7 เทคนิคง่าย ๆ ดึงสติ สร้างสมาธิ เคลียร์งานเสร็จไว

7 เทคนิคง่าย ๆ ดึงสติ สร้างสมาธิ เคลียร์งานเสร็จไว

7 เทคนิคง่าย ๆ ดึงสติ สร้างสมาธิ เคลียร์งานเสร็จไว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใครที่บ่นจังเรื่องไม่มีสมาธิทำงาน ไม่ว่าจะประเภทมาตั้งแต่เช้า นั่งหน้าจอแทบไม่ได้ลุก แต่งานกลับไปไม่ถึงไหน หรือบางคงก็นั่งงงในดงไฟล์ สับสนว่าต้องทำอันไหน หรือหยิบงานอะไรก่อน ใครที่ประสบภาวะเช่นนี้ บอกเลยว่าคุณไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว เพราะปัญหาภาวะ “สมาธิสั้น” ที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลนี้ เต็มไปด้วยคนที่รออะไรไม่ค่อยจะได้ แถมยังไม่มีความสามารถจดจ่อกับสิ่งหนึ่งได้นาน ๆ ส่งผลให้วันนี้มนุษย์เราสามารถแซงหน้าแชมป์อันดับหนึ่งเรื่องสมาธิสั้นอย่างปลาทองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่เชื่อเถอะว่าทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ บางทีก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน ให้หามุมสงบ ๆ แล้วหลับตาลง หายใจเข้า-ออกลึก ๆ หายใจเข้านับ 5 วินาที แล้วหายใจออกอีก 5 วินาที ทำแบบนี้ติดต่อกันซัก 1-2 นาที จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานของสมองและช่วยให้จดจ่อได้ดีขึ้น นอกจากนั้น หากมีประชุมหรือพรีเซนต์งาน วิธีนี้ยังช่วยคลายกังวลและเพิ่มความมั่นใจได้อีกด้วย เปรียบเหมือนเป็นการเตรียมสมองเพื่อรับสิ่งใหม่ ๆ

แต่ถ้าใครลองทำแล้วยังไม่ได้ผลวันนี้ Tonkit360 มีวิธี 7 เทคนิคง่าย ๆ ช่วยสร้างสมาธิก่อนเริ่มทำงานและระหว่างการทำงานมาฝากกัน ไปเริ่มกันเลย

กาแฟสักแก้วก่อนเริ่มงาน

เครื่องดื่มคาเฟอีน ไม่ได้ช่วยแก้ง่วงเท่านั้น แต่ผลงานวิจัยยังพบว่าคาเฟอีนช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความไขว้เขว ทำให้เราจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายหากคุณรู้สึกหมดแรงไม่กระปรี้กระเปร่า อาจสั่งเป็นกาแฟดำหรือชาเขียวร้อนสักถ้วย มาจิบระหว่างทำงาน จะช่วยเร่งเครื่องบูธพลังสมองและร่างกาย แต่แนะนำว่าให้จิบ ๆ เพื่อไม่ให้คาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป

อุณหภูมิก็มีผลต่อสมาธินะ

อุณหภูมิในห้องที่คุณทำงานอยู่ ไม่ว่าจะร้อนเกินไป หรือหนาวเกินไป ก็ล้วนแต่มีผลต่อสมาธิการทำงานได้ทั้งนั้น อุณหภูมิที่พอเหมาะแก่การนั่งทำงานได้ชิล ๆ ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์พบว่า พนักงานจะสามารถทำงานได้ดีที่สุด โดยผิดพลาดน้อยที่สุดในสิ่งแวดล้อมที่มีอุณหภูมิระหว่าง 68-77 องศาฟาเรนไฮต์ (20-25 องศาเซลเซียส) ซึ่งเป็นที่ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปนั่นเอง

ออฟไลน์ตัวเองสัก 30 นาที

ถ้าคุณต้องการมีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขอให้ล็อกเอาต์อีเมล รวมถึงโซเชียลมีเดียทุกชนิด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นจะตายกับอีเมล ก็จงล็อกเอาต์ทั้งหมดสัก 30 นาที อาจจะเป็นช่วงเช้าตอนเริ่มงาน หรือตอนบ่ายก็ได้ แล้วคุณจะตกใจว่า คุณสามารถเคลียร์งานได้มากขนาดไหนเมื่อคุณไม่ถูกขัดจังหวะตัวเองด้วยการตอบอีเมล

พักบ้างอย่าทำงานมาราธอน

การทำงานแบบมาราธอนต่อเนื่องหลาย ๆ ชั่วโมง อาจช่วยให้ทำงานได้เยอะ แต่ก็ทำให้หมดแรงเร็วและสมองตื้อไวขึ้นเช่นกัน เพราะสมองของคนเราจะสามารถโฟกัสกับงานได้เพียงช่วงแรก ๆ เท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปซักระยะความสนใจก็จะน้อยลง เริ่มเฉื่อยชา และขาดโฟกัส การพักสั้น ๆ เป็นการผ่อนคลายจิตใจ และช่วยให้คุณมีสมาธิโฟกัสกับงานได้ดีมากขึ้น สัก 10-20 นาที การงีบจะช่วยให้สมองและร่างกายกระฉับกระเฉงขึ้น ตื่นมาแล้วจะพร้อมลุยงานได้ยาว ๆ

ดื่มน้ำทุก ๆ ชั่วโมง

อีกเทคนิคการเพิ่มสมาธิง่าย ๆ ก็คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ แนะนำให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว ทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง ช่วยให้สมองทำงานได้เป็นปกติและช่วยเพิ่มสมาธิระหว่างวัน เพราะการขาดน้ำทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนซึ่งส่งผลไปยังการทำงานของสมอง ทั้งยังทำให้เลือดข้น ไหลเวียนไม่สะดวก ลำเลียงออกซิเจนได้ไม่มากพอ ส่งผลให้ง่วงและเฉื่อยชาขึ้นได้

อารมณ์ศิลปินก็ช่วยเพิ่มสมาธิได้

คุณสามารถฝึกสมาธิไปพร้อม ๆ กับพัฒนาทักษะทางศิลปะด้วยการวาดขีด ๆ เขียน ๆ ซึ่งการวาดรูปมั่ว ๆ สามารถช่วยในประสิทธิภาพในการรับรู้ และการจดจำให้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวขึ้นอีกด้วย

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับส่งผลโดยตรงต่อสมาธิและความจำ แนะนำให้หาเวลานอนให้ได้คืนละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่ทางที่ดี ควรพยายามจัดตารางการทำงาน และจัดการงานให้เสร็จในช่วงกลางวันให้ได้มากที่สุด เวลากลางคืนจะได้พักผ่อนเต็มที่ ซึ่งเป็นผลดีกับร่างกายและประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook