วางแผนการเงินด้วย 4 บัญชีบริหารเงินเดือน

วางแผนการเงินด้วย 4 บัญชีบริหารเงินเดือน

วางแผนการเงินด้วย 4 บัญชีบริหารเงินเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหาส่วนใหญ่ที่มนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คนมักพบเจอในแต่ละเดือนคงหนีไม่พ้นในเรื่องของการใช้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนแทบไม่พอใช้ และด้วยยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี ที่การชอปปิงอยู่เพียงแค่ปลายนิ้ว บางทีการอยู่บ้านก็สามารถทำให้เราเสียเงินกับการซื้อของออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย มันยิ่งทำให้การเก็บเงินดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่เราต้องรู้จักควบคุมและจัดสรรค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนออกจากกัน เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคที่ใครก็ทำได้ เพียงแค่ “แยกบัญชี” เท่านั้นเอง

4 บัญชีบริหารเงินเดือน

การแยกบัญชี เป็นการแบ่งเงิน 1 ก้อนออกเป็นส่วนต่าง ๆ ตามจุดประสงค์ของเงินก้อนนั้น ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 บัญชีหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

บัญชีเงินเดือน

เป็นบัญชีตั้งต้น เพื่อรับเงินเดือนหรือรายได้อื่น ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นบัญชีค่าใช้จ่ายและบัญชีออมเงินร่วมด้วย เพราะจะทำให้เราจัดสรรเงินได้ยาก บางทีอาจจะใช้เงินเพลินจนไม่รู้ตัว

บัญชีเงินออม

หลังจากได้รับเงินเดือนแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการแบ่งเงินมาที่บัญชีเงินออมอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อเก็บสะสมและเป็นการเริ่มต้นสร้างวินัยการออมด้วยการปรับพฤติกรรม “ออมก่อนใช้” ต่อจากนั้นก็มาจัดสรรบัญชีการออม โดยแบ่งการออมออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

  • เป้าหมายระยะสั้น เป็นเงินออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน 3-6 เท่า ของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในที่ที่มีสภาพคล่องสูง สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที เช่น บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงิน
  • เป้าหมายระยะกลาง เป็นเงินออมที่เก็บไว้เพื่อนำมาใช้ในช่วง 2-10 ปี เช่น ไว้เรียนต่อ ซื้อรถยนต์ แต่งงาน แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในพอร์ตลงทุนความเสี่ยงปานกลาง เช่น บัญชีฝากประจำ พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนรวมตราสารหนี้
  • เป้าหมายระยะยาว เป็นเงินออมที่เก็บไว้เพื่อนำมาใช้ในช่วง 10 ปีขึ้นไป อย่างเช่นการเกษียณอายุ แนะนำเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในพอร์ตลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว เช่น กองทุนรวมตราสารทุน หุ้นพื้นฐานดี ประกันบำนาญ กองทุน SSF หรือกองทุน RMF

บัญชีค่าใช้จ่าย

เป็นบัญชีค่าใช้จ่ายคงที่ ที่รู้จำนวนเงินที่แน่นอนในแต่ละเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ เป็นต้น แนะนำว่าควรโอนเงินจากบัญชีเงินเดือนเข้าบัญชีนี้ทุกต้นเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายจำเป็นเหล่านี้

บัญชีค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์

เป็นบัญชีสุดท้ายที่เหลือหลังจากหักเงินออมและค่าใช้จ่ายจำเป็นออกแล้ว ไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ค่ากิน ค่าเดินทาง เป็นต้น แต่ไม่ควรโอนเงินจากบัญชีเงินเดือนมาไว้ที่บัญชีนี้เป็นเงินก้อนทั้งหมดทีเดียว เพราะอาจทำให้เราเผลอใช้เงินหมดก่อนสิ้นเดือน แนะนำว่าควรโอนเงินเข้าทุกต้นสัปดาห์ โดยเฉลี่ย 5 สัปดาห์ในแต่ละเดือน หากเดือนไหนมีไม่ถึง 5 สัปดาห์ หรือสัปดาห์ไหนใช้จ่ายน้อยกว่าที่ตั้งไว้ ก็สามารถนำเงินที่เหลือไปเปย์ตัวเอง หรือโอนเข้าบัญชีเงินเก็บเพิ่มได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook