Safe Sex เป็นเรื่องสำคัญ 6 โรคที่มากับความรัก (บนเตียง)

Safe Sex เป็นเรื่องสำคัญ 6 โรคที่มากับความรัก (บนเตียง)

Safe Sex เป็นเรื่องสำคัญ 6 โรคที่มากับความรัก (บนเตียง)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกคนมีความรักได้ และเพศสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ทว่ากิจกรรมทางเพศเหล่านั้นควรจะต้องปลอดภัยด้วย เพราะมันมีสิ่งน่ากลัวที่เรียกว่า “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ที่ถ้าเกิดติดต่อกันขึ้นมา มันอาจทำลายอะไรหลาย ๆ อย่างในความสัมพันธ์ และบางโรคเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย

เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ วิธีการป้องกันที่ง่ายที่สุด คือ การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทางเพศแบบที่เสี่ยงต่อการติดโรค ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ที่สำคัญ คือการหมั่นสังเกตอาการ ตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง และตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงความจริงใจต่อกันในการบอกคู่รักของตนก่อนว่าตนเองมีอาการป่วยด้วยโรคทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นผู้แพร่เชื้อให้กับคนที่ตนรัก และการวางแผนรักษาให้หายขาด safe sex เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันคงไม่คุ้มกันหากเราต้องเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อเหล่านี้ หรือการจงใจแพร่เชื้อให้คนอื่น เพียงเพื่อประสบการณ์ทางเพศที่ไม่ปลอดภัยแต่ถูกใจเพียงชั่วครั้งชั่วคราว

1. เอดส์

หากพูดถึงโรคที่ติดมากับกิจกรรมทางเพศหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ “เอดส์” น่าจะเป็นโรคแรก ๆ ที่ทุกคนนึกถึง โดยโรคเอดส์เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี จากข้อมูลของการระบาดวิทยาของโรค พบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี มากกว่าร้อยละ 80 ได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย ไม่ว่าจะเป็นเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ชายกับหญิง หรือหญิงกับหญิง การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดและทวารหนัก ล้วนแล้วแต่มีโอกาสติดโรคนี้ได้ทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากติดเชื้อจากกิจกรรมทางเพศแล้ว ยังอาจติดเชื้อจากการสัมผัสกับเลือดหรือน้ำเหลืองของผู้ติดเชื้อด้วย ในน้ำลาย เสมหะ และน้ำนม พบเชื้อน้อยมาก ส่วนเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระแทบไม่พบเลย

2. ซิฟิลิส

ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อันเกิดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา พัลลิดัม โดยปกติผู้ป่วยจะรับเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ กิจกรรมทางเพศโดยปาก และการจูบกับผู้ป่วยก็สามารถติดเชื้อมาได้เช่นกัน เนื่องจากการดำเนินโรคในขั้นต้น โดยทั่วไปจะเริ่มจากบาดแผล ซึ่งมักจะพบบริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก ลักษณะของแผลจะเป็นตุ่มแผลที่ไม่รู้สึกเจ็บ หรือที่เรียกว่าแผลริมแข็ง บริเวณอวัยวะเพศหรือปาก ความรุนแรงของซิฟิลิส หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง เชื้อจะทำลายอวัยวะภายใน อาจส่งผลให้ตาบอด หูหนวก ใบหน้าผิดรูป สมองเสื่อมหรือเสียสติ เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หากเชื้อลามไปถึงหัวใจ จะทำให้หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้ในที่สุด

3. หนองใน

หนองใน นับเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกโรคที่พบได้บ่อย สามารถพบได้ประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรียโกโนเรีย ซึ่งสามารถตรวจพบเชื้อชนิดนี้ได้ในน้ำอสุจิและสารน้ำในช่องคลอด ไม่ว่าจะเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากก็สามารถติดเชื้อมาได้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม โอกาสติดเชื้อของชายหญิงจะแตกต่างกัน หากชายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่มีเชื้อหนองใน จะมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหญิงมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีเชื้อหนองใน จะมีโอกาสติดเชื้อมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีสูงขึ้นด้วย

4. เริม

เริมเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ซิมเพล็กซ์ โดยตำแหน่งที่เกิดแผลเริม ส่วนมากจะมี 2 ตำแหน่ง ได้แก่ หากและอวัยวะเพศ ดังนั้น การรับเชื้อจึงรับผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก เพราะตัวเชื้อไวรัสสามารถข้าสู่ร่างกายผ่านเยื่อที่บอบบาง ทั้งยังติดต่อกันผ่านการจูบได้ด้วยเช่นกัน ความน่ากลัวของเริม คือเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ยาก รักษาแล้วดีขึ้นแล้วแต่ก็กลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ ต้องป้องกันไม่ให้ตนเองไปรับเชื้อชนิดนี้มาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะจากการสัมผัสกับรอยโรคที่ผิวหนังของผู้ป่วยแล้วนำมาสัมผัสกับบริเวณเยื่อบุอ่อนของตนเอง และจากการมีเพศสัมพันธ์ ต้องป้องกันไว้ก่อน

5. หูดหงอนไก่

หูดหงอนไก่ คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแปปิโลมา หรือไวรัสเอชพีวี โรคนี้สามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับในผู้ใหญ่จะพบบ่อยในวัยเจริญพันธุ์ คือ ในช่วงอายุ 16-25 ปี โดยพบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ปกติแล้วหูดหงอนไก่จะไม่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่ธรรมชาติของการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีนั้น ผู้ป่วยอาจติดเชื้อได้หลายสายพันธุ์พร้อมกัน หากผู้ป่วยไปติดเอาสายพันธุ์ชนิดความเสี่ยงสูงร่วมด้วยก็มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งขึ้นได้ คือมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง และมะเร็งองคชาต มะเร็งทวารหนักในผู้ชาย ที่สำคัญคือ สามารถเกิดซ้ำได้บ่อยถึงร้อยละ 30-70 ที่ระยะเวลา 6 เดือนหลังสิ้นสุดการรักษา

6. ไวรัสตับอักเสบ บี

หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่าโรคไวรัสตับอักเสบ บี เป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ชนิดบี ซึ่งเป็นเชื้อที่อันตรายมาก สามารถติดได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย โดยเชื้อจะเข้าทางบาดแผล ทำให้กิจกรรมทางเพศโดยปากก็สามารถติดมาได้ แต่จะไม่ติดจากการจูบกัน (ถ้าปากไม่มีแผล) อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี สามารถติดต่อกันได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสโรคเอดส์เสียด้วยซ้ำ นั่นทำให้การตรวจสุขภาพของคู่รักก่อนแต่งงานจำเป็นตรวจโรคนี้ด้วย เพื่อป้องกันการติดต่อกันของคู่แต่งงาน รวมถึงป้องกันลูกติดเชื้อจากแม่ที่มีเชื้อในขณะคลอด (ลูกมีโอกาสรับเชื้อร้อยละ 90) แต่ปัจจุบันลดลงมาก เพราะการฉีดวัคซีนให้กับทารก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook