สมศ. รายงานผลการประเมินฯ ปี 2565 พบจุดต้องเร่งส่งเสริม ย้ำปี 2566 ยังประเมินออนไลน์

สมศ. รายงานผลการประเมินฯ ปี 2565 พบจุดต้องเร่งส่งเสริม ย้ำปี 2566 ยังประเมินออนไลน์

สมศ. รายงานผลการประเมินฯ ปี 2565 พบจุดต้องเร่งส่งเสริม ย้ำปี 2566 ยังประเมินออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 22 ธันวาคม 2565 สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) สรุปผลการดำเนินงานประเมินคุณภาพภายนอกประจำปี 2565 พบว่า มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินแล้วกว่า 19,558 แห่ง ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยหลังจากประเมิน ได้พบจุดที่ควรเร่งส่งเสริมและพัฒนาของสถานศึกษา ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทาง สมศ. ก็ยังคงจะใช้รูปแบบการประเมิน 2 ระยะ คือ การประเมินและวิเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) และการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหรือการตรวจสอบหลักฐาน พร้อมยังคงเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และร่วมงานกับหน่วยงานต้นสังกัด 27 หน่วยงาน ในการพัฒนาและใช้งานระบบบริหารจัดการรายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (e-SAR) เพื่อเป็นการลดภาระให้กับสถานศึกษา

 

ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ รักษาการประธานกรรมการ สมศ. กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอก ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 19,558 แห่ง ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จากเดิม จำนวน 18,000 แห่ง โดยแบ่งออกเป็น 

  • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 7,009 แห่ง
  • การศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 11,341 แห่ง
  • การศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ จำนวน 317 แห่ง
  • การศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีวัตถุประสงค์พิเศษโรงเรียนนานาชาติ จำนวน 50 แห่ง
  • การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จำนวน 415 แห่ง
  • การอาชีวศึกษา จำนวน 384 แห่ง 
  • ระดับอุดมศึกษา จำนวน 42 แห่ง 

ทั้งนี้ จำนวนของสถานศึกษาทั่วประเทศที่ได้รับการประเมินในงบประมาณ 2564 - 2565 รวมทั้งสิ้น 40,835 แห่ง จากจำนวนสถานศึกษาทั้งหมด 60,335 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 67.68 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของสถานศึกษาต่อ สมศ. ถึงการดำเนินงาน และการประเมินรูปแบบใหม่ที่ไม่สร้างภาระให้กับสถานศึกษา รวมถึงสถานศึกษาสามารถนำเสนอข้อเสนอแนะที่ได้รับจากผู้ประเมินภายนอก นำไปปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพได้จริง

หลังจากที่ได้ประเมิน สมศ. พบว่า แต่ละประเภทสถานศึกษามีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ด้านจุดเด่นได้ส่งเสริมให้สถานศึกษาดำเนินการต่อยอดเพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรม (Innovation) และแบบอย่างที่ดี (Best Practice) ส่วนข้อเสนอแนะที่ควรได้รับการส่งเสริมเพื่อพัฒนา สมศ. ได้ให้ข้อแนะนำกับสถานศึกษาทั้ง 3 ประเภท ดังนี้ 1) การสร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เรียนและเล่นอย่างมีความสุข 2) การสร้างนวัตกรรมของสถานศึกษา และการประเมินพัฒนาการก่อนและหลังการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และ 3) การส่งเสริมให้ผู้สอนพัฒนางานวิจัยและขยายผลไปสู่ชุมชน 

“สำหรับสถานศึกษาที่เข้ารับการประเมินแล้ว พบว่าหลายสถานศึกษามีการนำข้อเสนอแนะไปปรับใช้ ส่งผลให้เกิดการพัฒนา ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์และตรงกับวัตถุประสงค์หลักของ สมศ. อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจให้กับสถานศึกษาว่า การประเมินไม่ได้เป็นการสร้างภาระ แต่เป็นการ “ประเมินเพื่อพัฒนา” ให้สถานศึกษาได้ทราบจุดเด่นเพื่อต่อยอด ทราบจุดบกพร่องเพื่อพัฒนา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมศ. ได้ปรับแนวทางการประเมิน และพัฒนาผู้ประเมินอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนของการประเมินตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อให้การดำเนินงานรวดเร็ว และก้าวทันสถานการณ์โลก ที่สำคัญอยากให้ตระหนักว่าการประเมินเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ” ศ.ดร.สมคิด กล่าว

ด้าน ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สมศ. ระบุว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สมศ. ยังคงมุ่งเน้นเดินหน้าในการสร้างคุณภาพการศึกษา ให้มีคุณภาพเทียบเท่าในระดับนานาชาติ โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยสนับสนุนในการประเมินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับที่ประชุมเครือข่ายการประกันคุณภาพของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APQN) ที่ทุกประเทศสมาชิกได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลและออนไลน์มาใช้ รวมถึงรูปแบบการตรวจเยี่ยมเสมือนจริง (Virtual Assessment) 

นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สมศ. ยังได้ตั้งเป้าหมายสถานศึกษาเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกจำนวน 13,212 แห่ง ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่เหลืออยู่ทั้งหมดและยังไม่ได้รับการประเมินในช่วงปี 2563 - 2565 ที่ผ่านมา โดยการประเมินจะสอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา และไม่สร้างภาระเพิ่มเติมให้กับสถานศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1 เป็นการประเมินและวิเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ซึ่งเป็นการประเมินตาม พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 49
  • ระยะที่ 2 เป็นการประเมินตามความสมัครใจของสถานศึกษาในรูปแบบการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม หรือการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลของสถานศึกษาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ 

พร้อมกันนี้ สมศ. ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้สนับสนุนการประเมิน เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน และมีการพัฒนาระบบเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดย สมศ. ได้มีการประสานความร่มมือกับหน่วยงานต้นสังกัดจำนวน 27 หน่วยงาน ในการพัฒนาเชื่อมต่อและใช้งานระบบบริหารจัดการการรายงานประเมินตนเองของสถานศึกษา (e-SAR) ร่วมกัน เพื่อจัดเก็บรายงานผลการดำเนินงาน ส่งผลให้หน่วยงานต้นสังกัดสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ และเป็นการลดการใช้ทรัพยากรกระดาษ ประหยัดเวลา ตลอดจนพัฒนาระบบการออกใช้รับรอง (e-Certificate) ให้กับสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินและรับรองรายงานผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook