เฉลยแล้ว! ไข่ไก่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไง และเหมาะกับการทำอาหารแบบไหน

เฉลยแล้ว! ไข่ไก่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไง และเหมาะกับการทำอาหารแบบไหน

เฉลยแล้ว! ไข่ไก่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไง และเหมาะกับการทำอาหารแบบไหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมนูไข่ เรียกว่าเป็นเมนูสุดง่ายที่เอามาทำอะไรก็เป็นอาหารอยู่ท้อง ทำง่ายกินง่าย ไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ซึ่งสะดวกต่อการใช้ชีวิตและเป็นเมนูกันตายได้อย่างดีเลย แต่เพื่อนๆ เวลาซื้อไข่สังเกตกันรึเปล่าว่าทำไมไข่ไก่ต้องมีหลายเบอร์ แล้วแต่ละเบอร์มันแตกต่างกันตรงไหน

วันนี้ Sanook Campus เราก็จะพาเพื่อนๆ มาไขข้อสงสัยกันหน่อยว่าไข่ไก่แต่ละเบอร์นั้นต่างกันยังไง และ ไข่ไก่แต่ละเบอร์เหมาะกับการนำมาทำอาหารแบบไหน

ไข่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไงไข่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไง

เฉลยแล้ว! ไข่ไก่แต่ละเบอร์ต่างกันยังไง และเหมาะกับการทำอาหารแบบไหน

ไข่ไก่แต่ละเบอร์ต่างกันที่น้ำหนัก โดยไข่ไก่ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 6 เบอร์ คือ เบอร์ 0, 1, 2, 3, 4, และ 5 โดยขนาดของไข่ไก่จะเรียงจากใหญ่ไปเล็ก ดังนี้

  • เบอร์ 0 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 70 กรัมขึ้นไป
  • เบอร์ 1 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 65-69 กรัม
  • เบอร์ 2 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 60-64 กรัม
  • เบอร์ 3 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 55-59 กรัม
  • เบอร์ 4 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 50-54 กรัม
  • เบอร์ 5 น้ำหนักขั้นต่ำต่อฟอง 45-49 กรัม

นอกจากน้ำหนักแล้ว ไข่ไก่แต่ละเบอร์ยังมีปริมาณไข่ขาวและไข่แดงที่แตกต่างกัน โดยไข่เบอร์ 0 จะมีปริมาณไข่ขาวและไข่แดงมากที่สุด ไข่เบอร์ 5 จะมีปริมาณไข่ขาวและไข่แดงน้อยที่สุด

ไข่ไก่แต่ละเบอร์จึงเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เบอร์ 0 เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการไข่ขาวและไข่แดงจำนวนมาก เช่น ขนมเค้ก ขนมปัง
  • เบอร์ 1 เหมาะกับการทำอาหารทั่วไป เช่น ผัด ต้ม ทอด
  • เบอร์ 2 เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการไข่แดงเข้มข้น เช่น ไข่เจียว ไข่ต้ม
  • เบอร์ 3 เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการไข่ขาวเข้มข้น เช่น ไข่ขาวทอด ไข่ขาวต้ม
  • เบอร์ 4 และ เบอร์ 5 เหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการไข่ปริมาณน้อย เช่น ไข่ดาว ไข่ลูกเขย

การเลือกซื้อไข่ไก่จึงควรเลือกเบอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ได้อาหารที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ตรงตามต้องการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook