อากาศร้อนจนไม่อยากทำอะไร ทำความรู้จัก Summer Depression
ฤดูร้อนส่วนใหญ่มักเป็นฤดูแห่งความสนุกภายใต้แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า การออกไปแฮงค์เอาท์ที่ทุกคนรอคอยโดยเฉพาะการเที่ยวทะเล ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนแบบไม่มีหยุด สนุกฤดูร้อนแต่กลับจะรู้สึกเหงาหรือเศร้าในฤดูหนาว แต่สำหรับบางคนแล้วกลับกัน อาจรู้สึกไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแม้อากาศจะเหมาะแก่การแช่ตัวในน้ำทะเลหรือนอนอาบแดดแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเป็นสัญญาณของ Summer Depression
อาการซึมเศร้าเมื่อเข้าฤดูร้อน (Summer Depression)
เมื่อถึงฤดูร้อนบางคนอาจรู้สึกไม่อยากทำอะไร ไม่มีสมาธิจะโฟกัสกับงาน อะไรที่เคยชอบก็ไม่ได้อยากทำเหมือนแต่ก่อน ไม่อยากพบเจอผู้คน อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณของอาการซึมเศร้าเมื่อเข้าฤดูร้อน หรือ Summer Depression จะคล้าย ๆ กับบางคนที่รู้สึกเหงา หรือเศร้าในช่วงฤดูหนาวของปีนั่นเอง ซึ่งสาเหตุของ Summer Depression นั้นยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่แพทย์คาดว่าเกิดจากนาฬิกาชีวิตถูกรบกวนด้วยแสงแดด ความชื้น และเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน
ซึ่งอาการซึมเศร้าตามฤดูนี้มีชื่อเรียกทางการแพทย์ว่า SAD หรือ Seasonal Affective Disorder มักจะเกิดได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว แต่บางครั้งก็สามารถเกิดขึ้นในปลายฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน เรียกได้ว่าเกิดได้ทุกฤดูตามสภาพอาการและการตอบสนองของแต่ละบุคคล
อาการที่เป็นสัญญาณของซึมเศร้าในฤดูร้อน
- ปัญหาในการนอนไม่หลับ
- รู้สึกเบื่ออาหาร
- น้ำหนักลดลง
- ความวิตกกังวล หงุดหงิดเพิ่มมากขึ้น
หรืออาการอื่น ๆ เช่น รู้สึกหมดหวัง ไร้ค่า อ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง หมดความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ ไม่มีสมาธิ เก็บตัว หมกมุ่นกับเรื่องความตาย หรือคิดฆ่าตัวตาย หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะอาการ SAD สามารถหายขาดได้หากรักษาถูกวิธี หรือหากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าระยะยาว (Major Depression) ได้
แม้ภาวะ SAD พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่บุคคลในกลุ่มต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
- เพศหญิง เนื่องจากภาวะนี้มักพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- อยู่ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งเป็นวัยที่พบภาวะ SAD ได้มากกว่าช่วงวัยอื่น
- ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคไบโพลาร์
- คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือมีภาวะ SAD
- อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ห่างจากเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีช่วงเวลากลางวันสั้นกว่าพื้นที่ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร
วิธีรับมือกับความเศร้าในช่วงฤดูร้อน
สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับอาการดังกล่าว สามารถรับมือได้ง่าย ๆ เบื้องต้นด้วยตัวเอง คือ
พักผ่อนให้เพียงพอ
เป็นอีกฤดูที่มีเวลาหยุดยาวเพื่อให้ได้สังสรรค์ แต่หากเราไม่ได้รู้สึกอยากออกไปพบปะผู้คน ให้ใช้เวลาเหล่านี้ในการรีชาร์จร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา เพื่อทำให้ร่างกายได้จัดตารางเวลาการนอนได้
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นอีกวิธีที่ช่วยได้อย่างมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด และอากาศที่ร้อนมากเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย สบายตัว
ทานอาหารที่มีประโยชน์
การทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพช่วยส่งผลให้ร่างกายเกิดความสมดุล การทำงานภายในไม่ติดขัด ควรเน้นทานผักผลไม้ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
นอกจากนี้อาจหาวิธีที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจากการตกอยู่ในห้วงของความเศร้า เช่น หาหนังที่ชอบดู ฟังเพลง นั่งสมาธิ เป็นต้น
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ช่วยป้องกันภาวะ SAD ได้อย่างแน่นอน แต่หากมีอาการข้างต้นควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาเพื่อไม่ให้อาการแย่ลงจนถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้