานกัน ก็มักจะเอาตัวเข้าไปเกะกะ สร้างปัญหาให้คนอื่นตามแก้ ถ้าเป็นแบบนี้ขอให้พิจารณาตัวเองด่วน ๆ

ใช้ปากทำงานมากกว่าใช้สมองและมือ

เคยมีเพื่อนร่วมงานออกโรงเตือนให้คุณใช้ปากทำงานให้น้อยลงบ้างหรือไม่? แบบว่าให้พูดให้น้อยลง ฟังคนอื่นให้มากขึ้น แล้วก็เวลาทำงาน ให้เน้นใช้หนึ่งสมองและสองมือมากกว่าใช้ปาก อะไรที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องพูด! ถ้าคุณเคยโดนใครเตือนแบบตรง ๆ หรือพยายามจะสื่อให้รู้แบบอ้อม ๆ แต่พิจารณาแล้วความหมายเหมือนกัน ขอให้รู้ไว้ว่าในสายตาเพื่อนร่วมงาน คุณมีภาพจำว่าเป็นคนที่ดีแต่ปากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดีไม่ดี คุณอาจจะพ่วงตำแหน่งคนปากดีร่วมด้วยก็ได้ คนที่สักแต่พูดแต่เรื่องไร้สาระหาประโยชน์ไม่ได้ วัน ๆ ดีแต่นั่งนินทา พูดจาเสียดสีคนอื่น ไม่ได้แค่สร้างความน่ารำคาญใจให้กันคนอื่น แต่ยังทำให้คนอื่นเสียเวลา เสียสมาธิ เสียสุขภาพจิตในการทำงานด้วย

ขี้อิจฉา กลัวคนอื่นได้ดีกว่า

การทำงานร่วมกับคนขี้อิจฉา เราจะรู้สึกได้ถึงพลังงานลบที่วนเวียนอยู่รอบตัวตลอดเวลา คนประเภทนี้จึงนับเป็นบุคคลที่เป็นพิษต่อสภาพแวดล้อมการทำงาน เพราะในใจมักจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่เคยรู้สึกยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น ได้แต่กลัวว่าคนอื่นจะได้ดิบได้ดีเกินหน้าตัวเองตลอดเวลา โดยที่ตัวเองก็ไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หนักเข้าอาจจะเข้าข่ายทำพฤติกรรมในเชิงขัดขวางคนอื่น เบียดเบียนให้ไม่ได้ผลงาน สร้างความเสียหายให้กับทีมไปอีก เพราะแทนที่จะช่วยกันทำให้เกิดผลงานที่ดี กลับกลายเป็นการขัดแข้งขัดขาขัดประโยชน์กันเอง สุดท้ายแล้วการทำงานทุกอย่างก็เป็นการทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้เสียสละเพื่อส่วนรวมเลย

อีโก้สูงจัดจนแพ้ไม่ได้

เคยเห็นมีมตลกเสียดสีที่ชาวเน็ตมักนำมาใช้เล่นในโลกออนไลน์บ้างหรือไม่ว่า “ถ้าฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะปีนขึ้นไปบนอีโก้ของเธอ แล้วกระโดดลงมาที่ IQ ของเธอ” ที่มาจริง ๆ ของข้อความนี้ยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ว่ามาจากไหน แต่ที่หลายคนชอบเอามาใช้เพราะมันจิกกัดได้เจ็บแสบดี จริง ๆ การมีอีโก้ไม่ใช่เรื่องผิด การถือตัวเองไม่ใช่เรื่องไม่ดี (ส่วนมากเราตั้งแง่ตีความไปในทางลบเอง) แต่อย่าให้มันสูงมากขนาดที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ความมั่นใจที่มีต้องเผื่อผิดไว้บ้าง แต่ส่วนใหญ่คนประเภทอีโก้สูงลิ่ว มักจะมั่นใจแบบผิด ๆ เสียด้วย ที่รู้มาก็ไม่ได้ถูกต้อง ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่ก็ยังจะเถียงแบบไม่ยอมแพ้แม้ว่าใครจะงัดหลักฐานหรือมีข้อมูลมากมายมายืนยัน คือต้องเป็นผู้ชนะให้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook