เฉลยแล้ว! ที่มา ไฟหมุนร้านตัดผม มีไว้ทำไม เริ่มต้นมาจากไหน
เชื่อว่าตั้งแต่เด็กยันโตขึ้นมา เวลาเราเข้าร้านตัดผม สิ่งที่เรามักจะสังเกตมาตลอดนั้นก็คือทุกๆ ร้านจะต้องมีไฟหมุนๆ ที่เห็นแล้วจะเป็นภาพจำของร้านตัดผม ที่ไม่ว่าไปร้านไหนก็จะต้องเจอไฟแบบนี้กันทุกร้าน จนหลายคนสงสัยว่าไฟหมุนร้านตัดผม มันคืออะไร มีไว้ทำอะไร
วันนี้ Sanook Campus เราก็จะมาไขข้อสงสัยของหลายๆ คนกันซักหน่อยว่า ไฟหมุนร้านตัดผม จริงๆ แล้ว มันหมายถึงอะไร ทำไมถึงกลายเป็นสัญลักษณ์ร้านตัดผมที่ต้องมีกันทุกร้าน
ไฟหมุนร้านตัดผม มีไว้ทำไม
ไฟหมุนร้านตัดผม นั้นมีชื่อเรียกว่า บาร์เบอร์โพล (Barber's Pole) มีต้นกำเนิดมาจากทางยุโรป ที่ในช่วงเวลานั้นอาชีพช่างตัดผมยังเป็นอาชีพที่รวมกันอยู่ในหมวด หมอฟันและศัลยแพทย์
ในสมัยนั้นอาชีพหมอและช่างตัดผมยังเป็นงานสาขาเดียวกันอยู่ ซึ่งนั่นแปลว่าในสมัยนั้นช่างตัดผมต้องมีความรู้ทางด้านการผ่าตัดและถอนฟันด้วย โดยหมอ/ช่างตัดผม ต้องทำงานผ่าตัดโดยพาดแถบผ้าพันแผลไว้ที่แขน 2 เส้น เส้นแรกไว้พันแขนผู้ป่วยระหว่างถ่ายเลือด อีกเส้นไว้พันหลังทำงานเสร็จ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์และภาพจำ
โดยสีแดงที่สื่อถึง เลือด สีขาวที่สื่อถึง ผ้าพันแผล และวิวัฒนาการทำเป็นเสา ทาสีเป็นเกลียวเลียนแบบ เป็นสีขาว-แดง ดูเหมือนริบบิ้น แล้วแพร่หลายจากยุโรปไปอเมริกา ซึ่งทางอเมริกาจะใส่สีน้ำเงินเข้าไปด้วย ให้มีสีตามสีหลักของธงชาติอเมริกา และแพร่หลายออกไป จนไฟหมุนร้านตัดผม เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านตัดผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อีกทั้งประโยชน์ของ ไฟหมุนร้านตัดผมนั้นยังสามารถบ่งบอกได้อีกว่าตรงไหนคือร้านตัดผม โดยไม่ต้องทำป้ายและยังบอกให้ทราบด้วยว่าร้านเปิดทำการหรือไม่ หากไฟหมุนเปิดอยู่แสดงว่าร้านเปิด เข้าไปใช้บริการได้ หากไฟปิดคือร้านปิด