5 วิธีบริหารเงินสำหรับวางแผนเที่ยวทริปในฝัน
การเที่ยว อาจดูเป็นกิจกรรมที่ออกจะ “ฟุ่มเฟือย” สำหรับใครหลาย ๆ คน เนื่องจากมันต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการเดินทางแต่ละครั้ง ต่อให้เป็นทริปที่ควบคุมค่าใช้จ่ายให้ประหยัดที่สุด รัดเข็มขัดแน่นแค่ไหน แต่มันก็ต้องใช้เงินมากกว่าที่เราใช้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอยู่ดี เงินก้อนหนึ่งหมดไปกับการเที่ยวที่ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น คนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกที่จะพับแผนเที่ยวเก็บไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจ คืออยากไปแหละ แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเงินไม่พร้อม ไปแบบเสียดายเงินมันก็เหมือนจะสนุกไม่สุด กลับมาก็มานั่งอมทุกข์อีก
ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีบริหารเงินเพื่อให้คุณสามารถออกเที่ยวทริปในฝันได้อย่างสบายใจหรอกนะ คนเราทำงานหนักมันก็ควรจะมีช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนบ้าง ถ้าคุณอยากไปเที่ยว แต่สถานการณ์ทางการเงินค่อนข้างมีเงื่อนไขจำกัด คุณก็แค่ต้องวางแผนบริหารเงินให้รัดกุมกว่าคนอื่นเขา ลองมาดูวิธีที่เราจะแนะนำต่อจากนี้ เพื่อที่ว่าคุณจะได้เดินทางไปเที่ยวทริปในฝันอย่างสบายใจ และไม่ต้องเป็นทุกข์เรื่องเงินมากนัก
สำรวจค่าใช้จ่ายว่าต้องใช้เงินเท่าไร
ก่อนเริ่มต้นเก็บเงินเที่ยวทริปในฝัน ก็ต้องสำรวจก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในการเดินทาง และจะไปนานกี่วัน เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าควรต้องเก็บเงินเท่าไรและจะใช้เวลาเก็บนานแค่ไหน หลัก ๆ แล้วก็มักจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทาง ถ้าจะไปต่างประเทศ ก็มีค่าตั๋วเครื่องบินแล้วแน่ ๆ ถ้าเดินทางในประเทศโดยรถส่วนตัว ก็ต้องนึกถึงค่าน้ำมันตลอดทริป และพวกค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าชอปปิง เบ็ดเตล็ด และเงินสำรอง เผื่อกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด นอกจากนี้ อาจลองนึกถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเองระหว่างเที่ยวด้วยก็ได้ว่าอยากจะเที่ยวแบบไหน เน้นกินหรูอยู่แพงฟีลไฮโซ จะอยู่แบบธรรมดา ๆ ก็พอ หรือจะเที่ยวคอนเซปต์ประหยัดเซฟทุกสตางค์ มันมีผลต่อการเก็บเงินทั้งสิ้น
วางแผนการเก็บเงิน
ขั้นต่อมา คือการวางแผนเริ่มเก็บเงินว่าจะออมด้วยวิธีไหนดี เพราะการไปเที่ยวมันเป็นกิจกรรมพิเศษ เงินที่จะนำไปเที่ยวควรจะกระทบเงินปกติที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้น้อยที่สุด วิธีการออม ก็เลือกวิธีที่ตัวเองถนัดและคิดว่าทำได้ไม่ยาก ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว นอกจากนี้ อาจจะมองหาในเรื่องของการหารายได้เสริมเฉพาะกิจก็เป็นความคิดที่เข้าท่าดีเหมือนกัน เพราะมันเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณเก็บเงินก้อนใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไปเที่ยวได้เร็วขึ้น ลำพังแค่เก็บออมเอาจากรายได้ปกติมันอาจจะทำให้สถานการณ์การเงินของคุณต้องกระเบียดกระเสียรเกินไปหน่อย กว่าจะเก็บได้เพิ่มสักก้อน อาจทำให้คุณท้อแท้ไปก่อนเลยก็ได้
บัตรเครดิต มีแล้วต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บัตรเครดิตอาจเป็นตัวก่อหนี้ชั้นดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบัตรเครดิตทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นเยอะเหมือนกัน เพียงแต่คุณต้องรู้จักใช้มันให้เป็นและรู้จักวางแผนเรื่องการจ่ายหนี้คืน การรูดบัตรเครดิตเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ ถ้าคุณมีรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ และยังเพียงพอต่อการใช้จ่ายปกติหลังจากหักจ่ายหนี้บัตรเครดิต การรูดไปก่อนแล้วตามจ่ายหนี้ทีหลังก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับความคุ้มค่าเป็นแต้มหรือเครดิตเงินคืนได้ด้วยหลังจากรูดใช้ มีสิทธิพิเศษเป็นโปรโมชันบัตรกับสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้า หรือคุณอาจนำแต้มที่สะสมไว้เยอะแยะไปแลกนั่นแลกนี่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางก็ได้เหมือนกัน
ทริปต่างประเทศ วางแผนใช้ travel card อาจคุ้มค่ากว่า
Travel Card คือ บัตรสำหรับทำธุรกรรมทางการเงินในต่างประเทศ โดยอาจมีลักษณะเป็นบัตรเดบิตหรือบัตรเติมเงิน รูปแบบหนึ่ง (ไม่ได้ใช้เงินในอนาคตเหมือนบัตรเครดิต) ใช้แลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศได้ รูดจ่ายค่าสินค้าและกดเงินจากตู้ ATM ต่างประเทศได้เหมือนบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตทั่วไป โดยมีค่าธรรมเนียมหรืออัตราแลกเปลี่ยนในราคาพิเศษ ซึ่ง Travel Card จะตอบโจทย์นักเดินทางที่ไม่มีบัตรเครดิตหรือคนที่ไม่อยากพกเงินสดจำนวนมากไปไหนมาไหน ไม่ต้องเสียเวลาไปแลกเงิน และสามารถใช้จ่ายทั่วโลกได้สะดวกด้วยบัตรใบเดียว ที่สำคัญ ไม่เสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.0-2.5% ของยอดใช้จ่าย เหมือนกับการรูดจ่ายด้วยบัตรเครดิตด้วย
ทำบันทึกรายจ่ายว่าเสียหายไปเท่าไร
ในช่วงเวลาระหว่างเที่ยว หากมีเวลาเหลือ ๆ ก่อนนอนหรืออาจจะตื่นเช้ากว่าปกตินิดหน่อย ลองเจียดเวลามาทำสรุปเกี่ยวกับเงินรายวันที่คุณใช้ไปกับเที่ยวสักหน่อย แบบว่าทำบันทึกรายจ่ายไว้ว่าการเที่ยวในทริปนี้เราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง แล้วแต่ละรายการมันเป็นเงินเท่าไร โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าชอป ประโยชน์ก็คือ เป็นการวางแผนการเงินในระหว่างทริป คุณจะได้อัปเดตกับตัวเองทุกวันว่าเงินที่เหลืออยู่กับจำนวนวันเที่ยวมันพอดีกันหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเงินหมดก่อนเดินทางกลับ รวมถึงบันทึกไว้เพื่อเก็บเป็นข้อมูลสำหรับการวางแผนเที่ยวครั้งหน้าว่าจะต้องเตรียมเงินเท่าไรบ้าง แม้ว่าในอนาคตมันอาจจะแพงขึ้น แต่ก็ยังมีข้อมูลไว้อ้างอิง